
การอุดฟัน รู้ครบจบทุกเรื่อง (Fill Teeth)
การอุดฟัน เป็นการบูรณะฟันแบบหนึ่งโดยใช้วัสดุอุดฟันเข้าไปเติมเต็มในส่วนที่ขาดหายไป เพื่อให้ได้รูปร่างฟันคงเดิม สามารถใช้งานได้ตามปกติ ช่วยกำจัดเนื้อฟันส่วนที่ผุไม่ให้ลุกลามต่อ บูรณะเนื้อฟันส่วนที่สูญเสียไป และเป็นการยึดเนื้อฟันเข้าด้วยกันกรณีฟันร้าว
การเตรียมตัวก่อนการอุดฟัน
- ควรมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง รับประทานอาหาร และนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ
- หากมีโรคประจำตัว และมียาที่ต้องรับประทานประจำ ควรรับประทานอาหารและยาตามปกติ
- ในเด็กควรเข้ารับการรักษาห่างจากมื้ออาหาร 2 ชั่วโมงขึ้นไป เพื่อป้องกันการอาเจียน
- ผู้ที่มีความวิตกกังวลสูงหรือไม่สามารถให้ความร่วมมือในการรักษา ทันตแพทย์อาจพิจารณาทำการรักษาภายใต้ยาระงับความรู้สึกทั่วร่างกาย
ขั้นตอนการอุดฟัน
- ทันตแพทย์ทำการตรวจวินิจฉัยและวางแผนการรักษา และทำการยืนยันแผนการรักษากับผู้ป่วย โดยระบุตำแหน่งฟันที่จะอุดให้ชัดเจน
- หากผู้ป่วยกังวลถึงอาการเสียวขณะทำฟัน ทันตแพทย์อาจพิจารณาให้ฉีดยาชาบริเวณที่ทำการรักษาก่อน และอาจใส่แผ่นยางกันน้ำลายร่วมด้วย
- กรณีที่มีวัสดุอุดฟันเก่าอยู่ ทันตแพทย์อาจพิจาราณาทำการรื้อวัสดุเก่าออกบางส่วนหรือทั้งหมด เพื่อให้เห็นสภาพฟันผุทั้งหมด และทำการกำจัดส่วนที่ผุด้วยวิธีการตักหรือกรอออก
- หากฟันผุลึกมากต้องอุดฟันด้วยวัสดุรองพื้น เพื่อป้องกันการเสียวฟัน และกระตุ้นให้มีการสร้างเนื้อฟันเพิ่มขึ้นในโพรงประสาทฟัน
- ทันตแพทย์จะใช้กรดอ่อนกัดผิวฟันเล็กน้อย ทาสารยึดติด ฉายแสงสีฟ้า อุดฟันด้วยวัสดุสีเหมือนฟัน และทำการฉายแสงให้เกิดการแข็งตัว
- กรอขัดแต่งการสบฟันให้พอดีกับระดับการบดเคี้ยว ขัดเรียบ และขัดมันตามลำดับ
- หลังจากอุดฟัน ทันตแพทย์จะให้คำแนะนำ และข้อปฏิบัติเกี่ยวกับการดูแลรักษาหลังการอุดฟันในทุกครั้ง
ข้อดีของการอุดฟัน
- ลดการผุลุกลาม และลดอาการเสียวฟัน
- เสริมเนื้อฟันส่วนที่หายไปให้กลับมาแข็งแรง และใช้งานได้อีกครั้ง
- เป็นการบูรณะฟันที่รวดเร็ว
ข้อเสียของการอุดฟัน
- อาจมีความเจ็บปวด และเกิดความเครียดขณะรับการรักษา
- วัสดุอุดสีเหมือนฟันให้ความแข็งแรงน้อยกว่าชิ้นงานโลหะหรือครอบฟัน ไม่สามารถทำการรักษาในกรณีสูญเสียเนื้อฟันเป็นจำนวนมากได้
- การฉีดยาชาเพื่ออุดฟัน อาจทำให้ไม่สามารถประเมินการสบฟันได้ถูกต้อง
ภาวะแทรกซ้อนหลังจากการอุดฟัน
- อาจพบอาการเสียวฟันภายหลังการรักษา 1 - 2 สัปดาห์
- กรณีฟันผุลึกมากอาจมีการติดเชื้อในโพรงประสาทฟันระดับเซลโมเลกุล ซึ่งไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ภายหลังอุดฟันอาจมีอาการปวดได้ ซึ่งการแก้ไขต้องมารับการรักษารากฟัน หรือวิธีอื่นที่ไม่ใช่การอุดฟัน
คำแนะนำหลังการอุดฟัน
- ควรหลีกเลี่ยงการใช้ฟันเคี้ยวอาหารแข็ง เพื่อป้องกันการแตกของวัสดุอุด หรือเกิดความเสียหายต่อฟันได้
- อาจมีการเสียวฟัน เมื่อรับประทานอาหารที่ร้อนจัดหรือเย็นจัด ภายหลังการอุดฟันควรหลีกเลี่ยงอาหารดังกล่าว อาการเหล่านี้ควรหายไปเองภายใน 2 - 3 สัปดาห์
- หากมีอาการเจ็บฟันเวลาเคี้ยวอาหารภายหลังการอุด อาจเกิดจากวัสดุอุดฟันสูงเกิน ให้กลับมาพบทันตแพทย์ทันที
- หากวัสดุอุดฟันหลุดให้กลับมาอุดใหม่ อย่าปล่อยทิ้งไว้เพราะอาจเกิดฟันผุลุกลามจนไม่สามารถบูรณะด้วยการอุดฟันได้
- ควรทำความสะอาดฟันด้วยการแปรงฟันให้ถูกวิธี และใช้ไหมขัดฟันอย่างสม่ำเสมอ
- ควรพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากทุก 6 เดือน
ข้อมูลจาก: ทพญ. กมลชนก ศรีเมืองธน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ทันตกรรม ชั้น 3 โซน A
การอุดฟัน เป็นการบูรณะฟันแบบหนึ่งโดยใช้วัสดุอุดฟันเข้าไปเติมเต็มในส่วนที่ขาดหายไป เพื่อให้ได้รูปร่างฟันคงเดิม สามารถใช้งานได้ตามปกติ ช่วยกำจัดเนื้อฟันส่วนที่ผุไม่ให้ลุกลามต่อ บูรณะเนื้อฟันส่วนที่สูญเสียไป และเป็นการยึดเนื้อฟันเข้าด้วยกันกรณีฟันร้าว
การเตรียมตัวก่อนการอุดฟัน
- ควรมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง รับประทานอาหาร และนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ
- หากมีโรคประจำตัว และมียาที่ต้องรับประทานประจำ ควรรับประทานอาหารและยาตามปกติ
- ในเด็กควรเข้ารับการรักษาห่างจากมื้ออาหาร 2 ชั่วโมงขึ้นไป เพื่อป้องกันการอาเจียน
- ผู้ที่มีความวิตกกังวลสูงหรือไม่สามารถให้ความร่วมมือในการรักษา ทันตแพทย์อาจพิจารณาทำการรักษาภายใต้ยาระงับความรู้สึกทั่วร่างกาย
ขั้นตอนการอุดฟัน
- ทันตแพทย์ทำการตรวจวินิจฉัยและวางแผนการรักษา และทำการยืนยันแผนการรักษากับผู้ป่วย โดยระบุตำแหน่งฟันที่จะอุดให้ชัดเจน
- หากผู้ป่วยกังวลถึงอาการเสียวขณะทำฟัน ทันตแพทย์อาจพิจารณาให้ฉีดยาชาบริเวณที่ทำการรักษาก่อน และอาจใส่แผ่นยางกันน้ำลายร่วมด้วย
- กรณีที่มีวัสดุอุดฟันเก่าอยู่ ทันตแพทย์อาจพิจาราณาทำการรื้อวัสดุเก่าออกบางส่วนหรือทั้งหมด เพื่อให้เห็นสภาพฟันผุทั้งหมด และทำการกำจัดส่วนที่ผุด้วยวิธีการตักหรือกรอออก
- หากฟันผุลึกมากต้องอุดฟันด้วยวัสดุรองพื้น เพื่อป้องกันการเสียวฟัน และกระตุ้นให้มีการสร้างเนื้อฟันเพิ่มขึ้นในโพรงประสาทฟัน
- ทันตแพทย์จะใช้กรดอ่อนกัดผิวฟันเล็กน้อย ทาสารยึดติด ฉายแสงสีฟ้า อุดฟันด้วยวัสดุสีเหมือนฟัน และทำการฉายแสงให้เกิดการแข็งตัว
- กรอขัดแต่งการสบฟันให้พอดีกับระดับการบดเคี้ยว ขัดเรียบ และขัดมันตามลำดับ
- หลังจากอุดฟัน ทันตแพทย์จะให้คำแนะนำ และข้อปฏิบัติเกี่ยวกับการดูแลรักษาหลังการอุดฟันในทุกครั้ง
ข้อดีของการอุดฟัน
- ลดการผุลุกลาม และลดอาการเสียวฟัน
- เสริมเนื้อฟันส่วนที่หายไปให้กลับมาแข็งแรง และใช้งานได้อีกครั้ง
- เป็นการบูรณะฟันที่รวดเร็ว
ข้อเสียของการอุดฟัน
- อาจมีความเจ็บปวด และเกิดความเครียดขณะรับการรักษา
- วัสดุอุดสีเหมือนฟันให้ความแข็งแรงน้อยกว่าชิ้นงานโลหะหรือครอบฟัน ไม่สามารถทำการรักษาในกรณีสูญเสียเนื้อฟันเป็นจำนวนมากได้
- การฉีดยาชาเพื่ออุดฟัน อาจทำให้ไม่สามารถประเมินการสบฟันได้ถูกต้อง
ภาวะแทรกซ้อนหลังจากการอุดฟัน
- อาจพบอาการเสียวฟันภายหลังการรักษา 1 - 2 สัปดาห์
- กรณีฟันผุลึกมากอาจมีการติดเชื้อในโพรงประสาทฟันระดับเซลโมเลกุล ซึ่งไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ภายหลังอุดฟันอาจมีอาการปวดได้ ซึ่งการแก้ไขต้องมารับการรักษารากฟัน หรือวิธีอื่นที่ไม่ใช่การอุดฟัน
คำแนะนำหลังการอุดฟัน
- ควรหลีกเลี่ยงการใช้ฟันเคี้ยวอาหารแข็ง เพื่อป้องกันการแตกของวัสดุอุด หรือเกิดความเสียหายต่อฟันได้
- อาจมีการเสียวฟัน เมื่อรับประทานอาหารที่ร้อนจัดหรือเย็นจัด ภายหลังการอุดฟันควรหลีกเลี่ยงอาหารดังกล่าว อาการเหล่านี้ควรหายไปเองภายใน 2 - 3 สัปดาห์
- หากมีอาการเจ็บฟันเวลาเคี้ยวอาหารภายหลังการอุด อาจเกิดจากวัสดุอุดฟันสูงเกิน ให้กลับมาพบทันตแพทย์ทันที
- หากวัสดุอุดฟันหลุดให้กลับมาอุดใหม่ อย่าปล่อยทิ้งไว้เพราะอาจเกิดฟันผุลุกลามจนไม่สามารถบูรณะด้วยการอุดฟันได้
- ควรทำความสะอาดฟันด้วยการแปรงฟันให้ถูกวิธี และใช้ไหมขัดฟันอย่างสม่ำเสมอ
- ควรพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากทุก 6 เดือน
ข้อมูลจาก: ทพญ. กมลชนก ศรีเมืองธน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ทันตกรรม ชั้น 3 โซน A