logo
ท้องผูกในเด็ก ปัญหาเรื่องการขับถ่ายที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรมองข้าม

ท้องผูกในเด็ก ปัญหาเรื่องการขับถ่ายที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรมองข้าม

ปัญหาเรื่องของการขับถ่ายในเด็กทารก สามารถเกิดได้เช่นเดียวกับวัยอื่น และอาจมีความเสี่ยงสูงกว่า เพราะระบบย่อยอาหารในเด็กยังไม่แข็งแรงเท่ากับวัยอื่น เมื่อเกิดขึ้นแล้วอาการอาจรุนแรงกว่าในวัยอื่น จึงต้องระวังมากเป็นพิเศษ แต่ไม่ควรกังวลมากเกินไป เช่น การสังเกตอาการท้องผูกในเด็ก ไม่จำเป็นต้องนับจำนวนครั้ง แต่ให้สังเกตลักษณะของอุจจาระเด็กจะถ่ายเป็นก้อนแข็ง อาจมีเลือดปนเล็กน้อย ร้องไห้งอแงขณะเบ่งถ่าย และอุจจาระเป็นลูกกระสุน

ภาวะท้องผูกในเด็ก

คือ ภาวะที่เด็กมีการถ่ายอุจจาระก้อนใหญ่ หรือเป็นเม็ดแข็งคล้ายกระสุน ต้องใช้แรงเบ่งมากกว่าปกติ โดยสังเกตได้จากการร้องไห้งอแงขณะขับถ่าย อาจถ่ายอุจจาระมีเลือดปน และขับถ่ายน้อยกว่าหรือเท่ากับ 2 ครั้งต่อสัปดาห์

แรกเกิด

ลักษณะและความถี่ของอุจจาระขึ้นอยู่กับวัย, ลักษณะของอาหาร, ความถี่และปริมาณที่รับประทาน

สาเหตุของอาการท้องผูกในเด็ก

ส่วนมากเกิดจากปัญหาพฤติกรรมของเด็ก เด็กมักมีพฤติกรรมการอั้นอุจจาระ ซึ่งเกิดจากการมีประสบการณ์ที่ไม่ดีกับการขับถ่าย อาจมีอาการเจ็บขณะขับถ่าย ซึ่งมักเกิดตามหลังจากการเจ็บป่วย หรือการดูแลเด็กที่มีการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง เช่น การเปลี่ยนนมไปเป็นอาหารเสริม การเปลี่ยนพฤติกรรมจากเดิมที่เคยอยู่บ้าน เข้าสู่โรงเรียน อาจส่งผลให้เด็กมีพฤติกรรมการอั้นอุจจาระได้

ผลกระทบทั้งด้านร่างกาย

ทำให้เกิดแผลฉีกขาดที่บริเวณหูรูดทวารหนัก เนื่องจากขนาดและลักษณะของอุจจาระ ซึ่งหากเกิดแผลฉีกขาดซ้ำ ๆ อาจทำให้เกิดก้อนติ่งเนื้อ จนคุณพ่อคุณแม่บางท่านอาจเข้าใจผิดว่าเป็นริดสีดวงทวารได้ นอกจากนี้ อุจจาระที่คั่งค้างอยู่ภายในลำไส้ อาจส่งผลให้เกิดอาการปวดท้องเรื้อรัง เด็กรู้สึกอืดท้อง แน่นท้อง ทำให้รับประทานอาหารได้น้อยลง ส่งผลกระทบต่อเรื่องการเจริญเติบโตและน้ำหนักตัวได้

ผลกระทบทางด้านจิตใจ

เด็กที่มีอาการท้องผูกเรื้อรัง อาจมีปัญหาอุจจาระเล็ด ทำให้อุจจารเปื้อนกางเกง จนเด็กสูญเสียความมั่นใจ และรู้สึกอับอาย จนกลายเป็นบาดแผลในจิตใจได้

การดูแลรักษา

ต้องใช้วิธีการปรับพฤติกรรมร่วมกับการรับประทานยา ที่จะให้อุจจาระนุ่มขึ้น ทั้งนี้คุณพ่อคุณแม่ควรส่งเสริมให้ลูกรับประทานผักและผลไม้ให้มากขึ้น ในปริมาณที่เหมาะสมตามวัย นอกจากนี้ การรับประทานนมที่มากเกิน มีส่วนที่ทำให้เด็กเกิดอาการท้องผูกได้ โดยปริมาณนมที่เด็กควรรับประทานต่อวัน จะแบ่งตามช่วงวัย

ภาวะท้องผูก แม้ดูไม่ได้เป็นโรคที่ร้ายแรง แต่คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ควรมองข้าม! หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของลูกทั้งทางร่างกายและจิตใจได้ วิธีการดูแลเด็กที่มีปัญหาท้องผูกที่ดีที่สุด คือ “การป้องกัน” คุณพ่อคุณแม่ควรดูแลเกี่ยวกับการรับประทานอาหาร ส่งเสริมให้รับประทานผัก ผลไม้ ตั้งแต่อายุน้อย เพื่อปลูกฝังพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ถูกต้อง รวมถึงนมที่รับประทานต่อวัน ควรให้รับประทานในปริมาณที่เหมาะสมด้วยเช่นกัน

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

1. จะรู้ได้อย่างไรว่าลูกท้องผูก?

ให้สังเกตที่ลักษณะอุจจาระเป็นหลัก หากอุจจาระแข็งเป็นเม็ดกระสุน ถ่ายไม่ออก หรือถ่ายน้อยกว่า 2 ครั้งต่อสัปดาห์ร่วมกับอาการงอแงขณะถ่าย ถือว่ามีภาวะท้องผูก

2. วิธีรักษาและป้องกันท้องผูกในเด็กทำอย่างไร?

ใช้วิธีปรับพฤติกรรมร่วมกับการใช้ยาทำให้อุจจาระนุ่มขึ้นตามคำแนะนำของแพทย์ เน้นการรับประทานผักผลไม้ให้เหมาะสมตามวัย และควบคุมปริมาณการดื่มนมไม่ให้มากเกินไป

ข้อมูลจาก : พญ.สลักจิต ราษฎร์อาศัย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์เด็ก ชั้น 3 โซน E

บทความที่เกี่ยวข้อง

 

 ปัญหาเรื่องของการขับถ่ายในเด็กทารก สามารถเกิดได้เช่นเดียวกับวัยอื่น และอาจมีความเสี่ยงสูงกว่า เพราะระบบย่อยอาหารในเด็กยังไม่แข็งแรงเท่ากับวัยอื่น เมื่อเกิดขึ้นแล้วอาการอาจรุนแรงกว่าในวัยอื่น จึงต้องระวังมากเป็นพิเศษ แต่ไม่ควรกังวลมากเกินไป เช่น การสังเกตอาการท้องผูกในเด็ก ไม่จำเป็นต้องนับจำนวนครั้ง แต่ให้สังเกตลักษณะของอุจจาระเด็กจะถ่ายเป็นก้อนแข็ง อาจมีเลือดปนเล็กน้อย ร้องไห้งอแงขณะเบ่งถ่าย และอุจจาระเป็นลูกกระสุน

ภาวะท้องผูกในเด็ก

คือ ภาวะที่เด็กมีการถ่ายอุจจาระก้อนใหญ่ หรือเป็นเม็ดแข็งคล้ายกระสุน ต้องใช้แรงเบ่งมากกว่าปกติ โดยสังเกตได้จากการร้องไห้งอแงขณะขับถ่าย อาจถ่ายอุจจาระมีเลือดปน และขับถ่ายน้อยกว่าหรือเท่ากับ 2 ครั้งต่อสัปดาห์

แรกเกิด

ลักษณะและความถี่ของอุจจาระขึ้นอยู่กับวัย, ลักษณะของอาหาร, ความถี่และปริมาณที่รับประทาน

สาเหตุของอาการท้องผูกในเด็ก

ส่วนมากเกิดจากปัญหาพฤติกรรมของเด็ก เด็กมักมีพฤติกรรมการอั้นอุจจาระ ซึ่งเกิดจากการมีประสบการณ์ที่ไม่ดีกับการขับถ่าย อาจมีอาการเจ็บขณะขับถ่าย ซึ่งมักเกิดตามหลังจากการเจ็บป่วย หรือการดูแลเด็กที่มีการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง เช่น การเปลี่ยนนมไปเป็นอาหารเสริม การเปลี่ยนพฤติกรรมจากเดิมที่เคยอยู่บ้าน เข้าสู่โรงเรียน อาจส่งผลให้เด็กมีพฤติกรรมการอั้นอุจจาระได้

ผลกระทบทั้งด้านร่างกาย

ทำให้เกิดแผลฉีกขาดที่บริเวณหูรูดทวารหนัก เนื่องจากขนาดและลักษณะของอุจจาระ ซึ่งหากเกิดแผลฉีกขาดซ้ำ ๆ อาจทำให้เกิดก้อนติ่งเนื้อ จนคุณพ่อคุณแม่บางท่านอาจเข้าใจผิดว่าเป็นริดสีดวงทวารได้ นอกจากนี้ อุจจาระที่คั่งค้างอยู่ภายในลำไส้ อาจส่งผลให้เกิดอาการปวดท้องเรื้อรัง เด็กรู้สึกอืดท้อง แน่นท้อง ทำให้รับประทานอาหารได้น้อยลง ส่งผลกระทบต่อเรื่องการเจริญเติบโตและน้ำหนักตัวได้

ผลกระทบทางด้านจิตใจ

เด็กที่มีอาการท้องผูกเรื้อรัง อาจมีปัญหาอุจจาระเล็ด ทำให้อุจจารเปื้อนกางเกง จนเด็กสูญเสียความมั่นใจ และรู้สึกอับอาย จนกลายเป็นบาดแผลในจิตใจได้

การดูแลรักษา

ต้องใช้วิธีการปรับพฤติกรรมร่วมกับการรับประทานยา ที่จะให้อุจจาระนุ่มขึ้น ทั้งนี้คุณพ่อคุณแม่ควรส่งเสริมให้ลูกรับประทานผักและผลไม้ให้มากขึ้น ในปริมาณที่เหมาะสมตามวัย นอกจากนี้ การรับประทานนมที่มากเกิน มีส่วนที่ทำให้เด็กเกิดอาการท้องผูกได้ โดยปริมาณนมที่เด็กควรรับประทานต่อวัน จะแบ่งตามช่วงวัย

ภาวะท้องผูก แม้ดูไม่ได้เป็นโรคที่ร้ายแรง แต่คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ควรมองข้าม! หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของลูกทั้งทางร่างกายและจิตใจได้ วิธีการดูแลเด็กที่มีปัญหาท้องผูกที่ดีที่สุด คือ “การป้องกัน” คุณพ่อคุณแม่ควรดูแลเกี่ยวกับการรับประทานอาหาร ส่งเสริมให้รับประทานผัก ผลไม้ ตั้งแต่อายุน้อย เพื่อปลูกฝังพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ถูกต้อง รวมถึงนมที่รับประทานต่อวัน ควรให้รับประทานในปริมาณที่เหมาะสมด้วยเช่นกัน

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

1. จะรู้ได้อย่างไรว่าลูกท้องผูก?

ให้สังเกตที่ลักษณะอุจจาระเป็นหลัก หากอุจจาระแข็งเป็นเม็ดกระสุน ถ่ายไม่ออก หรือถ่ายน้อยกว่า 2 ครั้งต่อสัปดาห์ร่วมกับอาการงอแงขณะถ่าย ถือว่ามีภาวะท้องผูก

2. วิธีรักษาและป้องกันท้องผูกในเด็กทำอย่างไร?

ใช้วิธีปรับพฤติกรรมร่วมกับการใช้ยาทำให้อุจจาระนุ่มขึ้นตามคำแนะนำของแพทย์ เน้นการรับประทานผักผลไม้ให้เหมาะสมตามวัย และควบคุมปริมาณการดื่มนมไม่ให้มากเกินไป

ข้อมูลจาก : พญ.สลักจิต ราษฎร์อาศัย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์เด็ก ชั้น 3 โซน E

บทความที่เกี่ยวข้อง