วัคซีนไข้หวัดใหญ่ (Influenza Vaccine)

     โรคไข้หวัดใหญ่มีสาเหตุมาจากการที่ร่างกายได้รับเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการทางระบบทางเดินหายใจ มีไข้สูง ปวดศีรษะ อ่อนเพลียและปวดเมื่อยตามตัวร่วมด้วย ในบางรายจะมีอาการรุนแรงและจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาภายในโรงพยาบาลหลังจากหายป่วยแล้วร่างกายอาจมีอาการอ่อนเพลียติดต่อกันไปอีกหลายสัปดาห์ ดังนั้นการป้องกันโรคด้วยการฉีดวัคซีนจึงมีความสำคัญไม่น้อย

ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่อันตรายหรือไม่?

  • วัคซีนไข้หวัดใหญ่ทำมาจากเชื้อที่ตายแล้วทำให้หมดความสามารถในการก่อโรคจึงมีความปลอดภัยสูง นอกจากนั้นยังมีประสิทธิภาพที่ดีในการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่อีกด้วย แต่ผู้ฉีดวัคซีนแล้วยังอาจเป็นไข้หวัดใหญ่ได้ซึ่งอาการจะไม่รุนแรง

อาการข้างเคียงหลังฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่?

  • ผู้รับวัคซีนอาจมีอาการบวมแดงบริเวณที่ฉีด มีไข้หรือปวดเมื่อย โดยมักจะเริ่มมีอาการไม่นานหลังฉีดวัคซีนไปแล้ว และควรหายเป็นปกติได้เองภายใน 1-2 วัน ส่วนการแพ้ถึงขั้นเป็นอันตรายต่อชีวิตมีน้อยมาก ถ้าหากเกิดขึ้นจะปรากฏภายใน 2-3 นาที ถึง 2-3 ชั่วโมงหลังฉีด โดยอาจมีอาการหายใจไม่สะดวกเสียงแหบหรือหายใจมีเสียงดัง ลมพิษ ซีดขาว อ่อนเพลีย หัวใจเต้นเร็ว หรือเวียนศีรษะ หากมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งควรรีบพบแพทย์โดยด่วน

 

 

 

ใครที่สามารถฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้และฉีดได้เวลาใดบ้าง?

  • สามารถเริ่มฉีดได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป โดยฉีดปีละ 1 ครั้ง โดยเฉพาะเด็กที่อายุน้อยกว่า 2 ปี ควรต้องฉีดอย่างยิ่ง ซึ่งสามารถฉีดได้ตลอดปี แต่แนะนำในช่วงเริ่มเข้าสู่ฤดูฝน (มีนาคม-พฤษภาคม) หรือเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว (ตุลาคม-พฤศจิกายน)
  • ส่วนเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 9 ปี ซึ่งได้รับวัคซีนเป็นครั้งแรกให้ฉีดทั้งหมด 2 เข็ม โดยห่างกัน 1 เดือน หลังจากนั้นให้ฉีดซ้ำทุกปี ปีละ 1 เข็ม

ข้อห้ามในการใช้วัคซีน

  • เด็กทารกที่มีอายุน้อยกว่า 6 เดือน
  • ผู้ที่เคยฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่แล้วพบว่ามีอาการแพ้อย่างรุนแรง
  • ผู้ที่มีไข้หรือเจ็บป่วยควรเลื่อนการรับวัคซีนไปก่อน

ขอบคุณข้อมูลจาก พญ.วรพร พุ่มเล็ก

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คลิก!! ศูนย์เด็ก ชั้น 3 โซน E

 

     โรคไข้หวัดใหญ่มีสาเหตุมาจากการที่ร่างกายได้รับเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการทางระบบทางเดินหายใจ มีไข้สูง ปวดศีรษะ อ่อนเพลียและปวดเมื่อยตามตัวร่วมด้วย ในบางรายจะมีอาการรุนแรงและจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาภายในโรงพยาบาลหลังจากหายป่วยแล้วร่างกายอาจมีอาการอ่อนเพลียติดต่อกันไปอีกหลายสัปดาห์ ดังนั้นการป้องกันโรคด้วยการฉีดวัคซีนจึงมีความสำคัญไม่น้อย

ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่อันตรายหรือไม่?

  • วัคซีนไข้หวัดใหญ่ทำมาจากเชื้อที่ตายแล้วทำให้หมดความสามารถในการก่อโรคจึงมีความปลอดภัยสูง นอกจากนั้นยังมีประสิทธิภาพที่ดีในการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่อีกด้วย แต่ผู้ฉีดวัคซีนแล้วยังอาจเป็นไข้หวัดใหญ่ได้ซึ่งอาการจะไม่รุนแรง

อาการข้างเคียงหลังฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่?

  • ผู้รับวัคซีนอาจมีอาการบวมแดงบริเวณที่ฉีด มีไข้หรือปวดเมื่อย โดยมักจะเริ่มมีอาการไม่นานหลังฉีดวัคซีนไปแล้ว และควรหายเป็นปกติได้เองภายใน 1-2 วัน ส่วนการแพ้ถึงขั้นเป็นอันตรายต่อชีวิตมีน้อยมาก ถ้าหากเกิดขึ้นจะปรากฏภายใน 2-3 นาที ถึง 2-3 ชั่วโมงหลังฉีด โดยอาจมีอาการหายใจไม่สะดวกเสียงแหบหรือหายใจมีเสียงดัง ลมพิษ ซีดขาว อ่อนเพลีย หัวใจเต้นเร็ว หรือเวียนศีรษะ หากมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งควรรีบพบแพทย์โดยด่วน

 

 

 

ใครที่สามารถฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้และฉีดได้เวลาใดบ้าง?

  • สามารถเริ่มฉีดได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป โดยฉีดปีละ 1 ครั้ง โดยเฉพาะเด็กที่อายุน้อยกว่า 2 ปี ควรต้องฉีดอย่างยิ่ง ซึ่งสามารถฉีดได้ตลอดปี แต่แนะนำในช่วงเริ่มเข้าสู่ฤดูฝน (มีนาคม-พฤษภาคม) หรือเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว (ตุลาคม-พฤศจิกายน)
  • ส่วนเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 9 ปี ซึ่งได้รับวัคซีนเป็นครั้งแรกให้ฉีดทั้งหมด 2 เข็ม โดยห่างกัน 1 เดือน หลังจากนั้นให้ฉีดซ้ำทุกปี ปีละ 1 เข็ม

ข้อห้ามในการใช้วัคซีน

  • เด็กทารกที่มีอายุน้อยกว่า 6 เดือน
  • ผู้ที่เคยฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่แล้วพบว่ามีอาการแพ้อย่างรุนแรง
  • ผู้ที่มีไข้หรือเจ็บป่วยควรเลื่อนการรับวัคซีนไปก่อน

ขอบคุณข้อมูลจาก พญ.วรพร พุ่มเล็ก

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คลิก!! ศูนย์เด็ก ชั้น 3 โซน E


ค้นหาแพทย์

สาระสุขภาพ

ศูนย์รักษาโรคเฉพาะทาง