อันตราย!! จากการจัดฟันแฟชั่น (Fake braces trend)
การจัดฟันแฟชั่นสวยแต่เสี่ยง เพราะหากไม่ใช่ทันตแพทย์และไม่มีความรู้ อาจเกิดอันตรายต่อสุขภาพช่องปากได้
โดยทั่วไปผู้ที่มีฟันเรียงเป็นปกติ ไม่มีปัญหาในการใช้งาน เมื่อมาพบทันตแพทย์เพื่อขอจัดฟันจะถูกปฎิเสธ เนื่องจากไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษา ทำให้มีกลุ่มบุคคลที่เห็นช่องทางหารายได้จากความต้องการของคนที่อยากจัดฟัน จึงเปิดรับจัดฟันแฟชั่นขึ้น โดยใช้ลวดเส้นเล็ก ร้อยลูกปัดสีต่าง ๆ บางชนิดมีการเคลือบสีและสารปรอท ลวดและลูกปัดดังกล่าวพบว่ามีสารเคมีรุนแรง ทั้งสารตะกั่ว สารหนู และสารแคดเมียม ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ได้ออกประกาศห้ามผลิตและจำหน่ายลวดจัดฟันแฟชั่น ต่อมากระแสนิยมในเรื่องจัดฟันแฟชั่นได้เปลี่ยนไป จากการใช้ลวดเส้นเล็กร้อยลูกปัดสีต่าง ๆ กลายเป็นการใช้เครื่องมือจัดฟันจริง หรือเลียนแบบใกล้เคียงกับเครื่องมือที่ทันตแพทย์ใช้มากขึ้น ซึ่งรูปแบบของการจัดฟันแฟชั่นที่มีการใส่เครื่องมือแบ่งเป็น 2 แบบหลักๆ คือ การใส่เครื่องมือแบบติดแน่น และการใส่เครื่องมือถอดได้
ขั้นตอนการทำยุ่งยากซับซ้อนและมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น แต่ยังเป็นอันตรายอยู่ และมักโฆษณาชวนเชื่อว่าเป็นการใช้ลวดและเครื่องมือที่ทันตแพทย์ใช้ บางแห่งเพิ่มความน่าเชื่อถือ โดยใช้คำว่า Lab เพื่อให้เข้าใจว่า เป็น Laboratory ที่สามารถทำฟันปลอม และทำเครื่องมือจัดฟันให้กับทันตแพทย์ (ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ใช่เลย) การจัดฟันแฟชั่นโดยใช้ลวดจัดฟันปลอม นอกจากมีจำหน่ายตามแผงลอยแล้ว ยังระบาดไปตามตลาดนัดในต่างจังหวัด แหล่งชุมชน มีทั้งจำหน่ายให้นำไปใส่เองหรือผู้จำหน่ายใส่ให้ในช่องปาก แต่ส่วนมากวัยรุ่นมักจะนิยมให้ผู้จำหน่ายติดให้
การจัดฟันแฟชั่นอันตรายต่อสุขภาพช่องปากอย่างไร?
1. เหงือกอักเสบเป็นแผล มีเลือดไหล และเกิดแผลในช่องปาก เนื่องจากลวดและพลาสติก อาจกดเหงือกหรือทิ่มเหงือก หากลวดมีความยาวไม่พอดีกับฟัน จะทำให้แทงเหงือกได้
2. สารอันตรายดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย เนื่องจากการใช้เครื่องมือที่ไม่ได้คุณภาพและมาตรฐานที่ใช้ในช่องปาก เช่น เกิดสนิม หรือเคลือบสารปรอท ลูกปัดสีมีสารหนู หรือสารตะกั่ว เจือปนอยู่
3. เกิดการแพร่กระจายของโรคติดต่อหรือการติดเชื้อ เนื่องจากขั้นตอนในการทำสกปรกไม่มีการฆ่าเชื้อโรคก่อนทำ อีกทั้งในการฝังวัสดุเข้าไปในช่องปากอาจจะไม่สะอาดพอ โดยปกติทันตแพทย์จะต้องฆ่าเชื้อโรคก่อนการทำทุกครั้ง
4. ฟันผุ การมีลวดและลูกปัดติดในช่องปาก จะทำให้ประสิทธิภาพในการทำความสะอาดฟันลดลง เพราะเศษอาหารติดได้ง่าย ทำให้เกิดฟันผุ
5. ปวดฟัน ฟันเคลื่อนที่ไปจากตำแหน่งเดิม เพราะลวดอาจดันฟัน ยิ่งผู้ทำออกแรงกระทำกับตัวฟันมาก อาจเกิดการเจ็บปวดได้
6. ผิวเคลือบฟันบางลง บางครั้งอาจมีการกรอเอาผิวเคลือบฟันออก แล้วใช้กรดฟอสฟอริก ชนิดเดียวกับที่ทันตแพทย์ใช้ในการทำฟัน กัดฟันให้เป็นรูพรุนเล็กๆ เพื่อที่จะให้เกิดการยึดเครื่องมือ Bracket ให้ติดกับฟันได้ ซึ่งการที่ผิวเคลือบฟันถูกทำลายไปไม่สามารถสร้างขึ้นมาใหม่ได้ ทำให้เกิดฟันผุได้ง่ายขึ้น
7. อาจถึงแก่ชีวิตโดยไม่รู้ตัว การใส่ลวดเส้นเล็ก ถ้าไม่แน่นหรือหลวม ทำให้มีการขยับได้จะเกิดอันตรายอย่างมาก เนื่องจากเวลาใส่นอนหรือรับประทานอาหาร อาจทำให้ลวดหรือลูกปัดหลุดลงคอได้
หากเกิดอันตรายข้างต้น ควรรีบมาพบทันตแพทย์ให้เร็วที่สุด ดังนั้นวัยรุ่นและประชาชน อย่าเห็นแก่ความสวยงามเพียงเล็กน้อยในการจัดฟันแฟชั่น ถ้าดูใกล้ ๆ ก็ไม่เหมือนการจัดฟันที่มีลวดหรือยางจัดฟันของทันตแพทย์ มีแต่จะทำให้สุขภาพฟันและอวัยวะอื่นๆ เสีย ซึ่งไม่คุ้มค่ากับความสวยงามที่แลกมาด้วยความเจ็บปวด ทั้งนี้โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อและใช้สินค้าเหล่านี้ รวมถึงผู้ทำที่ไม่ใช่ทันตแพทย์ต่างก็มีความผิดทางกฎหมายในการทำฟัน
ข้อมูลโดย : ทพญ.ณัฐินี โกษาคาร
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ทันตกรรม ได้ที่ ชั้น 3 โซน A
ปัจจุบันการจัดฟันแฟชั่นได้รับความนิยมในวัยรุ่นเป็นอย่างมาก หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าการจัดฟันแฟชั่นอันตรายแค่ไหน โดยเฉพาะการใส่เครื่องมือจากผู้ที่ไม่ใช่ทันตแพทย์และไม่มีความรู้ ทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพในช่องปากตามมา
โดยทั่วไปผู้ที่มีฟันเรียงเป็นปกติ ไม่มีปัญหาในการใช้งาน เมื่อมาพบทันตแพทย์เพื่อขอจัดฟันจะถูกปฎิเสธ เนื่องจากไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษา ทำให้มีกลุ่มบุคคลที่เห็นช่องทางหารายได้จากความต้องการของคนที่อยากจัดฟัน จึงเปิดรับจัดฟันแฟชั่นขึ้น โดยใช้ลวดเส้นเล็ก ร้อยลูกปัดสีต่าง ๆ บางชนิดมีการเคลือบสีและสารปรอท ลวดและลูกปัดดังกล่าวพบว่ามีสารเคมีรุนแรง ทั้งสารตะกั่ว สารหนู และสารแคดเมียม ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ได้ออกประกาศห้ามผลิตและจำหน่ายลวดจัดฟันแฟชั่น ต่อมากระแสนิยมในเรื่องจัดฟันแฟชั่นได้เปลี่ยนไป จากการใช้ลวดเส้นเล็กร้อยลูกปัดสีต่าง ๆ กลายเป็นการใช้เครื่องมือจัดฟันจริง หรือเลียนแบบใกล้เคียงกับเครื่องมือที่ทันตแพทย์ใช้มากขึ้น ซึ่งรูปแบบของการจัดฟันแฟชั่นที่มีการใส่เครื่องมือแบ่งเป็น 2 แบบหลักๆ คือ การใส่เครื่องมือแบบติดแน่น และการใส่เครื่องมือถอดได้
ขั้นตอนการทำยุ่งยากซับซ้อนและมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น แต่ยังเป็นอันตรายอยู่ และมักโฆษณาชวนเชื่อว่าเป็นการใช้ลวดและเครื่องมือที่ทันตแพทย์ใช้ บางแห่งเพิ่มความน่าเชื่อถือ โดยใช้คำว่า Lab เพื่อให้เข้าใจว่า เป็น Laboratory ที่สามารถทำฟันปลอม และทำเครื่องมือจัดฟันให้กับทันตแพทย์ (ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ใช่เลย) การจัดฟันแฟชั่นโดยใช้ลวดจัดฟันปลอม นอกจากมีจำหน่ายตามแผงลอยแล้ว ยังระบาดไปตามตลาดนัดในต่างจังหวัด แหล่งชุมชน มีทั้งจำหน่ายให้นำไปใส่เองหรือผู้จำหน่ายใส่ให้ในช่องปาก แต่ส่วนมากวัยรุ่นมักจะนิยมให้ผู้จำหน่ายติดให้
การจัดฟันแฟชั่นอันตรายต่อสุขภาพช่องปากอย่างไร?
1. เหงือกอักเสบเป็นแผล มีเลือดไหล และเกิดแผลในช่องปาก เนื่องจากลวดและพลาสติก อาจกดเหงือกหรือทิ่มเหงือก หากลวดมีความยาวไม่พอดีกับฟัน จะทำให้แทงเหงือกได้
2. สารอันตรายดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย เนื่องจากการใช้เครื่องมือที่ไม่ได้คุณภาพและมาตรฐานที่ใช้ในช่องปาก เช่น เกิดสนิม หรือเคลือบสารปรอท ลูกปัดสีมีสารหนู หรือสารตะกั่ว เจือปนอยู่
3. เกิดการแพร่กระจายของโรคติดต่อหรือการติดเชื้อ เนื่องจากขั้นตอนในการทำสกปรกไม่มีการฆ่าเชื้อโรคก่อนทำ อีกทั้งในการฝังวัสดุเข้าไปในช่องปากอาจจะไม่สะอาดพอ โดยปกติทันตแพทย์จะต้องฆ่าเชื้อโรคก่อนการทำทุกครั้ง
4. ฟันผุ การมีลวดและลูกปัดติดในช่องปาก จะทำให้ประสิทธิภาพในการทำความสะอาดฟันลดลง เพราะเศษอาหารติดได้ง่าย ทำให้เกิดฟันผุ
5. ปวดฟัน ฟันเคลื่อนที่ไปจากตำแหน่งเดิม เพราะลวดอาจดันฟัน ยิ่งผู้ทำออกแรงกระทำกับตัวฟันมาก อาจเกิดการเจ็บปวดได้
6. ผิวเคลือบฟันบางลง บางครั้งอาจมีการกรอเอาผิวเคลือบฟันออก แล้วใช้กรดฟอสฟอริก ชนิดเดียวกับที่ทันตแพทย์ใช้ในการทำฟัน กัดฟันให้เป็นรูพรุนเล็กๆ เพื่อที่จะให้เกิดการยึดเครื่องมือ Bracket ให้ติดกับฟันได้ ซึ่งการที่ผิวเคลือบฟันถูกทำลายไปไม่สามารถสร้างขึ้นมาใหม่ได้ ทำให้เกิดฟันผุได้ง่ายขึ้น
7. อาจถึงแก่ชีวิตโดยไม่รู้ตัว การใส่ลวดเส้นเล็ก ถ้าไม่แน่นหรือหลวม ทำให้มีการขยับได้จะเกิดอันตรายอย่างมาก เนื่องจากเวลาใส่นอนหรือรับประทานอาหาร อาจทำให้ลวดหรือลูกปัดหลุดลงคอได้
หากเกิดอันตรายข้างต้น ควรรีบมาพบทันตแพทย์ให้เร็วที่สุด ดังนั้นวัยรุ่นและประชาชน อย่าเห็นแก่ความสวยงามเพียงเล็กน้อยในการจัดฟันแฟชั่น ถ้าดูใกล้ ๆ ก็ไม่เหมือนการจัดฟันที่มีลวดหรือยางจัดฟันของทันตแพทย์ มีแต่จะทำให้สุขภาพฟันและอวัยวะอื่นๆ เสีย ซึ่งไม่คุ้มค่ากับความสวยงามที่แลกมาด้วยความเจ็บปวด ทั้งนี้โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อและใช้สินค้าเหล่านี้ รวมถึงผู้ทำที่ไม่ใช่ทันตแพทย์ต่างก็มีความผิดทางกฎหมายในการทำฟัน
ข้อมูลโดย : ทพญ.ณัฐินี โกษาคาร
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ทันตกรรม ได้ที่ ชั้น 3 โซน A