เทคนิคปรับความถี่ ลดการดื่มน้ำหวาน

มาปรับความถี่ ลดการดื่มน้ำหวานกันเถอะ

1. เลือกขนาดแก้วที่ดื่ม สั่งแก้วเล็กลง เพื่อลดปริมาณน้ำตาล และไขมันในเครื่องดื่ม

2. ลดความหวาน แนะนำให้ค่อย ๆ ปรับความหวานลงมา หากเดิมดื่มหวาน 100% ลองปรับเหลือ 75% 50% และ 25% ตามลำดับ ในบางร้านมีการใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาล สามารถใช้แทนได้หรือสั่งแบบไม่หวานแล้วมาเติมน้ำตาลเอง เพื่อให้ทราบถึงปริมาณน้ำตาลที่ใช้ โดยแนะนำให้ใช้น้ำตาลไม่เกิน 2 - 3 ช้อนชาต่อแก้ว (ปริมาณน้ำตาลในที่นี้รวมถึงน้ำผึ้ง น้ำตาลทรายแดงและไซรัปต่าง ๆ)

3. เลี่ยงท็อปปิ้ง เลือกไม่เติมท็อปปิ้งเพิ่ม รวมถึงการราดนมข้นจืดบนเครื่องดื่มก่อนเสิร์ฟ จะช่วยลดพลังงานส่วนเกินได้ถึง 40 กิโลแคลอรี เท่ากับข้าวครึ่งทัพพีเลย

4. เปลี่ยนเมนู แนะนำเลือกเครื่องดื่มแบบใส เนื่องจากเครื่องดื่มที่มีนมเป็นส่วนประกอบ มักมีความหวานมันจากน้ำตาลทรายและนมข้นหวาน ทำให้มีพลังงานและน้ำตาลที่มากกว่า

5. ปรับประเภทเครื่องดื่ม แนะนำสั่งแบบร้อนหรือเย็นมากกว่าเครื่องดื่มแบบปั่น เนื่องจากแบบปั่นจะมีความหวานและความเข้มข้นมากกว่า ทำให้ได้รับพลังงานและน้ำตาลมากกว่า

6. จำนวนและความถี่การดื่ม หากคุณดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลวันละหลายแก้ว หรือดื่มทุกวันติดต่อกัน แนะนำปรับลดจำนวนแก้วต่อวัน อาจปรับเป็นจิบน้ำเปล่าสลับ เพื่อลดจำนวนแก้วต่อวันหรือหากดื่มทุกวัน อาจปรับเป็นวันเว้นวัน หรือปรับเป็นสูตรที่ไม่เติมน้ำตาล

ข้อมูลจาก: นักกำหนดอาหาร แผนกโภชนาการ

มาปรับความถี่ ลดการดื่มน้ำหวานกันเถอะ

1. เลือกขนาดแก้วที่ดื่ม สั่งแก้วเล็กลง เพื่อลดปริมาณน้ำตาล และไขมันในเครื่องดื่ม

2. ลดความหวาน แนะนำให้ค่อย ๆ ปรับความหวานลงมา หากเดิมดื่มหวาน 100% ลองปรับเหลือ 75% 50% และ 25% ตามลำดับ ในบางร้านมีการใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาล สามารถใช้แทนได้หรือสั่งแบบไม่หวานแล้วมาเติมน้ำตาลเอง เพื่อให้ทราบถึงปริมาณน้ำตาลที่ใช้ โดยแนะนำให้ใช้น้ำตาลไม่เกิน 2 - 3 ช้อนชาต่อแก้ว (ปริมาณน้ำตาลในที่นี้รวมถึงน้ำผึ้ง น้ำตาลทรายแดงและไซรัปต่าง ๆ)

3. เลี่ยงท็อปปิ้ง เลือกไม่เติมท็อปปิ้งเพิ่ม รวมถึงการราดนมข้นจืดบนเครื่องดื่มก่อนเสิร์ฟ จะช่วยลดพลังงานส่วนเกินได้ถึง 40 กิโลแคลอรี เท่ากับข้าวครึ่งทัพพีเลย

4. เปลี่ยนเมนู แนะนำเลือกเครื่องดื่มแบบใส เนื่องจากเครื่องดื่มที่มีนมเป็นส่วนประกอบ มักมีความหวานมันจากน้ำตาลทรายและนมข้นหวาน ทำให้มีพลังงานและน้ำตาลที่มากกว่า

5. ปรับประเภทเครื่องดื่ม แนะนำสั่งแบบร้อนหรือเย็นมากกว่าเครื่องดื่มแบบปั่น เนื่องจากแบบปั่นจะมีความหวานและความเข้มข้นมากกว่า ทำให้ได้รับพลังงานและน้ำตาลมากกว่า

6. จำนวนและความถี่การดื่ม หากคุณดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลวันละหลายแก้ว หรือดื่มทุกวันติดต่อกัน แนะนำปรับลดจำนวนแก้วต่อวัน อาจปรับเป็นจิบน้ำเปล่าสลับ เพื่อลดจำนวนแก้วต่อวันหรือหากดื่มทุกวัน อาจปรับเป็นวันเว้นวัน หรือปรับเป็นสูตรที่ไม่เติมน้ำตาล

ข้อมูลจาก: นักกำหนดอาหาร แผนกโภชนาการ


ค้นหาแพทย์

สาระสุขภาพ

ศูนย์รักษาโรคเฉพาะทาง