อาการเสี่ยง ภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์

ภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ คืออะไร?

   ภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ หรือบางครั้งเรียกว่า ภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำ หรือภาวะขาดฮอร์โมนไทรอยด์ เป็น ภาวะที่ต่อมไทรอยด์ไม่สามารถสร้างและหลั่งฮอร์โมนได้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย สาเหตุเกิดจากความผิดปกติของต่อมไทรอยด์เอง หรือต่อมใต้สมองที่ไม่สามารถหลั่งฮอร์โมนมากระตุ้นต่อมไทรอยด์ ให้สร้างและผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ได้ตามปกติ

สาเหตุของภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์

   เกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่ที่พบได้บ่อย ได้แก่ เกิดขึ้นภายหลังการผ่าตัดต่อมไทรอยด์ออกบางส่วนหรือตัดต่อมไทรอยด์ทั้งหมด, ภายหลังการได้รับน้ำแร่รังสีไอโอดีนสำหรับรักษาโรคไทรอยด์เป็นพิษ, การได้รับการฉายรังสีรักษาบริเวณศีรษะ ลำคอ และบริเวณฐานสมองในผู้ป่วยมะเร็งบางชนิด, เกิดภายหลังการเป็นไทรอยด์อักเสบบางชนิด เช่น โรคไทรอยด์อักเสบชนิดฮาชิโมโต (Hashimoto’s thyroiditis), ภายหลังการผ่าตัดก้อนเนื้องอกบริเวณต่อมใต้สมอง และภาวะขาดสารไอโอดีน เป็นต้น

อาการของภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์

   อาการขึ้นกับความรุนแรงของการขาดฮอร์โมนไทรอยด์ ส่วนมากจะมีอาการแบบค่อยเป็นค่อยไป  ในผู้ป่วยบางรายใช้เวลาหลายเดือนถึงจะแสดงอาการ อาการที่พบได้บ่อย ได้แก่ รู้สึกอ่อนเพลีย ทำงานช้าลง คิดช้า รู้สึกไม่สดชื่น  หลงลืมมากขี้น หนาวง่ายมากขึ้น ท้องผูก ผิวแห้ง น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นไม่สัมพันธ์กับการรับประทาน ใบหน้าอ้วนบวม ปวดกล้ามเนื้อ หัวใจเต้นช้า ในผู้สูงอายุอาจมีอาการซึมเศร้าได้

การวินิจฉัยภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์

   อาการของภาวะพร่องไทรอยด์ฮอร์โมนเป็นอาการที่ไม่จำเพาะและมีความคล้ายคลึงกับโรคอื่นๆได้ ดังนั้นเมื่อมีอาการอันสงสัยร่วมกับมีประวัติที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ แนะนำให้พบแพทย์เพื่อซักประวัติตรวจร่างกาย และจำเป็นต้องส่งตรวจเลือดวัดระดับไทรอยด์ฮอร์โมน เพื่อยืนยันการวินิจฉัยโรค

การรักษาภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์

   ภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์สามารถรักษาได้ด้วยการรับประทานยาไทรอยด์ฮอร์โมนหรือยาเลโวไทรอกซิน (levothyroxine) ซึ่งเป็นยาที่มีความปลอดภัยสูงถ้าให้ในขนาดที่เหมาะสม การรักษาจำเป็นต้องปรับขนาดยาตามผลการตรวจเลือดระดับฮอร์โมนไทรอยด์ในร่างกาย ดังนั้นแพทย์ผู้รักษาจะนัดติดตามอาการและนัดตรวจเลือดอย่างสม่ำเสมอในระยะแรกจะนัดติดตามทุก 1-2 เดือน เมื่ออาการดีขึ้นหรืออาการคงที่ แพทย์จะนัดติดตามห่างขึ้นเป็นทุก 3-6 เดือน ตามความเหมาะสมของผู้ป่วยแต่ละราย 

   ความสำคัญของการรับประทานยาฮอร์โมนไทรอยด์หรือยาเลโวไทรอกซิน คือ การรับประทานยาให้สม่ำเสมอตามแพทย์สั่ง ไม่หยุดยาเองและรับประทานให้ถูกวิธี เนื่องจากยาหรืออาหารบางชนิดจะขัดขวางการดูดซึมยาฮอร์โมนไทรอยด์ ดังนั้นแนะนำให้รับประทานยาตอนท้องว่างอย่างน้อย 60 นาที เช่น รับประทานยาก่อนอาหารเช้าหรือช่วงเวลาก่อนนอน หรืออย่างน้อย 4 ชั่วโมงหลังรับประทานอาหารเย็น และหลีกเลี่ยงการรับประทานยาที่มีผลรบกวนการดูดซึม ได้แก่ ยาที่มีส่วนประกอบของธาตุเหล็ก (เช่น ยาบำรุงเลือด) ยาลดกรด ยาแคลเซี่ยมชนิดเม็ด และหลีกเลี่ยงการรับประทานคู่กับอาหารที่มีแคลเซียมเป็นส่วนประกอบ เช่น นมชนิดต่างๆ ถ้าจำเป็นต้องใช้ยาหรือรับประทานอาหารที่มีผลรบกวนการดูดซึมให้รับประทานยาหรืออาหารดังกล่าวหลังจากรับประทานฮอร์โมนเลโวไทรอกซินไปแล้ว 4 ชั่วโมง หรือ รับประทานห่างกันอย่างน้อย 4 ชั่วโมง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คลิก!! คลินิกเบาหวาน ไทรอยด์ และต่อมไร้ท่อ ชั้น 4 โซน D

ภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ คืออะไร?

   ภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ หรือบางครั้งเรียกว่า ภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำ หรือภาวะขาดฮอร์โมนไทรอยด์ เป็น ภาวะที่ต่อมไทรอยด์ไม่สามารถสร้างและหลั่งฮอร์โมนได้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย สาเหตุเกิดจากความผิดปกติของต่อมไทรอยด์เอง หรือต่อมใต้สมองที่ไม่สามารถหลั่งฮอร์โมนมากระตุ้นต่อมไทรอยด์ ให้สร้างและผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ได้ตามปกติ

สาเหตุของภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์

   เกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่ที่พบได้บ่อย ได้แก่ เกิดขึ้นภายหลังการผ่าตัดต่อมไทรอยด์ออกบางส่วนหรือตัดต่อมไทรอยด์ทั้งหมด, ภายหลังการได้รับน้ำแร่รังสีไอโอดีนสำหรับรักษาโรคไทรอยด์เป็นพิษ, การได้รับการฉายรังสีรักษาบริเวณศีรษะ ลำคอ และบริเวณฐานสมองในผู้ป่วยมะเร็งบางชนิด, เกิดภายหลังการเป็นไทรอยด์อักเสบบางชนิด เช่น โรคไทรอยด์อักเสบชนิดฮาชิโมโต (Hashimoto’s thyroiditis), ภายหลังการผ่าตัดก้อนเนื้องอกบริเวณต่อมใต้สมอง และภาวะขาดสารไอโอดีน เป็นต้น

อาการของภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์

   อาการขึ้นกับความรุนแรงของการขาดฮอร์โมนไทรอยด์ ส่วนมากจะมีอาการแบบค่อยเป็นค่อยไป  ในผู้ป่วยบางรายใช้เวลาหลายเดือนถึงจะแสดงอาการ อาการที่พบได้บ่อย ได้แก่ รู้สึกอ่อนเพลีย ทำงานช้าลง คิดช้า รู้สึกไม่สดชื่น  หลงลืมมากขี้น หนาวง่ายมากขึ้น ท้องผูก ผิวแห้ง น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นไม่สัมพันธ์กับการรับประทาน ใบหน้าอ้วนบวม ปวดกล้ามเนื้อ หัวใจเต้นช้า ในผู้สูงอายุอาจมีอาการซึมเศร้าได้

การวินิจฉัยภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์

   อาการของภาวะพร่องไทรอยด์ฮอร์โมนเป็นอาการที่ไม่จำเพาะและมีความคล้ายคลึงกับโรคอื่นๆได้ ดังนั้นเมื่อมีอาการอันสงสัยร่วมกับมีประวัติที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ แนะนำให้พบแพทย์เพื่อซักประวัติตรวจร่างกาย และจำเป็นต้องส่งตรวจเลือดวัดระดับไทรอยด์ฮอร์โมน เพื่อยืนยันการวินิจฉัยโรค

การรักษาภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์

   ภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์สามารถรักษาได้ด้วยการรับประทานยาไทรอยด์ฮอร์โมนหรือยาเลโวไทรอกซิน (levothyroxine) ซึ่งเป็นยาที่มีความปลอดภัยสูงถ้าให้ในขนาดที่เหมาะสม การรักษาจำเป็นต้องปรับขนาดยาตามผลการตรวจเลือดระดับฮอร์โมนไทรอยด์ในร่างกาย ดังนั้นแพทย์ผู้รักษาจะนัดติดตามอาการและนัดตรวจเลือดอย่างสม่ำเสมอในระยะแรกจะนัดติดตามทุก 1-2 เดือน เมื่ออาการดีขึ้นหรืออาการคงที่ แพทย์จะนัดติดตามห่างขึ้นเป็นทุก 3-6 เดือน ตามความเหมาะสมของผู้ป่วยแต่ละราย 

   ความสำคัญของการรับประทานยาฮอร์โมนไทรอยด์หรือยาเลโวไทรอกซิน คือ การรับประทานยาให้สม่ำเสมอตามแพทย์สั่ง ไม่หยุดยาเองและรับประทานให้ถูกวิธี เนื่องจากยาหรืออาหารบางชนิดจะขัดขวางการดูดซึมยาฮอร์โมนไทรอยด์ ดังนั้นแนะนำให้รับประทานยาตอนท้องว่างอย่างน้อย 60 นาที เช่น รับประทานยาก่อนอาหารเช้าหรือช่วงเวลาก่อนนอน หรืออย่างน้อย 4 ชั่วโมงหลังรับประทานอาหารเย็น และหลีกเลี่ยงการรับประทานยาที่มีผลรบกวนการดูดซึม ได้แก่ ยาที่มีส่วนประกอบของธาตุเหล็ก (เช่น ยาบำรุงเลือด) ยาลดกรด ยาแคลเซี่ยมชนิดเม็ด และหลีกเลี่ยงการรับประทานคู่กับอาหารที่มีแคลเซียมเป็นส่วนประกอบ เช่น นมชนิดต่างๆ ถ้าจำเป็นต้องใช้ยาหรือรับประทานอาหารที่มีผลรบกวนการดูดซึมให้รับประทานยาหรืออาหารดังกล่าวหลังจากรับประทานฮอร์โมนเลโวไทรอกซินไปแล้ว 4 ชั่วโมง หรือ รับประทานห่างกันอย่างน้อย 4 ชั่วโมง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คลิก!! คลินิกเบาหวาน ไทรอยด์ และต่อมไร้ท่อ ชั้น 4 โซน D


ค้นหาแพทย์

สาระสุขภาพ

ศูนย์รักษาโรคเฉพาะทาง