ปวดหลัง เรื้อรัง การอักเสบ...ที่ไม่ควรวางใจ
ทำไมถึงมีอาการปวดหลังเรื้อรัง?
อาการปวดหลังอาจเกิดได้ จากการใช้ชีวิตประจำวัน ตั้งแต่การยืน การนั่ง และการนอน หรือการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา รวมไปถึงการเสื่อมของกระดูกสันหลังเมื่ออายุมากขึ้น
อาการปวดหลังที่พบบ่อย
ปัญหาการปวดหลัง หรือบาดเจ็บที่หลังสามารถพบได้ 2 ประเภท ได้แก่
1. อาการปวดหลังบริเวณบั้นเอว
มีอาการปวดตั้งแต่บริเวณบั้นเอวขึ้นไป อาจเป็นข้างเดียว หรือทั้งสองข้าง ถ้าเป็นน้อยจะมีแค่อาการปวดเมื่อย ถ้ามีอาการมากจะปวดอยู่ตลอดเวลาและมีอาการหลังแข็งเกร็งทำให้เดินตัวเอียง สาเหตุเกิดจากกล้ามเนื้อหลังที่มีการหดเกร็ง หรือมีการฉีกขาดของกล้ามเนื้อหลังบางส่วน เมื่อมีการบิดหรือเอียงตัวทันทีขณะออกกำลังกายหรือเล่นกีฬา
- การปฐมพยาบาลและการรักษา
เมื่อมีอาการปวดหลังให้หยุดวิ่งทันที แล้วประคบด้วยน้ำแข็ง 10-20 นาที ให้ยาแก้ปวด ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้นภายใน 3 วัน ต้องใช้ยาต้านการอักเสบ และยาคลายกล้ามเนื้อประมาณ 1-3 สัปดาห์ และให้การรักษาด้วยวิธีกายภาพบำบัด เช่น ความร้อน คลื่นเหนือเสียง เป็นต้น อาการจะหายไปเอง ภายใน 3 สัปดาห์ หลังจากนั้นแพทย์จะให้บริหารกล้ามเนื้อ เพื่อฟื้นฟูให้กล้ามเนื้อกลับมาแข็งแรง แต่หากผู้ป่วยไม่พักรักษาตัวระหว่างการรักษาจะทำให้โรคปวดหลังนี้เรื้อรังได้ และทำให้รักษายาก หายช้ากว่าปกติ
- การป้องกันอาการปวดหลังบริเวณบั้นเอว
ทำได้โดยไม่เล่นกีฬาหรือออกกำลังกายในบริเวณพื้นที่ขรุขระ หรือทางขึ้นลงที่สูง เพราะทำให้เกิดการบิดเอียงของหลัง และควรบริหารกล้ามเนื้อหลังให้แข็งแรงอยู่เสมอ
2. การบาดเจ็บที่กึ่งกลางหลังตรงกระเบนเหน็บ
เป็นอาการปวดหลังที่พบบ่อยอีกประเภท คือ มีอาการปวดเฉพาะบริเวณกึ่งกลางหลังกระเบนเหน็บมักพบในผู้สูงอายุจะมีอาการปวด เมื่อเคลื่อนไหวเอี้ยวตัวจะไม่มีอาการปวดร้าวไปจุดอื่น ถ้ามีอาการมากจะปวดตลอดเวลา สาเหตุเกิดจากการเสื่อมของกระดูกสันหลังซึ่งเป็นส่วนที่ต่อกับกระดูกเชิงกราน เนื่องจากเป็นส่วนที่เคลื่อนไหวอยู่เสมอ จึงเป็นง่ายกว่ากระดูกสันหลังส่วนอื่นๆ พบมากในผู้สูงอายุ
- การปฐมพยาบาลและการรักษา
เมื่อมีอาการปวดขณะออกกำลังกายให้หยุดพัก และประคบเย็นประมาณ 10 นาที ให้ยาแก้ปวด ถ้าไม่ดีขึ้นภายใน 3 วัน อาการไม่หายไป ต้องรักษาด้วยยาต้านการอักเสบ พร้อมทั้งให้การรักษาทางกายภาพบำบัดร่วมด้วยหลังอาการดีขึ้นแล้ว เพื่อให้กล้ามเนื้อหลังแข็งแรงอยู่เสมอ
- การป้องกันการบาดเจ็บที่กึ่งกลางหลังของกระเบนเหน็บ
คล้ายกับการดูแลกล้ามเนื้อหลังของบริเวณบั้นเอว แต่ในสำหรับผู้สูงอายุนั้น สามารถบริหารยืดกล้ามเนื้อหลังแค่เพียงเล็กน้อยก่อนออกกำลังกายเท่านั้น
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คลิก!! ศูนย์ออร์โธปิดิกส์ ชั้น 2 โซน A
ทำไมถึงมีอาการปวดหลังเรื้อรัง?
อาการปวดหลังอาจเกิดได้ จากการใช้ชีวิตประจำวัน ตั้งแต่การยืน การนั่ง และการนอน หรือการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา รวมไปถึงการเสื่อมของกระดูกสันหลังเมื่ออายุมากขึ้น
อาการปวดหลังที่พบบ่อย
ปัญหาการปวดหลัง หรือบาดเจ็บที่หลังสามารถพบได้ 2 ประเภท ได้แก่
1. อาการปวดหลังบริเวณบั้นเอว
มีอาการปวดตั้งแต่บริเวณบั้นเอวขึ้นไป อาจเป็นข้างเดียว หรือทั้งสองข้าง ถ้าเป็นน้อยจะมีแค่อาการปวดเมื่อย ถ้ามีอาการมากจะปวดอยู่ตลอดเวลาและมีอาการหลังแข็งเกร็งทำให้เดินตัวเอียง สาเหตุเกิดจากกล้ามเนื้อหลังที่มีการหดเกร็ง หรือมีการฉีกขาดของกล้ามเนื้อหลังบางส่วน เมื่อมีการบิดหรือเอียงตัวทันทีขณะออกกำลังกายหรือเล่นกีฬา
- การปฐมพยาบาลและการรักษา
เมื่อมีอาการปวดหลังให้หยุดวิ่งทันที แล้วประคบด้วยน้ำแข็ง 10-20 นาที ให้ยาแก้ปวด ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้นภายใน 3 วัน ต้องใช้ยาต้านการอักเสบ และยาคลายกล้ามเนื้อประมาณ 1-3 สัปดาห์ และให้การรักษาด้วยวิธีกายภาพบำบัด เช่น ความร้อน คลื่นเหนือเสียง เป็นต้น อาการจะหายไปเอง ภายใน 3 สัปดาห์ หลังจากนั้นแพทย์จะให้บริหารกล้ามเนื้อ เพื่อฟื้นฟูให้กล้ามเนื้อกลับมาแข็งแรง แต่หากผู้ป่วยไม่พักรักษาตัวระหว่างการรักษาจะทำให้โรคปวดหลังนี้เรื้อรังได้ และทำให้รักษายาก หายช้ากว่าปกติ
- การป้องกันอาการปวดหลังบริเวณบั้นเอว
ทำได้โดยไม่เล่นกีฬาหรือออกกำลังกายในบริเวณพื้นที่ขรุขระ หรือทางขึ้นลงที่สูง เพราะทำให้เกิดการบิดเอียงของหลัง และควรบริหารกล้ามเนื้อหลังให้แข็งแรงอยู่เสมอ
2. การบาดเจ็บที่กึ่งกลางหลังตรงกระเบนเหน็บ
เป็นอาการปวดหลังที่พบบ่อยอีกประเภท คือ มีอาการปวดเฉพาะบริเวณกึ่งกลางหลังกระเบนเหน็บมักพบในผู้สูงอายุจะมีอาการปวด เมื่อเคลื่อนไหวเอี้ยวตัวจะไม่มีอาการปวดร้าวไปจุดอื่น ถ้ามีอาการมากจะปวดตลอดเวลา สาเหตุเกิดจากการเสื่อมของกระดูกสันหลังซึ่งเป็นส่วนที่ต่อกับกระดูกเชิงกราน เนื่องจากเป็นส่วนที่เคลื่อนไหวอยู่เสมอ จึงเป็นง่ายกว่ากระดูกสันหลังส่วนอื่นๆ พบมากในผู้สูงอายุ
- การปฐมพยาบาลและการรักษา
เมื่อมีอาการปวดขณะออกกำลังกายให้หยุดพัก และประคบเย็นประมาณ 10 นาที ให้ยาแก้ปวด ถ้าไม่ดีขึ้นภายใน 3 วัน อาการไม่หายไป ต้องรักษาด้วยยาต้านการอักเสบ พร้อมทั้งให้การรักษาทางกายภาพบำบัดร่วมด้วยหลังอาการดีขึ้นแล้ว เพื่อให้กล้ามเนื้อหลังแข็งแรงอยู่เสมอ
- การป้องกันการบาดเจ็บที่กึ่งกลางหลังของกระเบนเหน็บ
คล้ายกับการดูแลกล้ามเนื้อหลังของบริเวณบั้นเอว แต่ในสำหรับผู้สูงอายุนั้น สามารถบริหารยืดกล้ามเนื้อหลังแค่เพียงเล็กน้อยก่อนออกกำลังกายเท่านั้น
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คลิก!! ศูนย์ออร์โธปิดิกส์ ชั้น 2 โซน A