Q&A พิษสุนัขบ้า อย่าชะล่าใจ

    โรคพิษสุนัขบ้า เป็นโรคที่เกิดขึ้นในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิด เช่น สุนัข แมว หนู กระต่าย กระรอก เป็นต้น เมื่อแพร่เชื้อสู่คนโดยถูกกัด ข่วน น้ำลายเข้าทางเยื่อบุตา จมูก ปาก หรือรอยแผลถลอก จากการถูกเลีย หรือน้ำลายกระเด็นใส่ จะเกิดอาการเบื่ออาหาร เจ็บคอ มีไข้ คันที่แผล และบริเวณใกล้เคียง กลัวแสง กลัวน้ำ ต่อมาจะมีอาการปวดท้องน้อย กล้ามเนื้อกระตุก แน่นหน้าอก หายใจขัด เป็นอัมพาต หมดสติ และเสียชีวิตในที่สุด แล้วเราจะป้องกัน และรักษาโรคพิษสุนัขบ้าได้อย่างไร?

คำถาม - คำตอบ จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ 

1. โรคพิษสุนัขบ้าเกิดจากอะไร?

    จากการติดเชื้อไวรัส (Rabies) ซึ่งเชื้อมักจะเข้าไปติดในระบบประสาท เช่น เส้นประสาท หรือสมองของ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น สุนัข แมว หนู กระรอก กระแต วัว ควาย ค้างคาว เป็นต้น สามารถติดต่อได้จากการถูกสัตว์ที่เป็นโรคกัด โดยเชื้อไวรัสจากน้ำลายสัตว์ที่เป็นโรคจะเข้าสู่ร่างกายทางบาดแผลที่ถูกกัด หรือถูกสัตว์ที่เป็นโรคเลียบริเวณผิวหนังที่มีบาดแผลหรือรอยถลอก

2. สัตว์ที่ติดเชื้อพิษสุนัขบ้ามีอาการอย่างไร?

    ส่วนใหญ่จะเริ่มมีอาการทางระบบประสาท เช่น หงุดหงิดง่าย ลุกลี้ลุกลน กระสับกระส่าย หรือไล่กัดสัตว์ตัวอื่น หรือกัดคนโดยที่ไม่มีสาเหตุอันสมควร หากอาการเป็นมากขึ้นอาจซึม มีอาการชักเกร็งและตายในที่สุด

3. คนที่ติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้ามีอาการอย่างไร?

    การฝักตัวของเชื้อโดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์จนถึง 3 เดือน อาการเริ่มแรกคล้ายการโดนเชื้อไวรัสทั่วไป เช่น มีไข้ ปวดศีรษะ มีอาการกระสับกระส่าย ครั่นเนื้อครั่นตัว อาจมีอาการคันบริเวณแผลที่ถูกกัด ปวดแสบปวดร้อน หลังจากนั้นจะเริ่มมีอาการทางระบบประสาท หงุดหงิดง่าย ลุกลี้ลุกลน กลัวลม (เมื่อได้ยินเสียงลมอาจมีอาการสะดุ้งเนื่องจากระบบประสาทไวกว่าปกติ) เมื่อเป็นมากขึ้นจะมีอาการเกร็งกระตุกของกล้ามเนื้อ กลืนอาหารได้ลำบากโดยเฉพาะของเหลว อาจมีอาการทางจิตออกมาด้วย เช่น ควบคุมตนเองไม่ได้ อาการระยะท้ายๆ อาจหมดสติและเสียชีวิตทุกราย

4. ในกรณีที่ถูกสัตว์กัดหรือข่วนควรปฏิบัติตัวเบื้องต้นอย่างไร? (ทั้งผู้ที่ถูกกัดและสัตว์ที่กัด)

  • ควรรีบทำความสะอาดแผลให้เร็วที่สุด โดยการล้างน้ำและฟอกสบู่ให้สะอาด หากมีแอลกอฮอลหรือยาฆ่าเชื้อสามารถใช้ล้างแผลแล้วรีบมาโรงพยาบาลในทันทีเพื่อให้แพทย์ประเมินบาดแผลและพิจารณาการให้วัคซีน/เซรุ่ม
  • สัตว์ที่กัด หากเป็นสัตว์ที่เราเลี้ยงให้กักบริเวณไว้เป็นเวลา 10 วันเพื่อสังเกตอาการ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์อายุกรรม ชั้น 2 โซน D

    โรคพิษสุนัขบ้า เป็นโรคที่เกิดขึ้นในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิด เช่น สุนัข แมว หนู กระต่าย กระรอก เป็นต้น เมื่อแพร่เชื้อสู่คนโดยถูกกัด ข่วน น้ำลายเข้าทางเยื่อบุตา จมูก ปาก หรือรอยแผลถลอก จากการถูกเลีย หรือน้ำลายกระเด็นใส่ จะเกิดอาการเบื่ออาหาร เจ็บคอ มีไข้ คันที่แผล และบริเวณใกล้เคียง กลัวแสง กลัวน้ำ ต่อมาจะมีอาการปวดท้องน้อย กล้ามเนื้อกระตุก แน่นหน้าอก หายใจขัด เป็นอัมพาต หมดสติ และเสียชีวิตในที่สุด แล้วเราจะป้องกัน และรักษาโรคพิษสุนัขบ้าได้อย่างไร?

คำถาม - คำตอบ จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ 

1. โรคพิษสุนัขบ้าเกิดจากอะไร?

    จากการติดเชื้อไวรัส (Rabies) ซึ่งเชื้อมักจะเข้าไปติดในระบบประสาท เช่น เส้นประสาท หรือสมองของ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น สุนัข แมว หนู กระรอก กระแต วัว ควาย ค้างคาว เป็นต้น สามารถติดต่อได้จากการถูกสัตว์ที่เป็นโรคกัด โดยเชื้อไวรัสจากน้ำลายสัตว์ที่เป็นโรคจะเข้าสู่ร่างกายทางบาดแผลที่ถูกกัด หรือถูกสัตว์ที่เป็นโรคเลียบริเวณผิวหนังที่มีบาดแผลหรือรอยถลอก

2. สัตว์ที่ติดเชื้อพิษสุนัขบ้ามีอาการอย่างไร?

    ส่วนใหญ่จะเริ่มมีอาการทางระบบประสาท เช่น หงุดหงิดง่าย ลุกลี้ลุกลน กระสับกระส่าย หรือไล่กัดสัตว์ตัวอื่น หรือกัดคนโดยที่ไม่มีสาเหตุอันสมควร หากอาการเป็นมากขึ้นอาจซึม มีอาการชักเกร็งและตายในที่สุด

3. คนที่ติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้ามีอาการอย่างไร?

    การฝักตัวของเชื้อโดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์จนถึง 3 เดือน อาการเริ่มแรกคล้ายการโดนเชื้อไวรัสทั่วไป เช่น มีไข้ ปวดศีรษะ มีอาการกระสับกระส่าย ครั่นเนื้อครั่นตัว อาจมีอาการคันบริเวณแผลที่ถูกกัด ปวดแสบปวดร้อน หลังจากนั้นจะเริ่มมีอาการทางระบบประสาท หงุดหงิดง่าย ลุกลี้ลุกลน กลัวลม (เมื่อได้ยินเสียงลมอาจมีอาการสะดุ้งเนื่องจากระบบประสาทไวกว่าปกติ) เมื่อเป็นมากขึ้นจะมีอาการเกร็งกระตุกของกล้ามเนื้อ กลืนอาหารได้ลำบากโดยเฉพาะของเหลว อาจมีอาการทางจิตออกมาด้วย เช่น ควบคุมตนเองไม่ได้ อาการระยะท้ายๆ อาจหมดสติและเสียชีวิตทุกราย

4. ในกรณีที่ถูกสัตว์กัดหรือข่วนควรปฏิบัติตัวเบื้องต้นอย่างไร? (ทั้งผู้ที่ถูกกัดและสัตว์ที่กัด)

  • ควรรีบทำความสะอาดแผลให้เร็วที่สุด โดยการล้างน้ำและฟอกสบู่ให้สะอาด หากมีแอลกอฮอลหรือยาฆ่าเชื้อสามารถใช้ล้างแผลแล้วรีบมาโรงพยาบาลในทันทีเพื่อให้แพทย์ประเมินบาดแผลและพิจารณาการให้วัคซีน/เซรุ่ม
  • สัตว์ที่กัด หากเป็นสัตว์ที่เราเลี้ยงให้กักบริเวณไว้เป็นเวลา 10 วันเพื่อสังเกตอาการ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์อายุกรรม ชั้น 2 โซน D


ค้นหาแพทย์

สาระสุขภาพ

ศูนย์รักษาโรคเฉพาะทาง