กินหมูสุกๆ ดิบๆ เสี่ยงโรคไข้หูดับ

     โรคไข้หูดับ คือ ภาวะติดเชื้อแบคทีเรีย Streptococcus Suis โดยผู้ป่วยจะมีอาการไข้ หนาวสั่น ปวดเมื่อยตามตัว เกิดภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบ และติดเชื้อในกระแสเลือด ทำให้ผู้ป่วยจะมีอาการปวดศีรษะรุนแรง อาเจียน คอแข็ง เกิดภาวะแทรกซ้อนหูดับถาวร หรือเสียชีวิตได้

     เชื้อแบคทีเรีย Streptococcus Suis อยู่ในทางเดินหายใจหมู และในเลือดของหมูที่กำลังป่วย เชื้อนี้จะติดต่อมายังคนได้จากการบริโภคเนื้อหมู เลือดหมูที่ปรุงแบบสุก ๆ ดิบ ๆ หรือแบบดิบ และจากการสัมผัสชิ้นส่วนของเนื้อหมู เลือดหมู ผ่านทางผิวหนังที่มีรอยถลอก บาดแผล หรือเยื่อบุตา โดยกลุ่มเสี่ยงที่หากสัมผัสเชื้อแล้วจะมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงได้มาก ได้แก่ กลุ่มผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคไตเรื้อรัง กลุ่มบุคคลที่มีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำจากสาเหตุต่าง ๆ

     โรคไข้หูดับจัดเป็นโรคติดเชื้อที่สามารถป้องกันได้ไม่ยาก พื้นฐานคือดูแลจัดการร่างกายตนเองให้แข็งแรง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงจากการสัมผัสหรือบริโภคเนื้อหมูที่ไม่ได้รับการปรุงสุก หากเลี่ยงการสัมผัสเนื้อหมู หรือส่วนประกอบของเนื้อหมูไม่ได้ ก็ควรมีการป้องกันเบื้องต้น เช่น สวมถุงมือ ใส่รองเท้าบูท เป็นต้น

     การวินิจฉัย ทำได้ในผู้ที่มีอาการน่าสงสัย เช่น ไข้สูง ปวดศีรษะ คอแข็ง  มีประวัติสัมผัส หรือบริโภคเนื้อหมูแบบสุก ๆ ดิบ ๆ มาก่อน ในช่วงไม่เกิน 14 วัน โดยผู้ป่วยจะได้รับการตรวจเพาะเชื้อจากเลือด และน้ำเยื่อหุ้มไขสันหลัง เพื่อหาเชื้อ Streptococcus Suis

     การรักษา จะเป็นการดูแลรักษาแบบครบด้าน ทั้งการรักษาแบบเฉพาะเจาะจงคือการให้ยาฆ่าเชื้อก่อโรคผ่านทางเส้นเลือดดำ การรักษาตามอาการ คือการดูแล ลดอาการปวด ลดอาการไข้ ลดอาการเวียนศีรษะ ด้วยวิธีการทางยาและอื่น ๆ การรักษาประคับประคอง คือ การช่วยให้สารน้ำ สารอาหาร เกลือแร่ต่าง ๆ แก่ผู้ป่วยอย่างพอเพียง

     ภาวะแทรกซ้อนรุนแรงทางหู คือ ภาวะหูดับ จะเกิดขึ้นตามหลังจากการเกิดภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบ โดยการอักเสบจะลามจากน้ำเยื่อหุ้มสมองมายังหูชั้นใน ทำให้เกิดภาวะหูชั้นในอักเสบ ซึ่งในส่วนของกระดูกก้นหอยของหูชั้นใน มีอวัยวะที่ทำหน้าที่รับเสียงอยู่ ทำให้เกิดอาการหูดับขึ้น โดยมักจะเป็นกับหูทั้งสองข้าง หากเกิดขึ้นแล้ว ผู้ป่วยจะไม่สามารถได้ยินอีก จัดเป็นภาวะรีบด่วนที่ผู้ป่วยควรต้องได้รับการผ่าตัดใส่ประสาทหูเทียมเพื่อฟื้นฟูการได้ยิน ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยมีโอกาสที่จะกลับมาสื่อสารในแบบสังคมปกติได้อีกครั้ง

     ภาวะหูดับจากโรคไข้หูดับ จัดเป็นภาวะที่สมควรได้รับการวินิจฉัยได้โดยเร็ว เนื่องจากสมองที่ไม่ได้รับการกระตุ้นจากเสียง จะเสียความสามารถในการรับฟังไปเรื่อย ๆ ยิ่งนานวัน โอกาสฟื้นฟูก็จะยิ่งลดลงทำให้โอกาสความสำเร็จหลังการผ่าตัดลดลง และอีกปัจจัยที่สำคัญมากคือ ภาวะไข้หูดับ มีโอกาสที่จะเกิดการตีบตันของท่อนำเสียงในกระดูกก้นหอยสูงมาก จึงควรพิจารณาการรักษาอย่างเร็วไว เพราะหากท่อนำเสียงในกระดูกก้นหอยตีบตันไปแล้ว การผ่าตัดใส่ประสาทหูเทียมแบบมาตรฐานก็จะไม่สามารถทำได้เลย

ข้อมูลจาก ผศ. นพ. ศรัญ ประกายรุ้งทอง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์หู คอ จมูก ชั้น 3 โซน D

     โรคไข้หูดับ คือ ภาวะติดเชื้อแบคทีเรีย Streptococcus Suis โดยผู้ป่วยจะมีอาการไข้ หนาวสั่น ปวดเมื่อยตามตัว เกิดภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบ และติดเชื้อในกระแสเลือด ทำให้ผู้ป่วยจะมีอาการปวดศีรษะรุนแรง อาเจียน คอแข็ง เกิดภาวะแทรกซ้อนหูดับถาวร หรือเสียชีวิตได้

     เชื้อแบคทีเรีย Streptococcus Suis อยู่ในทางเดินหายใจหมู และในเลือดของหมูที่กำลังป่วย เชื้อนี้จะติดต่อมายังคนได้จากการบริโภคเนื้อหมู เลือดหมูที่ปรุงแบบสุก ๆ ดิบ ๆ หรือแบบดิบ และจากการสัมผัสชิ้นส่วนของเนื้อหมู เลือดหมู ผ่านทางผิวหนังที่มีรอยถลอก บาดแผล หรือเยื่อบุตา โดยกลุ่มเสี่ยงที่หากสัมผัสเชื้อแล้วจะมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงได้มาก ได้แก่ กลุ่มผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคไตเรื้อรัง กลุ่มบุคคลที่มีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำจากสาเหตุต่าง ๆ

     โรคไข้หูดับจัดเป็นโรคติดเชื้อที่สามารถป้องกันได้ไม่ยาก พื้นฐานคือดูแลจัดการร่างกายตนเองให้แข็งแรง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงจากการสัมผัสหรือบริโภคเนื้อหมูที่ไม่ได้รับการปรุงสุก หากเลี่ยงการสัมผัสเนื้อหมู หรือส่วนประกอบของเนื้อหมูไม่ได้ ก็ควรมีการป้องกันเบื้องต้น เช่น สวมถุงมือ ใส่รองเท้าบูท เป็นต้น

     การวินิจฉัย ทำได้ในผู้ที่มีอาการน่าสงสัย เช่น ไข้สูง ปวดศีรษะ คอแข็ง  มีประวัติสัมผัส หรือบริโภคเนื้อหมูแบบสุก ๆ ดิบ ๆ มาก่อน ในช่วงไม่เกิน 14 วัน โดยผู้ป่วยจะได้รับการตรวจเพาะเชื้อจากเลือด และน้ำเยื่อหุ้มไขสันหลัง เพื่อหาเชื้อ Streptococcus Suis

     การรักษา จะเป็นการดูแลรักษาแบบครบด้าน ทั้งการรักษาแบบเฉพาะเจาะจงคือการให้ยาฆ่าเชื้อก่อโรคผ่านทางเส้นเลือดดำ การรักษาตามอาการ คือการดูแล ลดอาการปวด ลดอาการไข้ ลดอาการเวียนศีรษะ ด้วยวิธีการทางยาและอื่น ๆ การรักษาประคับประคอง คือ การช่วยให้สารน้ำ สารอาหาร เกลือแร่ต่าง ๆ แก่ผู้ป่วยอย่างพอเพียง

     ภาวะแทรกซ้อนรุนแรงทางหู คือ ภาวะหูดับ จะเกิดขึ้นตามหลังจากการเกิดภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบ โดยการอักเสบจะลามจากน้ำเยื่อหุ้มสมองมายังหูชั้นใน ทำให้เกิดภาวะหูชั้นในอักเสบ ซึ่งในส่วนของกระดูกก้นหอยของหูชั้นใน มีอวัยวะที่ทำหน้าที่รับเสียงอยู่ ทำให้เกิดอาการหูดับขึ้น โดยมักจะเป็นกับหูทั้งสองข้าง หากเกิดขึ้นแล้ว ผู้ป่วยจะไม่สามารถได้ยินอีก จัดเป็นภาวะรีบด่วนที่ผู้ป่วยควรต้องได้รับการผ่าตัดใส่ประสาทหูเทียมเพื่อฟื้นฟูการได้ยิน ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยมีโอกาสที่จะกลับมาสื่อสารในแบบสังคมปกติได้อีกครั้ง

     ภาวะหูดับจากโรคไข้หูดับ จัดเป็นภาวะที่สมควรได้รับการวินิจฉัยได้โดยเร็ว เนื่องจากสมองที่ไม่ได้รับการกระตุ้นจากเสียง จะเสียความสามารถในการรับฟังไปเรื่อย ๆ ยิ่งนานวัน โอกาสฟื้นฟูก็จะยิ่งลดลงทำให้โอกาสความสำเร็จหลังการผ่าตัดลดลง และอีกปัจจัยที่สำคัญมากคือ ภาวะไข้หูดับ มีโอกาสที่จะเกิดการตีบตันของท่อนำเสียงในกระดูกก้นหอยสูงมาก จึงควรพิจารณาการรักษาอย่างเร็วไว เพราะหากท่อนำเสียงในกระดูกก้นหอยตีบตันไปแล้ว การผ่าตัดใส่ประสาทหูเทียมแบบมาตรฐานก็จะไม่สามารถทำได้เลย

ข้อมูลจาก ผศ. นพ. ศรัญ ประกายรุ้งทอง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์หู คอ จมูก ชั้น 3 โซน D

 


ค้นหาแพทย์

สาระสุขภาพ

ศูนย์รักษาโรคเฉพาะทาง