logo
การสวมหน้ากากอนามัยในเด็ก

การสวมหน้ากากอนามัยในเด็ก

ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดต่อในระบบทางเดินหายใจ เช่น RSV, HMPV และ Covid 19 การสวมหน้ากากอนามัยที่ได้มาตรฐานจัดเป็นวิธีช่วยป้องกันการแพร่กระจายเชื้อในระบบทางเดินหายใจจากตัวผู้ติดเชื้อ และยังป้องกันการรับเชื้อในผู้สวมใส่หน้ากากอนามัยที่มีโอกาสสัมผัสกับผู้ป่วยที่มีอาการไอ หรือจาม ที่อยู่ในระยะห่างไม่ถึง 2 เมตร  นอกจากนี้การใส่หน้ากากอนามัยช่วยลดการสัมผัสกับฝุ่น PM 2.5 ได้บางช่วงที่มีสถานการณ์ฝุ่น pm 2.5 แม้จะไม่เทียบเท่ากับการสวมหน้ากาก N95 โดยเฉพาะ การสวมหน้ากากอนามัยในเด็ก

เป็นที่ทราบดีว่ากลุ่มทารกแรกเกิด และเด็กเล็ก จัดเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องให้ความสำคัญในการป้องกันเป็นพิเศษ แต่ด้วยสรีระของทางเดินหายใจ และกลไกการหายใจที่แตกต่างจากผู้ใหญ่ ผู้ปกครองจึงควรเลือกสวมหน้ากากป้องกันให้เหมาะสมกับช่วงอายุของเด็ก 

อายุเท่าไหร่ควรสวมหน้ากาก?

เด็กทารกแรกเกิด ถึง 1 ปี 

ไม่ควรสวมหน้ากาก เพราะทารกยังมีระบบหายใจที่ไม่แข็งแรงพอ เสี่ยงกับภาวะคาร์บอนไดออกไซด์คั่งเกิดอันตรายต่อระบบประสาทของทารกได้ และในกรณีการสวมวัสดุพลาสติกบังหน้าทารก ความคมของพลาสติกอาจบาดใบหน้าหรือดวงตาของทารก รวมทั้งเชือกหรือยางรัดก็เพิ่มความเสี่ยงในการพันรอบคอทารก ทำให้ขาดอากาศหายใจได้ 

  • การดูแลจึงเน้นเป็นการเว้นระยะห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 2 เมตร
  • งดการหอมแก้มหรือสัมผัสใกล้ชิดกับเด็กโดยไม่จำเป็น
  • ผู้ปกครองควรอุ้มเด็กแนบกับอก หรือใส่รถเข็นที่มีผ้าคลุมปิดหากจำเป็นต้องเดินทางออกนอกบ้าน 

เด็กอายุ 1 ถึง 2 ปี  

  • ในวัยนี้เด็กบางคนสามารถถอดหน้ากากอนามัยได้เองเมื่อรู้สึกอึดอัด
  • หากจำเป็นต้องใส่หน้ากากควรใช้ด้วยความระมัดระวัง และใส่ในระยะเวลาสั้นที่สุด

เด็กอายุมากกว่า 2 ปี  

  • สามารถสวมใส่หน้ากากได้ สามารถถอดหน้ากากออกได้เองเมื่อรู้สึกอึดอัด
  • ยกเว้นเด็กกลุ่มที่มีความบกพร่องทางสมองหรือ ระบบทางเดินหายใจ

เด็กที่มีโรคประจำตัวที่ต้องการดูแลเป็นพิเศษ

  • โดยเฉพาะโรคทางระบบประสาท หรือทางเดินหายใจบกพร่องรุนแรงที่ไม่สามารถใช้หน้ากากอนามัยได้
  • ผู้ปกครองควรเคร่งครัดเรื่องระยะห่าง การใช้รถเข็นที่มีผ้าคลุมปิด
  • สามารถใช้เครื่องมือวิเคราะห์ความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดแดงช่วยในการเฝ้าระวัง ร่วมด้วยได้

วิธีชวนลูกใส่หน้ากาก

  • ผู้ปกครองควรสวมใส่หน้ากากอนามัยด้วย เพื่อให้เด็กไม่รู้สึกโดดเดี่ยว แปลกแยก
  • ขณะสวมหน้ากากอนามัย ลองให้เด็กส่องกระจก และพูดคุยเกี่ยวกับการใส่หน้ากากอนามัย
  • ลองสวมหน้ากากให้กับตุ๊กตา หรือวาดรูปหน้ากากบนการ์ตูนที่เด็กชอบ
  • ให้เด็กดูรูปเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันที่สวมหน้ากาก 
  • เล่นตกแต่งหน้ากากให้เป็นรูปต่าง ๆ เพื่อความสนุกสนาน
  • ควรให้เริ่มลองสวมหน้ากากอนามัยที่บ้านก่อนเสมอ

ในเด็กอายุ < 3 ปี ควรอธิบายอย่างง่ายๆ ว่าทำไมถึงต้องใส่หน้ากากอนามัย และเน้นย้ำว่าจำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยเพื่อความปลอดภัย เมื่อเด็กเข้าใจก็จะรู้สึกอุ่นใจที่จะใช้หน้ากาก

ในเด็กอายุ > 3 ปี  ควรเน้นอธิบายเรื่องเชื้อโรค เนื่องจากวัยนี้มีความเข้าใจในเรื่องเชื้อโรคมากขึ้นแล้ว เชื้อบางอย่างทำให้เด็กป่วยได้ ดังนั้น จึงควรใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกัน

ข้อมูลจาก : พญ. นุจรี ขาวฉวีรัตนชาติ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์เด็ก ชั้น 3 โซน E

*เอกสารอ้างอิง
1. American Academy of Pediatrics, Mask and Children During COVID-19 (Critical Updates on COVID-19)
2. AnamaiMedia สื่อมัลติมีเดียกรมอนามัย เรื่อง กรมอนามัย แนะงดหอมแก้มเด็ก เลือกหน้ากากเหมาะกับวัย ลดการแพร่กระจายโควิด -19 โดย แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย

ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดต่อในระบบทางเดินหายใจ เช่น RSV, HMPV และ Covid 19 การสวมหน้ากากอนามัยที่ได้มาตรฐานจัดเป็นวิธีช่วยป้องกันการแพร่กระจายเชื้อในระบบทางเดินหายใจจากตัวผู้ติดเชื้อ และยังป้องกันการรับเชื้อในผู้สวมใส่หน้ากากอนามัยที่มีโอกาสสัมผัสกับผู้ป่วยที่มีอาการไอ หรือจาม ที่อยู่ในระยะห่างไม่ถึง 2 เมตร  นอกจากนี้การใส่หน้ากากอนามัยช่วยลดการสัมผัสกับฝุ่น PM 2.5 ได้บางช่วงที่มีสถานการณ์ฝุ่น pm 2.5 แม้จะไม่เทียบเท่ากับการสวมหน้ากาก N95

เป็นที่ทราบดีว่ากลุ่มทารกแรกเกิด และเด็กเล็ก จัดเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องให้ความสำคัญในการป้องกันเป็นพิเศษ แต่ด้วยสรีระของทางเดินหายใจ และกลไกการหายใจที่แตกต่างจากผู้ใหญ่ ผู้ปกครองจึงควรเลือกสวมหน้ากากป้องกันให้เหมาะสมกับช่วงอายุของเด็ก 

อายุเท่าไหร่ควรสวมหน้ากาก?

เด็กทารกแรกเกิด ถึง 1 ปี 

ไม่ควรสวมหน้ากาก เพราะทารกยังมีระบบหายใจที่ไม่แข็งแรงพอ เสี่ยงกับภาวะคาร์บอนไดออกไซด์คั่งเกิดอันตรายต่อระบบประสาทของทารกได้ และในกรณีการสวมวัสดุพลาสติกบังหน้าทารก ความคมของพลาสติกอาจบาดใบหน้าหรือดวงตาของทารก รวมทั้งเชือกหรือยางรัดก็เพิ่มความเสี่ยงในการพันรอบคอทารก ทำให้ขาดอากาศหายใจได้ 

  • การดูแลจึงเน้นเป็นการเว้นระยะห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 2 เมตร
  • งดการหอมแก้มหรือสัมผัสใกล้ชิดกับเด็กโดยไม่จำเป็น
  • ผู้ปกครองควรอุ้มเด็กแนบกับอก หรือใส่รถเข็นที่มีผ้าคลุมปิดหากจำเป็นต้องเดินทางออกนอกบ้าน 

เด็กอายุ 1 ถึง 2 ปี  

  • ในวัยนี้เด็กบางคนสามารถถอดหน้ากากอนามัยได้เองเมื่อรู้สึกอึดอัด
  • หากจำเป็นต้องใส่หน้ากากควรใช้ด้วยความระมัดระวัง และใส่ในระยะเวลาสั้นที่สุด

เด็กอายุมากกว่า 2 ปี  

  • สามารถสวมใส่หน้ากากได้ สามารถถอดหน้ากากออกได้เองเมื่อรู้สึกอึดอัด
  • ยกเว้นเด็กกลุ่มที่มีความบกพร่องทางสมองหรือ ระบบทางเดินหายใจ

เด็กที่มีโรคประจำตัวที่ต้องการดูแลเป็นพิเศษ

  • โดยเฉพาะโรคทางระบบประสาท หรือทางเดินหายใจบกพร่องรุนแรงที่ไม่สามารถใช้หน้ากากอนามัยได้
  • ผู้ปกครองควรเคร่งครัดเรื่องระยะห่าง การใช้รถเข็นที่มีผ้าคลุมปิด
  • สามารถใช้เครื่องมือวิเคราะห์ความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดแดงช่วยในการเฝ้าระวัง ร่วมด้วยได้

วิธีชวนลูกใส่หน้ากาก

  • ผู้ปกครองควรสวมใส่หน้ากากอนามัยด้วย เพื่อให้เด็กไม่รู้สึกโดดเดี่ยว แปลกแยก
  • ขณะสวมหน้ากากอนามัย ลองให้เด็กส่องกระจก และพูดคุยเกี่ยวกับการใส่หน้ากากอนามัย
  • ลองสวมหน้ากากให้กับตุ๊กตา หรือวาดรูปหน้ากากบนการ์ตูนที่เด็กชอบ
  • ให้เด็กดูรูปเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันที่สวมหน้ากาก 
  • เล่นตกแต่งหน้ากากให้เป็นรูปต่าง ๆ เพื่อความสนุกสนาน
  • ควรให้เริ่มลองสวมหน้ากากอนามัยที่บ้านก่อนเสมอ

ในเด็กอายุ < 3 ปี ควรอธิบายอย่างง่ายๆ ว่าทำไมถึงต้องใส่หน้ากากอนามัย และเน้นย้ำว่าจำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยเพื่อความปลอดภัย เมื่อเด็กเข้าใจก็จะรู้สึกอุ่นใจที่จะใช้หน้ากาก

ในเด็กอายุ > 3 ปี  ควรเน้นอธิบายเรื่องเชื้อโรค เนื่องจากวัยนี้มีความเข้าใจในเรื่องเชื้อโรคมากขึ้นแล้ว เชื้อบางอย่างทำให้เด็กป่วยได้ ดังนั้น จึงควรใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกัน

ข้อมูลจาก : พญ. นุจรี ขาวฉวีรัตนชาติ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์เด็ก ชั้น 3 โซน E

*เอกสารอ้างอิง
1. American Academy of Pediatrics, Mask and Children During COVID-19 (Critical Updates on COVID-19)
2. AnamaiMedia สื่อมัลติมีเดียกรมอนามัย เรื่อง กรมอนามัย แนะงดหอมแก้มเด็ก เลือกหน้ากากเหมาะกับวัย ลดการแพร่กระจายโควิด -19 โดย แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย