รับมืออาการบาดเจ็บ ข้อเท้าพลิก ข้อเท้าแพลง

หลายครั้ง...ที่คนเราประสบปัญหา ข้อเท้าพลิกและข้อเท้าแพลง

   ข้อเท้าพลิก ข้อเท้าแพลง เป็นการบาดเจ็บที่พบได้บ่อยที่สุดอย่างหนึ่งของเท้าและข้อเท้า ซึ่งสามารถเกิดได้กับทุกเพศทุกวัย แต่จะพบมากในนักกีฬาและคนที่ใช้ข้อเท้ามากกว่าคนปกติ โดยการเดินบนพื้นที่ไม่เรียบ ตกลงมาจากที่สูง หรือแม้แต่การใส่ส้นสูง ก็ล้วนแล้วแต่เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดข้อเท้าพลิก ข้อเท้าแพลงได้ทั้งสิ้น มีผู้ป่วยจำนวนมากได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นข้อเท้าพลิก ข้อเท้าแพลง แต่หลังจากได้รับการรักษาแล้วแต่ยังมีอาการเจ็บต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจเนื่องมาจากวินิจฉัยที่ไม่ถูกต้อง การบริหารที่ไม่เหมาะสมหรืออาการฉีกขาดที่รุนแรงมาก

อาการบาดเจ็บที่มักเข้าใจผิดว่าข้อเท้าพลิก ข้อเท้าแพลง

1. ข้อเท้าแพลงแบบสูง

2. กระดูกแตกภายในเท้าหรือข้อเท้า

3. ผิวกระดูกอ่อนข้อเท้าบาดเจ็บ

3 ระดับความรุนแรง ข้อเท้าพลิก ข้อเท้าแพลง

ระดับ 1 การบาดเจ็บภายในเส้นเอ็น แบบไม่มีการฉีกขาดให้เห็น

ระดับ 2 มีการฉีกขาดบางส่วนของเส้นเอ็น

ระดับ 3 มีการฉีกขาดแบบสมบูรณ์

ปฐมพยาบาลข้อเท้าพลิก ข้อเท้าแพลง

   ทำได้โดยการประคบเย็น ยกเท้าสูง และการทำให้ข้อไม่เคลื่อนไหว แพทย์อาจพิจารณาให้ใส่เฝือกระยะสั้นๆ หรือใช้อุปกรณ์ประคองข้อเท้าในช่วงแรก ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการบาดเจ็บ แต่ผู้ป่วยที่เป็นนักกีฬาที่ใช้ข้อเท้ามาก อาจต้องพิจารณารักษาโดยการผ่าตัด

การดูแลข้อเท้า ด้วยการบริหาร

   หลังจากข้อเท้าและเส้นเอ็นไม่มีอาการบวม และอาการเจ็บปวดลดลงแล้ว (ประมาณ 3-4 วัน หลังบาดเจ็บ) ควรทำการบริหารกล้ามเนื้อรอบข้อเท้า ดังนี้

การยืดเอ็นร้อยหวาย ด้วย 3 ท่าง่ายๆ

ที่ 1 ยืนโดยใช้มือดันผนัง ก้าวขาที่ต้องการยืดไปด้านหลังส้นเท้าติดพื้น
ย่อเข่าหน้าจนรู้สึกตึงขาหลัง ทำค้างไว้ประมาณ 30 วินาที ทำซ้ำ 4-5 ครั้ง

​​​​

 

ท่าที่ 2 นั่งกับพื้น ใช้ผ้าขนหนูดึงเท้าเข้าหาตัวในท่าเข่าเหยียด                               ทำค้างไว้ประมาณ 30 วินาที ทำซ้ำ 4-5 ครั้ง

 

ท่าที่ 3 ยืดเอ็นร้อยหวาย โดยการยืนที่ขอบบันได ลักษณะดังภาพ                               ทำค้างประมาณ 30 วินาที ทำซ้ำ 4-5 ครั้ง

 

 

 


ชุดการยืดกล้ามเนื้อรอบข้อเท้าโดยการกระดกเกร็งข้อเท้าทุกด้าน

 

 

การบริหารความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบข้อเท้า โดยการใช้อุปกรณ์ช่วย

 

ท่าที่ 1 ถ่วงถุงทรายที่หลังเท้า

   นั่งห้อยขาข้างเตียง กระดกเท้าขึ้น-ลง ชุดละ 10-20 ครั้ง ทำซ้ำ 2-3 ชุด/วัน

ท่าที่ 2 สายบางคล้องข้างเท้า

 

   ให้คล้องยางด้านนอกกับเสาหรือขาโต๊ะ โดยให้ส้นเท้าเป็นจุดหมุนบิดเท้าออกด้านนอก ทำซ้ำ โดยคล้องสายยางทั้งด้านใน และด้านหลังเท้า ทำเซตละ 10-20 ครั้ง ในแต่ละท่า ทำซ้ำ 2-3 ชุด/วัน

 


การบริหารกล้ามเนื้อมัดเล็กรอบข้อเท้า การฝึกทรงตัว และการฝึกประสานงานของเส้นประสาท

   เมื่อข้อเท้ามีความแข็งแรงมากขึ้น (3-4 สัปดาห์) ให้ยืนบนพื้นที่มีความไม่มั่นคง เช่น กระดานกระดก หรือทรงตัวบนพื้นราบหรือหมอนแข็งๆ นานประมาณ 2-3 นาที/ครั้ง ทำซ้ำ 2-3 ชุด/วัน

 

 5 ข้อที่ควรระวัง

1. หลีกเลี่ยงการใส่รองเท้ามีส้น เนื่องจากทำให้เกิดการแพลงซ้ำได้ง่ายกว่า

2. เลือกรองเท้าที่มีความกว้างพอดีส้น จะช่วยทำให้ข้อเท้ามั่นคงมากขึ้น

3. ประคบเย็นบ่อยๆ ในช่วง 1 เดือนแรก จะทำให้อาการดีขึ้น

4. หลีกเลี่ยงการเล่นกีฬาที่ใช้กล้ามเนื้อข้อเท้า ลดความเสี่ยงการบาดเจ็บ

5. รอให้กล้ามเนื้อข้อเท้าหายดีก่อนที่จะกลับไปเล่นกีฬาซ้ำอีก เพื่อหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บซ้ำ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คลิก!! ศูนย์ออร์โธปิดิกส์ ชั้น 2 โซน A

หลายครั้ง...ที่คนเราประสบปัญหา ข้อเท้าพลิกและข้อเท้าแพลง

   ข้อเท้าพลิก ข้อเท้าแพลง เป็นการบาดเจ็บที่พบได้บ่อยที่สุดอย่างหนึ่งของเท้าและข้อเท้า ซึ่งสามารถเกิดได้กับทุกเพศทุกวัย แต่จะพบมากในนักกีฬาและคนที่ใช้ข้อเท้ามากกว่าคนปกติ โดยการเดินบนพื้นที่ไม่เรียบ ตกลงมาจากที่สูง หรือแม้แต่การใส่ส้นสูง ก็ล้วนแล้วแต่เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดข้อเท้าพลิก ข้อเท้าแพลงได้ทั้งสิ้น มีผู้ป่วยจำนวนมากได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นข้อเท้าพลิก ข้อเท้าแพลง แต่หลังจากได้รับการรักษาแล้วแต่ยังมีอาการเจ็บต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจเนื่องมาจากวินิจฉัยที่ไม่ถูกต้อง การบริหารที่ไม่เหมาะสมหรืออาการฉีกขาดที่รุนแรงมาก

อาการบาดเจ็บที่มักเข้าใจผิดว่าข้อเท้าพลิก ข้อเท้าแพลง

1. ข้อเท้าแพลงแบบสูง

2. กระดูกแตกภายในเท้าหรือข้อเท้า

3. ผิวกระดูกอ่อนข้อเท้าบาดเจ็บ

3 ระดับความรุนแรง ข้อเท้าพลิก ข้อเท้าแพลง

ระดับ 1 การบาดเจ็บภายในเส้นเอ็น แบบไม่มีการฉีกขาดให้เห็น

ระดับ 2 มีการฉีกขาดบางส่วนของเส้นเอ็น

ระดับ 3 มีการฉีกขาดแบบสมบูรณ์

ปฐมพยาบาลข้อเท้าพลิก ข้อเท้าแพลง

   ทำได้โดยการประคบเย็น ยกเท้าสูง และการทำให้ข้อไม่เคลื่อนไหว แพทย์อาจพิจารณาให้ใส่เฝือกระยะสั้นๆ หรือใช้อุปกรณ์ประคองข้อเท้าในช่วงแรก ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการบาดเจ็บ แต่ผู้ป่วยที่เป็นนักกีฬาที่ใช้ข้อเท้ามาก อาจต้องพิจารณารักษาโดยการผ่าตัด

การดูแลข้อเท้า ด้วยการบริหาร

   หลังจากข้อเท้าและเส้นเอ็นไม่มีอาการบวม และอาการเจ็บปวดลดลงแล้ว (ประมาณ 3-4 วัน หลังบาดเจ็บ) ควรทำการบริหารกล้ามเนื้อรอบข้อเท้า ดังนี้

การยืดเอ็นร้อยหวาย ด้วย 3 ท่าง่ายๆ


ท่าที่ 1 ยืนโดยใช้มือดันผนัง ก้าวขาที่ต้องการยืดไปด้านหลังส้นเท้าติดพื้น ย่อเข่าหน้าจนรู้สึกตึงขาหลัง ทำค้างไว้ประมาณ 30 วินาที ทำซ้ำ 4-5 ครั้ง

ท่าที่ 2 นั่งกับพื้น ใช้ผ้าขนหนูดึงเท้าเข้าหาตัวในท่าเข่าเหยียด ทำค้างไว้ประมาณ 30 วินาที ทำซ้ำ 4-5 ครั้ง

ท่าที่ 3 ยืดเอ็นร้อยหวาย โดยการยืนที่ขอบบันได ลักษณะดังภาพ ทำค้างประมาณ 30 วินาที ทำซ้ำ 4-5 ครั้ง


ชุดการยืดกล้ามเนื้อรอบข้อเท้าโดยการกระดกเกร็งข้อเท้าทุกด้าน


การบริหารความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบข้อเท้า โดยการใช้อุปกรณ์ช่วย

ท่าที่ 1 ถ่วงถุงทรายที่หลังเท้า

   นั่งห้อยขาข้างเตียง กระดกเท้าขึ้น-ลง ชุดละ 10-20 ครั้ง ทำซ้ำ 2-3 ชุด/วัน

ท่าที่ 2 สายบางคล้องข้างเท้า

   ให้คล้องยางด้านนอกกับเสาหรือขาโต๊ะ โดยให้ส้นเท้าเป็นจุดหมุนบิดเท้าออกด้านนอก ทำซ้ำ โดยคล้องสายยางทั้งด้านใน และด้านหลังเท้า ทำเซตละ 10-20 ครั้ง ในแต่ละท่า ทำซ้ำ 2-3 ชุด/วัน

 


การบริหารกล้ามเนื้อมัดเล็กรอบข้อเท้า การฝึกทรงตัว และการฝึกประสานงานของเส้นประสาท

   เมื่อข้อเท้ามีความแข็งแรงมากขึ้น (3-4 สัปดาห์) ให้ยืนบนพื้นที่มีความไม่มั่นคง เช่น กระดานกระดก หรือทรงตัวบนพื้นราบหรือหมอนแข็งๆ นานประมาณ 2-3 นาที/ครั้ง ทำซ้ำ 2-3 ชุด/วัน

 5 ข้อที่ควรระวัง

1. หลีกเลี่ยงการใส่รองเท้ามีส้น เนื่องจากทำให้เกิดการแพลงซ้ำได้ง่ายกว่า

2. เลือกรองเท้าที่มีความกว้างพอดีส้น จะช่วยทำให้ข้อเท้ามั่นคงมากขึ้น

3. ประคบเย็นบ่อยๆ ในช่วง 1 เดือนแรก จะทำให้อาการดีขึ้น

4. หลีกเลี่ยงการเล่นกีฬาที่ใช้กล้ามเนื้อข้อเท้า ลดความเสี่ยงการบาดเจ็บ

5. รอให้กล้ามเนื้อข้อเท้าหายดีก่อนที่จะกลับไปเล่นกีฬาซ้ำอีก เพื่อหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บซ้ำ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คลิก!! ศูนย์ออร์โธปิดิกส์ ชั้น 2 โซน A


ค้นหาแพทย์

สาระสุขภาพ

ศูนย์รักษาโรคเฉพาะทาง