
ตรวจการนอนหลับ เช็กปัญหาการนอน ด้วย Sleep Test
การตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) เป็นการตรวจเพื่อสังเกตการทำงานของร่างกายขณะนอนหลับ ผลการตรวจช่วยการวินิจฉัยโรคและประเมินระดับความรุนแรงของโรคได้ เช่น โรคหยุดหายใจขณะหลับชนิดอุดกั้น การกระตุกของกล้ามเนื้อต่างๆ และพฤติกรรมที่ผิดปกติระหว่างการนอนหลับ ข้อมูลที่ได้จะนำมาพิจารณาวางแผนหรือติดตามการรักษาให้ถูกต้องได้
เมื่อไหร่? จึงควรเข้ารับการตรวจ Sleep Test
- นอนกรนดังผิดปกติ
- รู้สึกง่วงตอนกลางวันมากผิดปกติ ทั้งที่ได้นอนอย่างเพียงพอ
- สะดุ้งตื่น หายใจเหนื่อยตอนกลางคืน สงสัยมีการหยุดหายใจขณะหลับ
- มีคนสังเกตว่ามีพฤติกรรมผิดปกติขณะนอนหลับ เช่น นอนขากระตุก กัดฟัน ละเมอ หรือฝันร้าย
การเตรียมตัวก่อนตรวจ
- อาบน้ำสระผมให้สะอาดก่อนมาเข้ารับการตรวจ และไม่ใช้น้ำมันสเปรย์ใส่ผม
- งดการหลับในเวลากลางวัน ถ้าไม่ใช่สิ่งที่เคยทำประจำ
- ก่อนการตรวจ 5 ชั่วโมง ผู้ป่วยควรดื่มน้ำให้น้อยลง และรับประทานอาหารเย็นให้เรียบร้อยก่อนมาตรวจ
- งดดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเข้ารับการตรวจ 24 ชั่วโมง
- งดดื่มชา กาแฟ น้ำอัดลม และเครื่องดื่มกระตุ้นประสาทก่อนเข้ารับการตรวจอย่างน้อย 12 ชั่วโมง
- ถ้ามียาที่ต้องทานเป็นประจำควรปรึกษาแพทย์ก่อนว่าจำเป็นต้องงดหรือไม่
- ผู้ชายควรโกนหนวดให้เรียบร้อยก่อนมาตรวจ ผู้หญิงควรงดแต่งหน้าและทาเล็บ
- เตรียมเครื่องใช้ส่วนตัวที่จำเป็น เช่น แปรงสีฟัน ยาสีฟัน สำหรับล้างหน้าตอนเช้า ไม่ควรนำเครื่องประดับหรือของมีค่าติดตัวมาด้วย
รายละเอียดการตรวจ
- เป็นการตรวจที่ผู้ป่วยต้องมาพักค้างคืนที่โรงพยาบาลในช่วงเวลากลางคืน
- มีการติดอุปกรณ์ที่ใช้ติดตามการเปลี่ยนแปลงของร่างกายระหว่างการตรวจ
- ในระหว่างการตรวจจะมีการบันทึกวีดีโอ เพื่อสังเกตท่าทางการนอน และความผิดปกติทางพฤติกรรมที่อาจเกิดขึ้นขณะหลับ
- ในห้องควบคุมจะมีคอมพิวเตอร์รับสัญญาณที่ส่งมาจากผู้ป่วย เช่น คลื่นสมอง การหายใจ ค่าออกซิเจนในเลือด เป็นต้น รวมถึงภาพวีดีโอซึ่งเจ้าหน้าที่จะค่อยควบคุมการบันทึกให้เป็นไปอย่างเรียบร้อย ข้อมูลเหล่านี้จะถูกส่งต่อให้แพทย์เพื่อใช้ในการแปลผล
- การทดสอบนี้เป็นเพียงการรับสัญญาณตามธรรมชาติในร่างกายของมนุษย์ เช่น คลื่นสมอง การหายใจเข้า – ออก การกลอกตาขณะหลับ การเคลื่อนไหวของทรวงอกและหน้าท้อง เสียงกรน ท่านอน แรงดึงตัวของกล้ามเนื้อ คลื่นไฟฟ้าหัวใจและระดับออกซิเจน หรือคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือด
- การติดอุปกรณ์เพื่อรับสัญญาณไฟฟ้า จะเป็นเพียงแค่การใช้สายโลหะสัมผัสและยึดติดกับบริเวณผิวหนังในบริเวณต่างๆของร่างกายด้วยพลาสเตอร์จะไม่มีการเจาะหรือฝังอุปกรณ์ใดๆเข้าร่างกาย และจะไม่มีการส่งสัญญาณไฟฟ้าหรือคลื่นใดๆเข้าร่างกาย
- ในผู้ป่วยบางรายที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบว่ามีการหยุดหายใจขณะหลับ เนื่องจากทางเดินหายใจส่วนต้นยุบตัวรุนแรง เจ้าหน้าที่จะเข้าไปปลุกเพื่อสวมหน้ากากที่ต่อกับอุปกรณ์สร้างแรงดันบวก CPAP (ซีแผบ) เพื่อหาแรงดันที่เหมาะสม
ผลแทรกซ้อนจากการตรวจ
- การตรวจนี้ยังไม่มีรายงานถึงการเกิดภาวะแทรกซ้อนหรืออันตรายจากการตรวจ แต่อาจทำให้รู้สึกไม่สบายตัวขณะนอนหลับเนื่องจากมีการดึงรั้งของสายต่างๆ แต่ผู้ป่วยส่วนใหญ่ยังคงสามารถหลับได้ตามปกติ
- ผู้ป่วยที่มีประวัติการแพ้พลาสเตอร์ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนได้รับการตรวจ
**ผู้เข้ารับการตรวจควรพบแพทย์เฉพาะทางด้านโรคการนอนหลับโดยตรง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร.1474
การตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) เป็นการตรวจเพื่อสังเกตการทำงานของร่างกายขณะนอนหลับ ผลการตรวจช่วยการวินิจฉัยโรคและประเมินระดับความรุนแรงของโรคได้ เช่น โรคหยุดหายใจขณะหลับชนิดอุดกั้น การกระตุกของกล้ามเนื้อต่างๆ และพฤติกรรมที่ผิดปกติระหว่างการนอนหลับ ข้อมูลที่ได้จะนำมาพิจารณาวางแผนหรือติดตามการรักษาให้ถูกต้องได้
เมื่อไหร่? จึงควรเข้ารับการตรวจ Sleep Test
- นอนกรนดังผิดปกติ
- รู้สึกง่วงตอนกลางวันมากผิดปกติ ทั้งที่ได้นอนอย่างเพียงพอ
- สะดุ้งตื่น หายใจเหนื่อยตอนกลางคืน สงสัยมีการหยุดหายใจขณะหลับ
- มีคนสังเกตว่ามีพฤติกรรมผิดปกติขณะนอนหลับ เช่น นอนขากระตุก กัดฟัน ละเมอ หรือฝันร้าย
การเตรียมตัวก่อนตรวจ
- อาบน้ำสระผมให้สะอาดก่อนมาเข้ารับการตรวจ และไม่ใช้น้ำมันสเปรย์ใส่ผม
- งดการหลับในเวลากลางวัน ถ้าไม่ใช่สิ่งที่เคยทำประจำ
- ก่อนการตรวจ 5 ชั่วโมง ผู้ป่วยควรดื่มน้ำให้น้อยลง และรับประทานอาหารเย็นให้เรียบร้อยก่อนมาตรวจ
- งดดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเข้ารับการตรวจ 24 ชั่วโมง
- งดดื่มชา กาแฟ น้ำอัดลม และเครื่องดื่มกระตุ้นประสาทก่อนเข้ารับการตรวจอย่างน้อย 12 ชั่วโมง
- ถ้ามียาที่ต้องทานเป็นประจำควรปรึกษาแพทย์ก่อนว่าจำเป็นต้องงดหรือไม่
- ผู้ชายควรโกนหนวดให้เรียบร้อยก่อนมาตรวจ ผู้หญิงควรงดแต่งหน้าและทาเล็บ
- เตรียมเครื่องใช้ส่วนตัวที่จำเป็น เช่น แปรงสีฟัน ยาสีฟัน สำหรับล้างหน้าตอนเช้า ไม่ควรนำเครื่องประดับหรือของมีค่าติดตัวมาด้วย
รายละเอียดการตรวจ
- เป็นการตรวจที่ผู้ป่วยต้องมาพักค้างคืนที่โรงพยาบาลในช่วงเวลากลางคืน
- มีการติดอุปกรณ์ที่ใช้ติดตามการเปลี่ยนแปลงของร่างกายระหว่างการตรวจ
- ในระหว่างการตรวจจะมีการบันทึกวีดีโอ เพื่อสังเกตท่าทางการนอน และความผิดปกติทางพฤติกรรมที่อาจเกิดขึ้นขณะหลับ
- ในห้องควบคุมจะมีคอมพิวเตอร์รับสัญญาณที่ส่งมาจากผู้ป่วย เช่น คลื่นสมอง การหายใจ ค่าออกซิเจนในเลือด เป็นต้น รวมถึงภาพวีดีโอซึ่งเจ้าหน้าที่จะค่อยควบคุมการบันทึกให้เป็นไปอย่างเรียบร้อย ข้อมูลเหล่านี้จะถูกส่งต่อให้แพทย์เพื่อใช้ในการแปลผล
- การทดสอบนี้เป็นเพียงการรับสัญญาณตามธรรมชาติในร่างกายของมนุษย์ เช่น คลื่นสมอง การหายใจเข้า – ออก การกลอกตาขณะหลับ การเคลื่อนไหวของทรวงอกและหน้าท้อง เสียงกรน ท่านอน แรงดึงตัวของกล้ามเนื้อ คลื่นไฟฟ้าหัวใจและระดับออกซิเจน หรือคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือด
- การติดอุปกรณ์เพื่อรับสัญญาณไฟฟ้า จะเป็นเพียงแค่การใช้สายโลหะสัมผัสและยึดติดกับบริเวณผิวหนังในบริเวณต่างๆของร่างกายด้วยพลาสเตอร์จะไม่มีการเจาะหรือฝังอุปกรณ์ใดๆเข้าร่างกาย และจะไม่มีการส่งสัญญาณไฟฟ้าหรือคลื่นใดๆเข้าร่างกาย
- ในผู้ป่วยบางรายที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบว่ามีการหยุดหายใจขณะหลับ เนื่องจากทางเดินหายใจส่วนต้นยุบตัวรุนแรง เจ้าหน้าที่จะเข้าไปปลุกเพื่อสวมหน้ากากที่ต่อกับอุปกรณ์สร้างแรงดันบวก CPAP (ซีแผบ) เพื่อหาแรงดันที่เหมาะสม
ผลแทรกซ้อนจากการตรวจ
- การตรวจนี้ยังไม่มีรายงานถึงการเกิดภาวะแทรกซ้อนหรืออันตรายจากการตรวจ แต่อาจทำให้รู้สึกไม่สบายตัวขณะนอนหลับเนื่องจากมีการดึงรั้งของสายต่างๆ แต่ผู้ป่วยส่วนใหญ่ยังคงสามารถหลับได้ตามปกติ
- ผู้ป่วยที่มีประวัติการแพ้พลาสเตอร์ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนได้รับการตรวจ
**ผู้เข้ารับการตรวจควรพบแพทย์เฉพาะทางด้านโรคการนอนหลับโดยตรง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร.1474