
ออกกำลังกายเพิ่มความฟิต พิชิตเบาหวาน
นอกจากการควบคุมเรื่องการรับประทานอาหารในผู้เป็นเบาหวานแล้ว ควรให้ความสำคัญกับการออกกำลังกาย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยควบคุมเบาหวาน ควบคู่ไปกับการควบคุมเรื่องการอาหารและการรับประทานยา เพราะเมื่อเราออกกำลังเซลล์ของร่างกายจะไวต่ออินซูลินเพิ่มขึ้น ทำให้นำน้ำตาลในกระแสเลือดไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น การออกกำลังกายสม่ำเสมอจะช่วยลดน้ำตาลในกระแสเลือด รวมถึงระดับน้ำตาลสะสมได้
การออกกำลังกายที่แนะนำสำหรับผู้ที่เป็นเบาหวาน
ควรออกกำลังกายสม่ำเสมอทำต่อเนื่องครั้งละ 10 นาที วันละ 30 นาที อย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ กิจกรรมที่แนะนำเช่น การเดิน, ขี่จักรยาน, การออกกำลังแบบมีแรงต้าน หรือการฝึกการทรงตัว โดยทั่วไปการออกกำลังโดยการเดินอย่างน้อย 10,000 ก้าวต่อวัน สามารถทำได้โดยไม่มีข้อห้ามในผู้ป่วยส่วนใหญ่ รวมถึงกิจกรรมทางกายระดับเบาถึงปานกลาง หากท่านไม่เคยออกกำลังมาก่อน หรือรู้สึกไม่มั่นใจ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่ม
คำแนะนำในการออกกำลังกาย
- ควรออกกำลังหลังมื้ออาหาร อย่างน้อย 1-2 ชม.
- สวมใส่เสื้อผ้า และรองเท้าที่เหมาะสม เลี่ยงเสื้อผ้าที่รัดแน่น
- Warm up 5-10 นาที ก่อนออกกำลังกาย และ cool down 5-10 นาที หลังออกกำลัง
- เลี่ยงการออกกำลังกายในภาวะอากาศที่ร้อนจัดหรือหนาวจัดจนเกินไป
- ควรดื่มน้ำก่อน ระหว่างและหลังการออกกำลังเพื่อเลี่ยงการขาดน้ำ
- เลี่ยงการออกกำลังระดับที่หนักเกินไป
- ถ้ามีอาการผิดปกติขณะออกกำลัง เช่น เวียนศีรษะ เหนื่อย ให้หยุดและปรึกษาแพทย์
ประโยชน์ในการออกกำลังกาย
- ช่วยลดระดับน้ำตาลและลดระดับไขมันในเลือด
- ป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่างๆของโรคเบาหวาน
- ลดปริมาณยารักษาเบาหวาน
- คลายความเครียด
- ช่วยควบคุมน้ำหนักและลดน้ำหนักในคนอ้วน
การเตรียมความพร้อมก่อนออกกำลังกาย
- เครื่องแต่งกาย
เสื้อผ้า : สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี
รองเท้า : ควรสวมใส่รองเท้าที่เหมาะสมสำหรับออกกำลังกายแต่ละประเภท
ถุงเท้า : ควรสวมถุงเท้าที่ทำจากโพลีเอสเตอร์ หรือโพลีเอสเตอร์ผสมคอตตอน เพื่อป้องกันการเกิดแผล - พบบัตรประจำตัวระบุโรค เช่น เป็นเบาหวาน หรือสมุดประจำตัวผู้เป็นเบาหวาน
- ตรวจดูเท้าว่ามีแผล รอยถลอก แผลพุพอง บวมแดงหรือไม่
- อบอุ่นร่างกายก่อนออกกำลังกาย
- ดื่มน้ำเปล่าอย่างเพียงพอ
กรณีใช้ยาฉีดอินซูลิน หรือผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 1
ก่อนออกกำลังกาย
- ตรวจดูระดับน้ำตาลปลายนิ้ว หากน้อยกว่า 100 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร แนะนำให้รับประทานอาหารคาร์โบไฮเดตร 15 กรัม เช่น น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ น้ำส้มคั้นหรือน้ำอัดลม 180 มิลลิลิตร นมสด 240 มิลลิลิตร หรือกล้วยน้ำว้า 1 ผล เป็นต้น เพื่อป้องกันการเกิดภาวะระดับน้ำตาลในเลือดต่ำระหว่างออกกำลังกาย
- เตรียมอาหารประเภทคาร์โบไฮเดตร 15 กรัม เช่น น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ น้ำส้มคั้นหรือน้ำอัดลม 180 มิลลิลิตร นมสด 240 มิลลิลิตร หรือกล้วยน้ำว้า 1 ผล เป็นต้น เพื่อใช้แก้ไขเมื่อเกิดภาวะระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ
ระหว่างออกกำลังกาย
- กรณีฉีดยาอินซูลินหากออกกำลังกายระดับหนักหรือใช้ระยะเวลามากกว่า 1 ชั่วโมง ควรตรวจระดับน้ำตาลในเลือดซ้ำ
- กรณีระดับน้ำตาลในเลือดต่ำเมื่อออกกำลังกายระดับหนัก ควรรับประทานคาร์โบไฮเดตร 10-20 กรัม และตรวจระดับน้ำตาลในเลือดซ้ำ
- ดื่มน้ำเปล่าให้เพียพอ ทดแทนการสูญเสียน้ำ
หลังออกกำลังกาย
- ควรตรวจระดับน้ำตาลในเลือดหลังออกกำลังกาย รวมถึงช่วงกลางคืนโดยเฉพาะในระยะเริ่มฝึกออกกำลังกาย
กรณ๊ที่ไม่ได้ฉีดอินซูลินและควบคุมระดับน้ำตาลได้ดี
อาจเกิดภาวะระดับน้ำตาลในเลือดต่ำภายหลังออกกำลังกายได้ หากมีอาการผิดปกติและค่าระดับน้ำตาลในเลือดน้อยกว่าหรือเท่ากับ 70 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร แนะนำให้รับประทานอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต 15 กรัม เช่น น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ น้ำส้มคั้นหรือน้ำอัดลม 180 มิลลิลิตร นมสด 240 มิลลิลิตร หรือกล้วยน้ำว้า 1 ผล เป็นต้น เพื่อแก้ไขภาวะระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ
ข้อควรระวัง
ถ้าท่านเคยมีอาการของภาวะน้ำตาลต่ำ หรือใช้ยากลุ่มอินซุลิน ควรมีการตรวจสอบระดับน้ำตาลในเลือดเป็นระยะ ช่วงก่อน ขณะ และหลังออกกำลังกายรวมถึงเตรียมอาหารว่างติดตัวเพื่อแก้ไข หากมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
* หากท่านมีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ จากเบาหวานเช่น โรคหัวใจ, แผลที่เท้า, เบาหวานขึ้นตา ควรปรึกษาแพทย์ก่อนออกกำลังกาย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คลิก!! คลินิกเบาหวาน ไทรอยด์ และต่อมไร้ท่อ ชั้น 4 โซน D
นอกจากการควบคุมเรื่องการรับประทานอาหารในผู้เป็นเบาหวานแล้ว ควรให้ความสำคัญกับการออกกำลังกาย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยควบคุมเบาหวาน ควบคู่ไปกับการควบคุมเรื่องการอาหารและการรับประทานยา เพราะเมื่อเราออกกำลังเซลล์ของร่างกายจะไวต่ออินซูลินเพิ่มขึ้น ทำให้นำน้ำตาลในกระแสเลือดไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น การออกกำลังกายสม่ำเสมอจะช่วยลดน้ำตาลในกระแสเลือด รวมถึงระดับน้ำตาลสะสมได้
การออกกำลังกายที่แนะนำสำหรับผู้ที่เป็นเบาหวาน
ควรออกกำลังกายสม่ำเสมอทำต่อเนื่องครั้งละ 10 นาที วันละ 30 นาที อย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ กิจกรรมที่แนะนำเช่น การเดิน, ขี่จักรยาน, การออกกำลังแบบมีแรงต้าน หรือการฝึกการทรงตัว โดยทั่วไปการออกกำลังโดยการเดินอย่างน้อย 10,000 ก้าวต่อวัน สามารถทำได้โดยไม่มีข้อห้ามในผู้ป่วยส่วนใหญ่ รวมถึงกิจกรรมทางกายระดับเบาถึงปานกลาง หากท่านไม่เคยออกกำลังมาก่อน หรือรู้สึกไม่มั่นใจ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่ม
คำแนะนำในการออกกำลังกาย
- ควรออกกำลังหลังมื้ออาหาร อย่างน้อย 1-2 ชม.
- สวมใส่เสื้อผ้า และรองเท้าที่เหมาะสม เลี่ยงเสื้อผ้าที่รัดแน่น
- Warm up 5-10 นาที ก่อนออกกำลังกาย และ cool down 5-10 นาที หลังออกกำลัง
- เลี่ยงการออกกำลังกายในภาวะอากาศที่ร้อนจัดหรือหนาวจัดจนเกินไป
- ควรดื่มน้ำก่อน ระหว่างและหลังการออกกำลังเพื่อเลี่ยงการขาดน้ำ
- เลี่ยงการออกกำลังระดับที่หนักเกินไป
- ถ้ามีอาการผิดปกติขณะออกกำลัง เช่น เวียนศีรษะ เหนื่อย ให้หยุดและปรึกษาแพทย์
ประโยชน์ในการออกกำลังกาย
- ช่วยลดระดับน้ำตาลและลดระดับไขมันในเลือด
- ป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่างๆของโรคเบาหวาน
- ลดปริมาณยารักษาเบาหวาน
- คลายความเครียด
- ช่วยควบคุมน้ำหนักและลดน้ำหนักในคนอ้วน
การเตรียมความพร้อมก่อนออกกำลังกาย
- เครื่องแต่งกาย
เสื้อผ้า : สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี
รองเท้า : ควรสวมใส่รองเท้าที่เหมาะสมสำหรับออกกำลังกายแต่ละประเภท
ถุงเท้า : ควรสวมถุงเท้าที่ทำจากโพลีเอสเตอร์ หรือโพลีเอสเตอร์ผสมคอตตอน เพื่อป้องกันการเกิดแผล - พบบัตรประจำตัวระบุโรค เช่น เป็นเบาหวาน หรือสมุดประจำตัวผู้เป็นเบาหวาน
- ตรวจดูเท้าว่ามีแผล รอยถลอก แผลพุพอง บวมแดงหรือไม่
- อบอุ่นร่างกายก่อนออกกำลังกาย
- ดื่มน้ำเปล่าอย่างเพียงพอ
กรณีใช้ยาฉีดอินซูลิน หรือผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 1
ก่อนออกกำลังกาย
- ตรวจดูระดับน้ำตาลปลายนิ้ว หากน้อยกว่า 100 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร แนะนำให้รับประทานอาหารคาร์โบไฮเดตร 15 กรัม เช่น น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ น้ำส้มคั้นหรือน้ำอัดลม 180 มิลลิลิตร นมสด 240 มิลลิลิตร หรือกล้วยน้ำว้า 1 ผล เป็นต้น เพื่อป้องกันการเกิดภาวะระดับน้ำตาลในเลือดต่ำระหว่างออกกำลังกาย
- เตรียมอาหารประเภทคาร์โบไฮเดตร 15 กรัม เช่น น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ น้ำส้มคั้นหรือน้ำอัดลม 180 มิลลิลิตร นมสด 240 มิลลิลิตร หรือกล้วยน้ำว้า 1 ผล เป็นต้น เพื่อใช้แก้ไขเมื่อเกิดภาวะระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ
ระหว่างออกกำลังกาย
- กรณีฉีดยาอินซูลินหากออกกำลังกายระดับหนักหรือใช้ระยะเวลามากกว่า 1 ชั่วโมง ควรตรวจระดับน้ำตาลในเลือดซ้ำ
- กรณีระดับน้ำตาลในเลือดต่ำเมื่อออกกำลังกายระดับหนัก ควรรับประทานคาร์โบไฮเดตร 10-20 กรัม และตรวจระดับน้ำตาลในเลือดซ้ำ
- ดื่มน้ำเปล่าให้เพียพอ ทดแทนการสูญเสียน้ำ
หลังออกกำลังกาย
- ควรตรวจระดับน้ำตาลในเลือดหลังออกกำลังกาย รวมถึงช่วงกลางคืนโดยเฉพาะในระยะเริ่มฝึกออกกำลังกาย
กรณ๊ที่ไม่ได้ฉีดอินซูลินและควบคุมระดับน้ำตาลได้ดี
อาจเกิดภาวะระดับน้ำตาลในเลือดต่ำภายหลังออกกำลังกายได้ หากมีอาการผิดปกติและค่าระดับน้ำตาลในเลือดน้อยกว่าหรือเท่ากับ 70 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร แนะนำให้รับประทานอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต 15 กรัม เช่น น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ น้ำส้มคั้นหรือน้ำอัดลม 180 มิลลิลิตร นมสด 240 มิลลิลิตร หรือกล้วยน้ำว้า 1 ผล เป็นต้น เพื่อแก้ไขภาวะระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ
ข้อควรระวัง
ถ้าท่านเคยมีอาการของภาวะน้ำตาลต่ำ หรือใช้ยากลุ่มอินซุลิน ควรมีการตรวจสอบระดับน้ำตาลในเลือดเป็นระยะ ช่วงก่อน ขณะ และหลังออกกำลังกายรวมถึงเตรียมอาหารว่างติดตัวเพื่อแก้ไข หากมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
* หากท่านมีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ จากเบาหวานเช่น โรคหัวใจ, แผลที่เท้า, เบาหวานขึ้นตา ควรปรึกษาแพทย์ก่อนออกกำลังกาย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คลิก!! คลินิกเบาหวาน ไทรอยด์ และต่อมไร้ท่อ ชั้น 4 โซน D