01 กรกฎาคม 2568
วัคซีนป้องกันโรคหัด คางทูม หัดเยอรมัน
โรคหัด โรคคางทูม และโรคหัดเยอรมัน (measles, mumps, and rubella) เป็นโรคที่ติดต่อโดยการสูดดมละอองฝอยของสารคัดหลั่งจากระบบทางเดินหายใจของผู้ป่วย สามารถติดต่อระหว่างคนสู่คนได้ตั้งแต่เริ่มก่อนมีอาการ ผู้ที่ไม่มีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อนี้หากคลุกคลีสัมผัสกับผู้ติดเชื้อจะป่วยเป็นโรคดังกล่าวและสามารถแพร่กระจายเชื้อไปยังผู้อื่นได้
ทำไมต้องฉีดวัคซีนรวม หัด-คางทูม-หัดเยอรมัน (measles, mumps, rubella (MMR) vaccine)
ผู้ที่ยังไม่เคยมีประวัติเป็นโรคหัด โรคคางทูม หรือโรคหัดเยอรมัน ควรพิจารณารับการฉีดวัคซีนทุกราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อยู่บ้านเดียวกันกับผู้ป่วยที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง ซึ่งมีโอกาสแพร่เชื้อให้กับผู้ที่มีภาวะเสี่ยงเหล่านี้ได้สูง ผู้ที่มีโอกาสสัมผัสเชื้อมากหรือมีโอกาสแพร่กระจายเชื้อให้ผู้อื่นได้มาก เช่น บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ ครู หรือผู้ที่ทำงานกับเด็กจำนวนมาก การได้รับวัคซีนจะช่วยลดการเป็นโรคหัด โรคคางทูม และโรคหัดเยอรมัน และช่วยลดการเกิดโรคที่มีอาการรุนแรง โดยต้องได้รับการฉีดวัดซีน 2 ครั้ง ฉีดเข้าใต้ผิวหนัง ห่างกันอย่างน้อย 4 สัปดาห์
ผลข้างเคียงของวัคซีน
1. มีไข้หรือผื่นขึ้นเฉพาะที่, ปวด บวม แดง ร้อน บริเวณตำแหน่งที่ฉีดวัคซีน
2. อาจมีต่อมน้ำเหลืองที่คอและแก้มโตได้ (พบได้ 1 รายจากผู้ได้รับวัคซีน 75 ราย) โดยอาการจะเกิดได้ 6-14 วัน หลังรับวัคซีน และอาการจะหายไปได้เอง
3. อาการแพ้รุนแรงพบได้น้อยมาก
ข้อห้ามและข้อควรระวัง
1. ห้ามให้ในผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV ที่ CD4 count น้อยกว่า 200 เซลล์ต่อลูกบาศก์มิลลิเมตร หรือน้อยกว่าร้อยละ 15 นานตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป
2. ห้ามให้ในหญิงตั้งครรภ์
3. ผู้ที่รับประทานสเตียรอยด์ ขนาดมากกว่า 2 มก./กก./วัน หรือ 20 มก./วัน นานมากว่า 2 สัปดาห์ ถ้าจะให้วัคชีน ควรหยุดยาสเตียรอยด์อย่างน้อย 1 เดือน
4. ผู้ที่ได้พลาสมา อิมมูโนโกลบูลิน หรือผลิตภัณฑ์จากเลือดมาไม่นาน ไม่ควรให้วัคซีนเพราะอาจรบกวนการสร้างภูมิคุ้มกันโรค โดยควรเว้นช่วงเวลาหลังจากได้รับผลิตภัณฑ์จากเลือด (ช่วงเวลาขึ้นกับผลิตภัณฑ์แต่ละชนิด)
5. หญิงวัยเจริญพันธุ์ ควรหลีกเลี่ยงการตั้งครรภ์อย่างน้อย 3 เดือน หลังจากฉีดวัคซีน ถ้าให้วัคซีนโดยไม่ทราบว่าตั้งครรภ์ ไม่ถือเป็นข้อบ่งชี้ในการทำแท้ง
6. ผู้ที่แพ้ gelatin และ neomycin แบบ anaphylaxis ควรหลีกเลี่ยงการใช้วัคซีน
ราคาวัคซีน
ราคาต่อเข็ม 450 บาท (ราคา ณ มิ.ย. 68 อาจเปลี่ยนแปลงได้ ไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล)
ขอบคุณข้อมูลจาก ศูนย์ข้อมูลยา ฝ่ายวิชาการเภสัชสนเทศ
โรคหัด โรคคางทูม และโรคหัดเยอรมัน (measles, mumps, and rubella) เป็นโรคที่ติดต่อโดยการสูดดมละอองฝอยของสารคัดหลั่งจากระบบทางเดินหายใจของผู้ป่วย สามารถติดต่อระหว่างคนสู่คนได้ตั้งแต่เริ่มก่อนมีอาการ ผู้ที่ไม่มีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อนี้หากคลุกคลีสัมผัสกับผู้ติดเชื้อจะป่วยเป็นโรคดังกล่าวและสามารถแพร่กระจายเชื้อไปยังผู้อื่นได้
ทำไมต้องฉีดวัคซีนรวม หัด-คางทูม-หัดเยอรมัน (measles, mumps, rubella (MMR) vaccine)
ผู้ที่ยังไม่เคยมีประวัติเป็นโรคหัด โรคคางทูม หรือโรคหัดเยอรมัน ควรพิจารณารับการฉีดวัคซีนทุกราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อยู่บ้านเดียวกันกับผู้ป่วยที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง ซึ่งมีโอกาสแพร่เชื้อให้กับผู้ที่มีภาวะเสี่ยงเหล่านี้ได้สูง ผู้ที่มีโอกาสสัมผัสเชื้อมากหรือมีโอกาสแพร่กระจายเชื้อให้ผู้อื่นได้มาก เช่น บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ ครู หรือผู้ที่ทำงานกับเด็กจำนวนมาก การได้รับวัคซีนจะช่วยลดการเป็นโรคหัด โรคคางทูม และโรคหัดเยอรมัน และช่วยลดการเกิดโรคที่มีอาการรุนแรง โดยต้องได้รับการฉีดวัดซีน 2 ครั้ง ฉีดเข้าใต้ผิวหนัง ห่างกันอย่างน้อย 4 สัปดาห์
ผลข้างเคียงของวัคซีน
1. มีไข้หรือผื่นขึ้นเฉพาะที่, ปวด บวม แดง ร้อน บริเวณตำแหน่งที่ฉีดวัคซีน
2. อาจมีต่อมน้ำเหลืองที่คอและแก้มโตได้ (พบได้ 1 รายจากผู้ได้รับวัคซีน 75 ราย) โดยอาการจะเกิดได้ 6-14 วัน หลังรับวัคซีน และอาการจะหายไปได้เอง
3. อาการแพ้รุนแรงพบได้น้อยมาก
ข้อห้ามและข้อควรระวัง
1. ห้ามให้ในผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV ที่ CD4 count น้อยกว่า 200 เซลล์ต่อลูกบาศก์มิลลิเมตร หรือน้อยกว่าร้อยละ 15 นานตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป
2. ห้ามให้ในหญิงตั้งครรภ์
3. ผู้ที่รับประทานสเตียรอยด์ ขนาดมากกว่า 2 มก./กก./วัน หรือ 20 มก./วัน นานมากว่า 2 สัปดาห์ ถ้าจะให้วัคชีน ควรหยุดยาสเตียรอยด์อย่างน้อย 1 เดือน
4. ผู้ที่ได้พลาสมา อิมมูโนโกลบูลิน หรือผลิตภัณฑ์จากเลือดมาไม่นาน ไม่ควรให้วัคซีนเพราะอาจรบกวนการสร้างภูมิคุ้มกันโรค โดยควรเว้นช่วงเวลาหลังจากได้รับผลิตภัณฑ์จากเลือด (ช่วงเวลาขึ้นกับผลิตภัณฑ์แต่ละชนิด)
5. หญิงวัยเจริญพันธุ์ ควรหลีกเลี่ยงการตั้งครรภ์อย่างน้อย 3 เดือน หลังจากฉีดวัคซีน ถ้าให้วัคซีนโดยไม่ทราบว่าตั้งครรภ์ ไม่ถือเป็นข้อบ่งชี้ในการทำแท้ง
6. ผู้ที่แพ้ gelatin และ neomycin แบบ anaphylaxis ควรหลีกเลี่ยงการใช้วัคซีน
ราคาวัคซีน
ราคาต่อเข็ม 450 บาท (ราคา ณ มิ.ย. 68 อาจเปลี่ยนแปลงได้ ไม่รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล)
ขอบคุณข้อมูลจาก ศูนย์ข้อมูลยา ฝ่ายวิชาการเภสัชสนเทศ
