ไขมันทรานส์ตัวร้ายทำลายสุขภาพ (Trans Fat)

ไขมัน เป็นสารอาหารหลักที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย สามารถแบ่งประเภทตามโครงสร้าง กรดไขมันอิ่มตัว กรดไขมันไม่อิ่มตัว และไขมันทรานส์ โดยกรดไขมันแต่ละชนิดล้วนมีข้อดีและข้อเสียในเชิงสุขภาพ สำหรับกรดไขมันทรานส์เป็นกรดไขมันที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ โดยจะไปเพิ่มไขมันไม่ดีในเลือด (LDL-Cholesterol) และลดไขมันที่ดีในเลือด (HDL-Cholesterol) เพิ่มความเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด

แหล่งที่มาของไขมันทรานส์

  • ไขมันทรานส์ที่เกิดจากธรรมชาติ สามารถพบปริมาณเล็กน้อยในเนื้อสัตว์เคี้ยวเอื้อง เช่น วัว ควาย นมและผลิตภัณฑ์จากนม
  • ไขมันทรานส์ที่เกิดจากกระบวนการอุตสาหกรรม เกิดจากการปรับโครงสร้างของน้ำมันโดยการเติมไฮโดรเจนบางส่วน (Partially hydrogenated oil) เพื่อให้น้ำมันเป็นของแข็งในอุณหภูมิห้อง เก็บได้นาน ไม่มีกลิ่นเหม็นหืน พบได้ในมาการีน เนยขาว ครีมเทียม หรือในผลิตภัณฑ์เบเกอรี เช่น คุกกี้ โดนัท เค้ก พาย อาหารจานด่วน เช่น เฟรนช์ฟรายส์ แฮมเบอร์เกอร์ ขนมกรุบกรอบทั้งหลาย ซึ่งในปี 2562 กระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศ “ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่ายน้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วน และอาหารที่มีน้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วนเป็นส่วนประกอบ” ทำให้สบายใจได้ว่าอาหารที่ผ่านการรับรองแล้วจะไม่มีส่วนผสมของไขมันทรานส์

อาจพบการใช้น้ำมันที่เติมไฮโดรเจนโดยสมบูรณ์ (Fully hydrogenated oil) ในผลิตภัณฑ์อาหารบางประเภท ซึ่งกระบวนการนั้นไม่ได้ก่อให้เกิดไขมันทรานส์ แต่เป็นการเปลี่ยนไขมันไม่อิ่มตัวให้กลายเป็นไขมันอิ่มตัวเท่านั้นเอง

จากผลการสำรวจการบริโภคไขมันจำแนกตามชนิดของกรดไขมันของทั่วโลกในปี 2553 พบว่าคนไทยบริโภคไขมันทรานส์ คิดเป็นร้อยละ 0.75 – 0.99 ของพลังงานจากอาหารใน 1 วัน แต่บริโภคไขมันอิ่มตัวมากกว่าร้อยละ 16 ของพลังงานจากอาหารใน 1 วัน ซึ่งจากคำแนะนำของ AHA ที่ไม่ควรบริโภคไขมันอิ่มตัวเกินร้อยละ 7 ของพลังงานจากอาหารใน 1 วัน เพราะจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด

ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นไขมันทรานส์หรือไขมันอิ่มตัวล้วนเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดทั้งนั้น

ข้อมูลจาก นักกำหนดอาหาร แผนกโภชนาการ คลิก!! ติดตามข่าวสารกับนักกำหนดอาหาร

บทความที่เกี่ยวข้อง

 

ไขมัน เป็นสารอาหารหลักที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย สามารถแบ่งประเภทตามโครงสร้าง กรดไขมันอิ่มตัว กรดไขมันไม่อิ่มตัว และไขมันทรานส์ โดยกรดไขมันแต่ละชนิดล้วนมีข้อดีและข้อเสียในเชิงสุขภาพ สำหรับกรดไขมันทรานส์เป็นกรดไขมันที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ โดยจะไปเพิ่มไขมันไม่ดีในเลือด (LDL-Cholesterol) และลดไขมันที่ดีในเลือด (HDL-Cholesterol) เพิ่มความเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด

แหล่งที่มาของไขมันทรานส์

  • ไขมันทรานส์ที่เกิดจากธรรมชาติ สามารถพบปริมาณเล็กน้อยในเนื้อสัตว์เคี้ยวเอื้อง เช่น วัว ควาย นมและผลิตภัณฑ์จากนม
  • ไขมันทรานส์ที่เกิดจากกระบวนการอุตสาหกรรม เกิดจากการปรับโครงสร้างของน้ำมันโดยการเติมไฮโดรเจนบางส่วน (Partially hydrogenated oil) เพื่อให้น้ำมันเป็นของแข็งในอุณหภูมิห้อง เก็บได้นาน ไม่มีกลิ่นเหม็นหืน พบได้ในมาการีน เนยขาว ครีมเทียม หรือในผลิตภัณฑ์เบเกอรี เช่น คุกกี้ โดนัท เค้ก พาย อาหารจานด่วน เช่น เฟรนช์ฟรายส์ แฮมเบอร์เกอร์ ขนมกรุบกรอบทั้งหลาย ซึ่งในปี 2562 กระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศ “ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่ายน้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วน และอาหารที่มีน้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วนเป็นส่วนประกอบ” ทำให้สบายใจได้ว่าอาหารที่ผ่านการรับรองแล้วจะไม่มีส่วนผสมของไขมันทรานส์

อาจพบการใช้น้ำมันที่เติมไฮโดรเจนโดยสมบูรณ์ (Fully hydrogenated oil) ในผลิตภัณฑ์อาหารบางประเภท ซึ่งกระบวนการนั้นไม่ได้ก่อให้เกิดไขมันทรานส์ แต่เป็นการเปลี่ยนไขมันไม่อิ่มตัวให้กลายเป็นไขมันอิ่มตัวเท่านั้นเอง

จากผลการสำรวจการบริโภคไขมันจำแนกตามชนิดของกรดไขมันของทั่วโลกในปี 2553 พบว่าคนไทยบริโภคไขมันทรานส์ คิดเป็นร้อยละ 0.75 – 0.99 ของพลังงานจากอาหารใน 1 วัน แต่บริโภคไขมันอิ่มตัวมากกว่าร้อยละ 16 ของพลังงานจากอาหารใน 1 วัน ซึ่งจากคำแนะนำของ AHA ที่ไม่ควรบริโภคไขมันอิ่มตัวเกินร้อยละ 7 ของพลังงานจากอาหารใน 1 วัน เพราะจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด

ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นไขมันทรานส์หรือไขมันอิ่มตัวล้วนเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดทั้งนั้น

ข้อมูลจาก นักกำหนดอาหาร แผนกโภชนาการ คลิก!! ติดตามข่าวสารกับนักกำหนดอาหาร

บทความที่เกี่ยวข้อง

 


ค้นหาแพทย์

สาระสุขภาพ

ศูนย์รักษาโรคเฉพาะทาง