การบูรณะฟันด้วยการครอบฟัน (Dental Crown)

ฟันที่มีรอยผุใหญ่หลายด้าน หรือผุทะลุโพรงประสาทฟันจนต้องทำการรักษาประสาทฟัน การบูรณะด้วยการอุดฟันอาจทำไม่ได้ หรือให้ความแข็งแรงไม่เพียงพอ ทันตแพทย์จึงต้องพิจารณาทำการบูรณะด้วยการครอบฟัน

ประโยชน์ของการบูรณะฟันด้วยการครอบฟัน

  1. เพื่อให้บดเคี้ยวอาหารได้ตามปกติ
  2. เพื่อให้ฟันที่รับการรักษาเป็นเครื่องกันพื้นที่ให้ฟันแท้ตามธรรมชาติไม่ซ้อนเก
  3. เพื่อเป็นการป้องกันความผิดปกติในการพูดและการกลืน การถอนฟันจะทำให้พูดไม่ชัดเนื่องจากสูญเสียความสมดุลของลิ้นกับฟัน และกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องไป

การเตรียมตัว

  1. ควรมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง รับประทานอาหารและนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
  2. ทันตแพทย์จะตรวจในช่องปากและเอกซเรย์ฟัน เพื่อให้การวินิจฉัยและประเมินความเหมาะสมของฟันที่จะทำการรักษา
  3. ผู้ที่มีโรคประจำตัว มียารับประทานประจำควรรับประทานยาตามปกติ
  4. ผู้ที่มีโรคประจำตัวที่อาจมีผลต่อการรักษา ควรได้รับความเห็นชอบในการรักษาจากแพทย์ก่อนและเตรียมตัวให้พร้อม เช่น ผู้ที่มีโรคทางโลหิตวิทยา ผู้ที่รับประทานยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด ผู้ที่อยู่ในระหว่างการให้เคมีบำบัดหรือฉายรังสีรักษา เป็นต้น
  5. ในเด็กอาจจะต้องเข้ารับการรักษาห่างจากมื้ออาหาร 2 ชั่วโมงขึ้นไป เพื่อป้องกันการอาเจียน
  6. กรณีไม่ให้ความร่วมมือในการรักษา หรือแพ้ยาชา อาจจะต้องทำภายใต้การใช้ยาระงับความรู้สึกทั่วร่างกาย

ขั้นตอนการรักษา

  1. ทันตแพทย์จะฉีดยาชาเฉพาะที่บริเวณที่ต้องการรักษา รอประมาณ 5 – 10 นาที เมื่อทดสอบว่ายาชาออกฤทธิ์
  2. ใส่แผ่นยางกั้นน้ำลาย เพื่อความสะดวกในการทำงานและเพื่อความสะอาดปราศจากเชื้อ แต่ในบางกรณีอาจไม่สามารถใส่แผ่นยางกั้นน้ำลายได้
  3. กำจัดเนื้อฟันผุให้หมด ถ้าผุทะลุโพรงประสาทก็ทำการรักษาประสาทฟันก่อน จากนั้นจึงทำการกรอฟันออก ใช้ oral scanner นำไฟล์ไปผลิต (กลึง) ชิ้นงานครอบฟันที่ขนาดเท่ากับฟันเดิม
  4. ยึดครอบฟันด้วยวัสดุยึดครอบ ทำความสะอาดตัวฟันโดยรอบ จากนั้นนำแผ่นยางกั้นน้ำกลายออก แล้วให้กัดเพื่อเช็กการสบฟัน
  5. ทันตแพทย์จะให้คำแนะนำภายหลังการรักษา

ข้อดีของการบูรณะฟันด้วยการครอบฟัน

  1. สามารถเก็บฟันไว้ใช้งานได้จนกว่าจะหลุดเองตามธรรมชาติ
  2. ฟันที่รักษาเป็นเครื่องมือกันฟันล้มเอียงหรือซ้อนเกในอนาคต
  3. ได้การบดเคี้ยวที่ดี
  4. มึความแข็งแรงกว่าการบูรณะด้วยการอุดฟัน

ข้อจำกัดของการบูรณะฟันด้วยการครอบฟัน

          อาจมีอาการระคายเคืองเนื้อเยื่อบริเวณที่ใส่ครอบฟันประมาณ 1 สัปดาห์ ทั้งนี้อาการจะหายได้เร็วถ้าได้รับการทำความสะอาดบริเวณนั้นอย่างถูกต้อง

ปัจจัยเสี่ยงของการบูรณะฟันด้วยการครอบฟัน

  1. อาจมีโอกาสแพ้ยาชา
  2. หลังรักษาแล้วอาจมีอาการเจ็บปวดบ้าง ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์
  3. เกิดแผลที่ริมฝีปากจากการกัดริมฝีปากในระหว่างที่ยาชายังไม่หมดฤทธิ์ มักพบในเด็กเล็ก

คำแนะนำภายหลังการรักษา

  1. การเกิดอาการปวด สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้
  2. ระวังกรณีได้รับยาชาเฉพาะที่ อาจกัดริมฝีปากในขณะที่ยาชายัไม่หมดฤทธิ์จนเกิดแผลได้
  3. รับประทานอาหารอ่อน ๆ 1 – 2 วันหลังการรักษา
  4. รับประทานยาให้ครบตามที่ทันตแพทย์สั่ง
  5. ทำความสะอาดฟันที่ครอบเหมือนฟันปกติ โดยไม่ต้องกลัวครอบฟันจะหลุดขณะแปรง
  6. ตรวจดูที่ครอบฟันว่าสะอาดหรือไม่จากคราบจุลินทรีย์ครอบฟัน โดยครอบฟันที่สะอาดจะเป็นเงาอยู่ตลอดเวลา
  7. หากครอบฟันหลุดควรนำครอบฟันที่หลุดมาพบทันตแพทย์ เพื่อทำการยึดกลับโดยไม่ต้องตัดแต่งครอบฟันใหม่
  8. หากมีปัญหาหรือผลแทรกซ้อนเกิดขึ้น ให้กลับมาพบทันตแพทย์ได้ก่อนวันนัดหมาย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ทันตกรรม ชั้น 3 โซน A

ฟันที่มีรอยผุใหญ่หลายด้าน หรือผุทะลุโพรงประสาทฟันจนต้องทำการรักษาประสาทฟัน การบูรณะด้วยการอุดฟันอาจทำไม่ได้ หรือให้ความแข็งแรงไม่เพียงพอ ทันตแพทย์จึงต้องพิจารณาทำการบูรณะด้วยการครอบฟัน

ประโยชน์ของการบูรณะฟันด้วยการครอบฟัน

  1. เพื่อให้บดเคี้ยวอาหารได้ตามปกติ
  2. เพื่อให้ฟันที่รับการรักษาเป็นเครื่องกันพื้นที่ให้ฟันแท้ตามธรรมชาติไม่ซ้อนเก
  3. เพื่อเป็นการป้องกันความผิดปกติในการพูดและการกลืน การถอนฟันจะทำให้พูดไม่ชัดเนื่องจากสูญเสียความสมดุลของลิ้นกับฟัน และกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องไป

การเตรียมตัว

  1. ควรมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง รับประทานอาหารและนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
  2. ทันตแพทย์จะตรวจในช่องปากและเอกซเรย์ฟัน เพื่อให้การวินิจฉัยและประเมินความเหมาะสมของฟันที่จะทำการรักษา
  3. ผู้ที่มีโรคประจำตัว มียารับประทานประจำควรรับประทานยาตามปกติ
  4. ผู้ที่มีโรคประจำตัวที่อาจมีผลต่อการรักษา ควรได้รับความเห็นชอบในการรักษาจากแพทย์ก่อนและเตรียมตัวให้พร้อม เช่น ผู้ที่มีโรคทางโลหิตวิทยา ผู้ที่รับประทานยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด ผู้ที่อยู่ในระหว่างการให้เคมีบำบัดหรือฉายรังสีรักษา เป็นต้น
  5. ในเด็กอาจจะต้องเข้ารับการรักษาห่างจากมื้ออาหาร 2 ชั่วโมงขึ้นไป เพื่อป้องกันการอาเจียน
  6. กรณีไม่ให้ความร่วมมือในการรักษา หรือแพ้ยาชา อาจจะต้องทำภายใต้การใช้ยาระงับความรู้สึกทั่วร่างกาย

ขั้นตอนการรักษา

  1. ทันตแพทย์จะฉีดยาชาเฉพาะที่บริเวณที่ต้องการรักษา รอประมาณ 5 – 10 นาที เมื่อทดสอบว่ายาชาออกฤทธิ์
  2. ใส่แผ่นยางกั้นน้ำลาย เพื่อความสะดวกในการทำงานและเพื่อความสะอาดปราศจากเชื้อ แต่ในบางกรณีอาจไม่สามารถใส่แผ่นยางกั้นน้ำลายได้
  3. กำจัดเนื้อฟันผุให้หมด ถ้าผุทะลุโพรงประสาทก็ทำการรักษาประสาทฟันก่อน จากนั้นจึงทำการกรอฟันออก ใช้ oral scanner นำไฟล์ไปผลิต (กลึง) ชิ้นงานครอบฟันที่ขนาดเท่ากับฟันเดิม
  4. ยึดครอบฟันด้วยวัสดุยึดครอบ ทำความสะอาดตัวฟันโดยรอบ จากนั้นนำแผ่นยางกั้นน้ำกลายออก แล้วให้กัดเพื่อเช็กการสบฟัน
  5. ทันตแพทย์จะให้คำแนะนำภายหลังการรักษา

ข้อดีของการบูรณะฟันด้วยการครอบฟัน

  1. สามารถเก็บฟันไว้ใช้งานได้จนกว่าจะหลุดเองตามธรรมชาติ
  2. ฟันที่รักษาเป็นเครื่องมือกันฟันล้มเอียงหรือซ้อนเกในอนาคต
  3. ได้การบดเคี้ยวที่ดี
  4. มึความแข็งแรงกว่าการบูรณะด้วยการอุดฟัน

ข้อจำกัดของการบูรณะฟันด้วยการครอบฟัน

          อาจมีอาการระคายเคืองเนื้อเยื่อบริเวณที่ใส่ครอบฟันประมาณ 1 สัปดาห์ ทั้งนี้อาการจะหายได้เร็วถ้าได้รับการทำความสะอาดบริเวณนั้นอย่างถูกต้อง

ปัจจัยเสี่ยงของการบูรณะฟันด้วยการครอบฟัน

  1. อาจมีโอกาสแพ้ยาชา
  2. หลังรักษาแล้วอาจมีอาการเจ็บปวดบ้าง ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์
  3. เกิดแผลที่ริมฝีปากจากการกัดริมฝีปากในระหว่างที่ยาชายังไม่หมดฤทธิ์ มักพบในเด็กเล็ก

คำแนะนำภายหลังการรักษา

  1. การเกิดอาการปวด สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้
  2. ระวังกรณีได้รับยาชาเฉพาะที่ อาจกัดริมฝีปากในขณะที่ยาชายัไม่หมดฤทธิ์จนเกิดแผลได้
  3. รับประทานอาหารอ่อน ๆ 1 – 2 วันหลังการรักษา
  4. รับประทานยาให้ครบตามที่ทันตแพทย์สั่ง
  5. ทำความสะอาดฟันที่ครอบเหมือนฟันปกติ โดยไม่ต้องกลัวครอบฟันจะหลุดขณะแปรง
  6. ตรวจดูที่ครอบฟันว่าสะอาดหรือไม่จากคราบจุลินทรีย์ครอบฟัน โดยครอบฟันที่สะอาดจะเป็นเงาอยู่ตลอดเวลา
  7. หากครอบฟันหลุดควรนำครอบฟันที่หลุดมาพบทันตแพทย์ เพื่อทำการยึดกลับโดยไม่ต้องตัดแต่งครอบฟันใหม่
  8. หากมีปัญหาหรือผลแทรกซ้อนเกิดขึ้น ให้กลับมาพบทันตแพทย์ได้ก่อนวันนัดหมาย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ทันตกรรม ชั้น 3 โซน A


ค้นหาแพทย์

สาระสุขภาพ

ศูนย์รักษาโรคเฉพาะทาง