การดูแลสุขภาพช่องปากและฟัน

     ฟัน เป็นอวัยวะที่แข็งแรงที่สุดในร่างกาย มีหน้าที่หลักในการบดเคี้ยวอาหาร ช่วยในการออกเสียง เพื่อความสวยงาม และเป็นด่านแรกที่อาหารจะผ่านเข้าสู่ร่างกาย ถ้าฟันถูกทำลายย่อมมีผลกระทบต่ออวัยวะอื่น ๆ ในร่างกายด้วย ดังนั้นเราจึงควรระมัดระวัง ดูแลรักษาฟันทุกซี่ให้ทำงานได้เป็นปกติ ไม่เกิดโรคต่าง ๆ เช่น โรคฟันผุ หรือโรคปริทันต์อักเสบ อันมีสาเหตุมาจากแผ่นคราบจุลินทรีย์ ซึ่งมีลักษณะคล้ายแป้งนิ่ม ๆ สีเหลืองเกาะติดกับผิวฟัน แผ่นคราบจุลินทรีย์นี้เกิดขึ้นได้ทุกวันและไม่สามารถบ้วนน้ำหลุดออกได้ ดังนั้นจำเป็นต้องกำจัดออกด้วยการแปรงฟัน ร่วมกับใช้อุปกรณ์เสริมในการทำความสะอาดซอกฟัน และควรพบทันตแพทย์ทุก 6 เดือน

แปรงฟันผิดวิธีกันอยู่หรือเปล่า?

     การแปรงฟันที่ถูกวิธีนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ที่สำคัญหากแปรงฟันนผิดวิธีอาจเกิดปัญหาตามมาได้อีก เช่น การแปรงฟันในลักษณะขึ้น-ลงกระแทกเหงือก หรือการถูไป-มาในแนวนอน ผลเสียจากการแปรงฟันผิดวิธี ทำให้เหงือกร่น และคอฟันสึกได้

อุปกรณ์ทำความสะอาดฟัน

  • แปรงสีฟัน ควรเลือกแปรงที่มีลักษณะขนแปรงอ่อนนุ่ม หน้าตัดตรง ขนาดพอดีกับช่องปาก ไม่ใหญ่เกินไป เพราะจะทำให้ทำความสะอาดด้านในไม่ทั่วถึง อาจก่อให้เกิดฟันผุตามมาได้ และด้ามจับตรงตามปกติ จับถนัดมือ และควรเปลี่ยนแปรงสีฟัน ทุก 3 เดือน
  • ยาสีฟัน มีส่วนประกอบของผงขัด ช่วยในการทำความสะอาดฟัน และมีส่วนผสมของฟลูออไรด์ช่วยป้องกันฟันผุ

       การเลือกใช้ยาสีฟัน

  1. เลือกยาสีฟันที่มีส่วนประกอบของฟลูออไรด์ ซึ่งช่วยป้องกันฟันผุและทำให้ฟันแข็งแรงขึ้น
  2. ในยาสีฟันต้องมีส่วนประกอบของสารขัดฟันในปริมาณที่น้อยจะได้ไม่ไปทำลายชั้นนอกของเนื้อฟัน หรือที่เรียกว่า อีนาเมล
  3. สำหรับคนที่มีแผลในช่องปาก ควรเลือกใช้ยาสีฟันที่ปราศจากสารก่อฟอง หรือสารโซเดียมลอริ่วซัลเฟท โดยดูจากข้างกล่องที่เขียนว่า ปลอดภัยสำหรับอีนาเมล
  4. ใครที่มีอาการเสียวฟัน ให้เลือกยาสีฟันชนิดที่ป้องกันการเสียวฟัน ซึ่งเนื้อยาสีฟันจะลดปริมาณสารขัดฟัน และมีองค์ประกอบของสารโปรตัสเซียมไนเตรท จะช่วยลดอาการเสียวฟันได้
  5. ยาสีฟันชนิดที่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคเหงือกอักเสบ ควรเลือกชนิดที่มีสารไซลิทอลเป็น องค์ประกอบ เพราะไซลิทอลเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ จะไม่เกิดการหมักหมม และไม่ถูกสลายให้เป็นกรดโดยเชื้อจุลินทรีย์ในปาก จะช่วยทำให้เกิดความสมดุลของความเป็นกรดกับด่างในช่องปากได้ดี
  6. หากต้องการลดการสะสมของการเกิดหินปูนในช่องปาก ควรเลือกใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของไตรโคลซาน ที่มีผลในการลดการสะสมของการเกิดหินปูน
  • ไหมขัดฟัน ช่วยทำความสะอาดบริเวณซอกฟัน ที่แปรงสีฟันไม่สามารถเข้าไปทำความสะอาดได้

การแปรงฟันในเด็ก (Scrub Technique)

     ลักษณะแปรงสีฟันที่เหมาะสมสำหรับเด็กเล็ก 1 – 3 ปี ควรมีขนแปรงเสมอกัน จำนวนขนแปรง 3x4-6 แถว และเด็ก 4 – 6 ปี ควรมีขนแปรงเสมอกัน จำนวนขนแปรง 3x7-8 แถว ควรใช้เวลาแปรงฟันอย่างน้อย 5 นาที วันละ 2 ครั้ง (เช้าและก่อนนอน) หรือ 3 ครั้งหลังมื้ออาหาร

  1. ใช้แปรงบริเวณฟันหน้า ไป–มาในแนวซ้าย–ขวา ประมาณ 10 ครั้ง
  2. ใช้แปรงบริเวณฟันหลังด้านขวา ไป-มาในแนวเข้า-ออก ประมาณ 10 ครั้ง
  3. ใช้แปรงบริเวณฟันหลังด้านซ้าย ไป-มาในแนวเข้า-ออก ประมาณ 10 ครั้ง
  4. ใช้แปรงบริเวณฟันหน้าบนด้านเพดานปาก ไป-มาในแนวซ้าย–ขวาหรือเข้า-ออก ประมาณ 10 ครั้ง
  5. ใช้แปรงบริเวณฟันหน้าล่างด้านลิ้น ไป-มาในแนวซ้าย–ขวาหรือเข้า-ออก ประมาณ 10 ครั้ง
  6. ใช้แปรงด้านหน้าบนเพดานปากหรือลิ้นของฟันหน้า ไป-มาในแนวเข้า-ออก
  7. ใช้แปรงด้านบดเคี้ยวของฟันหลัง ด้านขวาล่าง ประมาณ 10 ครั้ง
  8. ใช้แปรงด้านบดเคี้ยวของฟันหลัง ด้านซ้ายล่าง ประมาณ 10 ครั้ง
  9. ใช้แปรงด้านบดเคี้ยวของฟันหลัง ด้านขวาบน ประมาณ 10 ครั้ง
  10. ใช้แปรงด้านบดเคี้ยวของฟันหลัง ด้านซ้ายบน ประมาณ 10 ครั้ง
  11. ใช้แปรงด้านลิ้นของฟันหลัง ด้านขวาล่าง ประมาณ 10 ครั้ง
  12. ใช้แปรงด้านลิ้นของฟันหลัง ด้านซ้ายล่าง ประมาณ 10 ครั้ง
  13. ใช้แปรงด้านเพดานปากของฟันหลัง ด้านขวาบน ประมาณ 10 ครั้ง
  14. ใช้แปรงด้านเพดานปากของฟันหลัง ด้านซ้ายบน ประมาณ 10 ครั้ง
  15. แปรงด้านบนขของลิ้น

การแปรงฟันในผู้ใหญ่ (Modify brush technique)

     ลักษณะแปรงที่เหมาะสมสำหรับผู้ใหญ่ ควรมีขนแปรงเสมอกัน ด้ามจับตรง มีจำนวนขนแปรง 4x8-10 แถว และควรใช้เวลาแปรงฟันอย่างน้อย 5 นาที วันละ 2 ครั้ง (เช้าและก่อนนอน) หรือ 3 ครั้งหลังมื้ออาหาร โดยมีขั้นตอนดังนี้

  1. ในฟันบนด้านแก้มหรือริมฝีปาก วางแปรงสีฟันทำมุมเงย 45 องศา ถูแปรงไป-มาครอบคลุมฟัน 3-4 ซี่ ในแนวซ้าย-ขวา 5-7 ครั้ง แล้วปัดลง ทำทั้งหมด 5-7 ครั้งต่อตำแหน่ง ทำจนครบทุกซี่
  2. ในฟันบนด้านเพดานปาก วางแปรงสีฟันทำมุมเงย 45 องศา ถูแปรงไป-มาในแนวซ้าย-ขวา 5-7 ครั้ง แล้วปัดลง ทำทั้งหมด 5-7 ครั้งต่อตำแหน่ง ทำจนครบทุกซี่
  3. วางแปรงฟันด้านบดเคี้ยว ถูไป-มาในแนวหน้า-หลัง ด้านละ 10-15 ครั้ง
  4. ในฟันหน้าล่างด้านแก้ม วางแปรงสีฟันทำมุมก้ม 45 องศา ถูแปรงไป-มาในแนวซ้าย-ขวา 5-7 ครั้ง แล้วปัดขึ้น ทำทั้งหมด 5-7 ครั้งต่อตำแหน่ง ทำจนครบทุกซี่
  5. ในฟันล่างด้านลิ้น วางแปรงสีฟันทำมุมก้ม 45 องศา ถูแปรงไป-มาในแนวซ้าย-ขวา 5-7 ครั้ง แล้วปัดขึ้น ทำทั้งหมด 5-7 ครั้งต่อตำแหน่ง ทำจนครบทุกซี่
  6. แปรงด้านบนของลิ้น

วิธีการใช้ไหมขัดฟัน เพราะการแปรงฟันอย่างเดียวไม่พอ

     การใช้ไหมขัดฟันอย่างถูกต้อง สามารถช่วยกำจัดคราบแบคทีเรีย และเศษอาหารที่อยู่บริเวณที่แปรงสีฟันเข้าไม้ถึงได้ เช่น ตามซอกฟันและร่องเหงือก เนื่องจากการสะสมตัวของคราบแบคทีเรียสามารถทำให้เกิดฟันผุ การใช้ไหมขัดฟันจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น ซึ่งไหมขัดฟันสามารถใช้ได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ แต่ไม่แนะนำให้ใช้ไหมขัดฟันซ้ำ เพราะไหมขัดฟันจะเสื่อมสภาพไปเมื่อมีการใช้งานแล้ว ทำให้มีแบคที่เรียอาศัยอยู่ในไหมขัดฟันที่เสื่อมสภาพ และอาจจะเป็นตัวนำแบคทีเรียมาสู่ในช่องปากของเราได้ โดยขั้นตอนดังนี้

  1. ดึงไหมขัดฟันยาว ประมาณ 1 ฟุต
  2. ม้วนไหมพันที่นิ้วกลางทั้งสองข้าง เหลือไหมส่วนกลางประมาณ 10 เซนติเมตร
  3. ใช้นิ้วชี้และนิ้วโป้งควบคุมการใช้ไหมขัดฟัน
  4. สอดไหมผ่านระหว่างซี่ฟัน แล้วโอบชิดคอฟันด้านหนึ่ง ทำการถูไหมไป-มา โดยค่อยๆ เลื่อนไหมจนพ้นปลายฟัน
  5. สอดไหมผ่านระหว่างซี่ฟันเดิมอีกครั้ง แล้วโอบชิดคอฟันอีกด้านหนึ่ง ทำการถูไหมไป-มา โดยค่อยๆ เลื่อนไหมจนพ้นปลายฟัน
  6. ค่อยๆ ทำจนครบทุกซี่

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ทันตกรรม ชั้น 3 โซน A

     ฟัน เป็นอวัยวะที่แข็งแรงที่สุดในร่างกาย มีหน้าที่หลักในการบดเคี้ยวอาหาร ช่วยในการออกเสียง เพื่อความสวยงาม และเป็นด่านแรกที่อาหารจะผ่านเข้าสู่ร่างกาย ถ้าฟันถูกทำลายย่อมมีผลกระทบต่ออวัยวะอื่น ๆ ในร่างกายด้วย ดังนั้นเราจึงควรระมัดระวัง ดูแลรักษาฟันทุกซี่ให้ทำงานได้เป็นปกติ ไม่เกิดโรคต่าง ๆ เช่น โรคฟันผุ หรือโรคปริทันต์อักเสบ อันมีสาเหตุมาจากแผ่นคราบจุลินทรีย์ ซึ่งมีลักษณะคล้ายแป้งนิ่ม ๆ สีเหลืองเกาะติดกับผิวฟัน แผ่นคราบจุลินทรีย์นี้เกิดขึ้นได้ทุกวันและไม่สามารถบ้วนน้ำหลุดออกได้ ดังนั้นจำเป็นต้องกำจัดออกด้วยการแปรงฟัน ร่วมกับใช้อุปกรณ์เสริมในการทำความสะอาดซอกฟัน และควรพบทันตแพทย์ทุก 6 เดือน

แปรงฟันผิดวิธีกันอยู่หรือเปล่า?

     การแปรงฟันที่ถูกวิธีนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ที่สำคัญหากแปรงฟันนผิดวิธีอาจเกิดปัญหาตามมาได้อีก เช่น การแปรงฟันในลักษณะขึ้น-ลงกระแทกเหงือก หรือการถูไป-มาในแนวนอน ผลเสียจากการแปรงฟันผิดวิธี ทำให้เหงือกร่น และคอฟันสึกได้

อุปกรณ์ทำความสะอาดฟัน

  • แปรงสีฟัน ควรเลือกแปรงที่มีลักษณะขนแปรงอ่อนนุ่ม หน้าตัดตรง ขนาดพอดีกับช่องปาก ไม่ใหญ่เกินไป เพราะจะทำให้ทำความสะอาดด้านในไม่ทั่วถึง อาจก่อให้เกิดฟันผุตามมาได้ และด้ามจับตรงตามปกติ จับถนัดมือ และควรเปลี่ยนแปรงสีฟัน ทุก 3 เดือน
  • ยาสีฟัน มีส่วนประกอบของผงขัด ช่วยในการทำความสะอาดฟัน และมีส่วนผสมของฟลูออไรด์ช่วยป้องกันฟันผุ

       การเลือกใช้ยาสีฟัน

  1. เลือกยาสีฟันที่มีส่วนประกอบของฟลูออไรด์ ซึ่งช่วยป้องกันฟันผุและทำให้ฟันแข็งแรงขึ้น
  2. ในยาสีฟันต้องมีส่วนประกอบของสารขัดฟันในปริมาณที่น้อยจะได้ไม่ไปทำลายชั้นนอกของเนื้อฟัน หรือที่เรียกว่า อีนาเมล
  3. สำหรับคนที่มีแผลในช่องปาก ควรเลือกใช้ยาสีฟันที่ปราศจากสารก่อฟอง หรือสารโซเดียมลอริ่วซัลเฟท โดยดูจากข้างกล่องที่เขียนว่า ปลอดภัยสำหรับอีนาเมล
  4. ใครที่มีอาการเสียวฟัน ให้เลือกยาสีฟันชนิดที่ป้องกันการเสียวฟัน ซึ่งเนื้อยาสีฟันจะลดปริมาณสารขัดฟัน และมีองค์ประกอบของสารโปรตัสเซียมไนเตรท จะช่วยลดอาการเสียวฟันได้
  5. ยาสีฟันชนิดที่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคเหงือกอักเสบ ควรเลือกชนิดที่มีสารไซลิทอลเป็น องค์ประกอบ เพราะไซลิทอลเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ จะไม่เกิดการหมักหมม และไม่ถูกสลายให้เป็นกรดโดยเชื้อจุลินทรีย์ในปาก จะช่วยทำให้เกิดความสมดุลของความเป็นกรดกับด่างในช่องปากได้ดี
  6. หากต้องการลดการสะสมของการเกิดหินปูนในช่องปาก ควรเลือกใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของไตรโคลซาน ที่มีผลในการลดการสะสมของการเกิดหินปูน
  • ไหมขัดฟัน ช่วยทำความสะอาดบริเวณซอกฟัน ที่แปรงสีฟันไม่สามารถเข้าไปทำความสะอาดได้

การแปรงฟันในเด็ก (Scrub Technique)

     ลักษณะแปรงสีฟันที่เหมาะสมสำหรับเด็กเล็ก 1 – 3 ปี ควรมีขนแปรงเสมอกัน จำนวนขนแปรง 3x4-6 แถว และเด็ก 4 – 6 ปี ควรมีขนแปรงเสมอกัน จำนวนขนแปรง 3x7-8 แถว ควรใช้เวลาแปรงฟันอย่างน้อย 5 นาที วันละ 2 ครั้ง (เช้าและก่อนนอน) หรือ 3 ครั้งหลังมื้ออาหาร

  1. ใช้แปรงบริเวณฟันหน้า ไป–มาในแนวซ้าย–ขวา ประมาณ 10 ครั้ง
  2. ใช้แปรงบริเวณฟันหลังด้านขวา ไป-มาในแนวเข้า-ออก ประมาณ 10 ครั้ง
  3. ใช้แปรงบริเวณฟันหลังด้านซ้าย ไป-มาในแนวเข้า-ออก ประมาณ 10 ครั้ง
  4. ใช้แปรงบริเวณฟันหน้าบนด้านเพดานปาก ไป-มาในแนวซ้าย–ขวาหรือเข้า-ออก ประมาณ 10 ครั้ง
  5. ใช้แปรงบริเวณฟันหน้าล่างด้านลิ้น ไป-มาในแนวซ้าย–ขวาหรือเข้า-ออก ประมาณ 10 ครั้ง
  6. ใช้แปรงด้านหน้าบนเพดานปากหรือลิ้นของฟันหน้า ไป-มาในแนวเข้า-ออก
  7. ใช้แปรงด้านบดเคี้ยวของฟันหลัง ด้านขวาล่าง ประมาณ 10 ครั้ง
  8. ใช้แปรงด้านบดเคี้ยวของฟันหลัง ด้านซ้ายล่าง ประมาณ 10 ครั้ง
  9. ใช้แปรงด้านบดเคี้ยวของฟันหลัง ด้านขวาบน ประมาณ 10 ครั้ง
  10. ใช้แปรงด้านบดเคี้ยวของฟันหลัง ด้านซ้ายบน ประมาณ 10 ครั้ง
  11. ใช้แปรงด้านลิ้นของฟันหลัง ด้านขวาล่าง ประมาณ 10 ครั้ง
  12. ใช้แปรงด้านลิ้นของฟันหลัง ด้านซ้ายล่าง ประมาณ 10 ครั้ง
  13. ใช้แปรงด้านเพดานปากของฟันหลัง ด้านขวาบน ประมาณ 10 ครั้ง
  14. ใช้แปรงด้านเพดานปากของฟันหลัง ด้านซ้ายบน ประมาณ 10 ครั้ง
  15. แปรงด้านบนขของลิ้น

การแปรงฟันในผู้ใหญ่ (Modify brush technique)

     ลักษณะแปรงที่เหมาะสมสำหรับผู้ใหญ่ ควรมีขนแปรงเสมอกัน ด้ามจับตรง มีจำนวนขนแปรง 4x8-10 แถว และควรใช้เวลาแปรงฟันอย่างน้อย 5 นาที วันละ 2 ครั้ง (เช้าและก่อนนอน) หรือ 3 ครั้งหลังมื้ออาหาร โดยมีขั้นตอนดังนี้

  1. ในฟันบนด้านแก้มหรือริมฝีปาก วางแปรงสีฟันทำมุมเงย 45 องศา ถูแปรงไป-มาครอบคลุมฟัน 3-4 ซี่ ในแนวซ้าย-ขวา 5-7 ครั้ง แล้วปัดลง ทำทั้งหมด 5-7 ครั้งต่อตำแหน่ง ทำจนครบทุกซี่
  2. ในฟันบนด้านเพดานปาก วางแปรงสีฟันทำมุมเงย 45 องศา ถูแปรงไป-มาในแนวซ้าย-ขวา 5-7 ครั้ง แล้วปัดลง ทำทั้งหมด 5-7 ครั้งต่อตำแหน่ง ทำจนครบทุกซี่
  3. วางแปรงฟันด้านบดเคี้ยว ถูไป-มาในแนวหน้า-หลัง ด้านละ 10-15 ครั้ง
  4. ในฟันหน้าล่างด้านแก้ม วางแปรงสีฟันทำมุมก้ม 45 องศา ถูแปรงไป-มาในแนวซ้าย-ขวา 5-7 ครั้ง แล้วปัดขึ้น ทำทั้งหมด 5-7 ครั้งต่อตำแหน่ง ทำจนครบทุกซี่
  5. ในฟันล่างด้านลิ้น วางแปรงสีฟันทำมุมก้ม 45 องศา ถูแปรงไป-มาในแนวซ้าย-ขวา 5-7 ครั้ง แล้วปัดขึ้น ทำทั้งหมด 5-7 ครั้งต่อตำแหน่ง ทำจนครบทุกซี่
  6. แปรงด้านบนของลิ้น

วิธีการใช้ไหมขัดฟัน เพราะการแปรงฟันอย่างเดียวไม่พอ

     การใช้ไหมขัดฟันอย่างถูกต้อง สามารถช่วยกำจัดคราบแบคทีเรีย และเศษอาหารที่อยู่บริเวณที่แปรงสีฟันเข้าไม้ถึงได้ เช่น ตามซอกฟันและร่องเหงือก เนื่องจากการสะสมตัวของคราบแบคทีเรียสามารถทำให้เกิดฟันผุ การใช้ไหมขัดฟันจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น ซึ่งไหมขัดฟันสามารถใช้ได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ แต่ไม่แนะนำให้ใช้ไหมขัดฟันซ้ำ เพราะไหมขัดฟันจะเสื่อมสภาพไปเมื่อมีการใช้งานแล้ว ทำให้มีแบคที่เรียอาศัยอยู่ในไหมขัดฟันที่เสื่อมสภาพ และอาจจะเป็นตัวนำแบคทีเรียมาสู่ในช่องปากของเราได้ โดยขั้นตอนดังนี้

  1. ดึงไหมขัดฟันยาว ประมาณ 1 ฟุต
  2. ม้วนไหมพันที่นิ้วกลางทั้งสองข้าง เหลือไหมส่วนกลางประมาณ 10 เซนติเมตร
  3. ใช้นิ้วชี้และนิ้วโป้งควบคุมการใช้ไหมขัดฟัน
  4. สอดไหมผ่านระหว่างซี่ฟัน แล้วโอบชิดคอฟันด้านหนึ่ง ทำการถูไหมไป-มา โดยค่อยๆ เลื่อนไหมจนพ้นปลายฟัน
  5. สอดไหมผ่านระหว่างซี่ฟันเดิมอีกครั้ง แล้วโอบชิดคอฟันอีกด้านหนึ่ง ทำการถูไหมไป-มา โดยค่อยๆ เลื่อนไหมจนพ้นปลายฟัน
  6. ค่อยๆ ทำจนครบทุกซี่

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ทันตกรรม ชั้น 3 โซน A


ค้นหาแพทย์

สาระสุขภาพ

ศูนย์รักษาโรคเฉพาะทาง