การสวมหน้ากากอนามัยในเด็ก

     ในยุคที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสที่เป็นอันตราย การสวมหน้ากากอนามัยในเด็กจัดเป็นวิธีมาตรฐานที่ช่วยลดกระจายของเชื้อโรคจากตัวผู้ติดเชื้อ และยังป้องกันผู้สวมใส่ที่มีโอกาสสัมผัสกับผู้ป่วยที่มีอาการไอ หรือจาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะห่างน้อยกว่า 6 ฟุต (ประมาณ 2 เมตร)  

     เป็นที่ทราบดีว่า กลุ่มทารกแรกเกิดและเด็กเล็ก จัดเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องให้ความสำคัญในการป้องกันเป็นพิเศษ แต่ด้วยสรีระของทางเดินหายใจ และกลไกการหายใจที่แตกต่างจากผู้ใหญ่ ผู้ปกครองจึงควรเลือกสวมหน้ากากป้องกันให้เหมาะสมกับช่วงอายุของเด็ก 

 

อายุเท่าไหร่ควรสวมหน้ากาก

  • เด็กทารกแรกเกิด ถึง 1 ปี

     ไม่ควรสวมหน้ากาก เพราะทารกยังมีระบบหายใจที่ไม่แข็งแรงพอ เสี่ยงกับภาวะคาร์บอนไดออกไซด์คั่งเกิดอันตรายต่อระบบประสาทของทารกได้ และในกรณีการสวมวัสดุพลาสติกบังหน้าทารก ความคมของพลาสติกอาจบาดใบหน้าหรือดวงตาของทารก รวมทั้งเชือกหรือยางรัดก็เพิ่มความเสี่ยงในการพันรอบคอทารก ทำให้ขาดอากาศหายใจได้ การดูแลจึงเน้นการเว้นระยะห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 2 เมตร งดการหอมแก้มหรือสัมผัสใกล้ชิดกับเด็กโดยไม่จำเป็น ผู้ปกครองควรอุ้มเด็กแนบกับอก หรือใส่รถเข็นที่มีผ้าคลุมปิดหากจำเป็นต้องเดินทางออกนอกบ้าน 

  • เด็กอายุ 1 ถึง 2 ปี  

     ในวัยนี้เด็กบางคนสามารถถอดหน้ากากได้เองเมื่อรู้สึกอึดอัด หากจำเป็นต้องใส่หน้ากากควรใช้ด้วยความระมัดระวังและใส่ในระยะเวลาสั้นที่สุด

  • เด็กอายุมากกว่า 2 ปี  

     สามารถสวมใส่หน้ากากได้ สามารถถอดหน้ากากออกได้เองเมื่อรู้สึกอึดอัด ยกเว้นเด็กกลุ่มที่มีความบกพร่องทางสมองหรือ ระบบทางเดินหายใจ

  • เด็กที่มีโรคประจำตัวที่ต้องการดูแลเป็นพิเศษ

     โดยเฉพาะโรคทางระบบประสาท หรือทางเดินหายใจบกพร่องรุนแรงที่ไม่สามารถใช้หน้ากากอนามัยได้ ผู้ปกครองควรเคร่งครัดเรื่องระยะห่าง การใช้รถเข็นที่มีผ้าคลุมปิด หรือสามารถใช้เครื่องมือวิเคราะห์ความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดแดงช่วยในการเฝ้าระวัง ร่วมด้วยได้

 

วิธีชวนลูกใส่หน้ากาก

  • ผู้ปกครองควรสวมใส่หน้ากากอนามัยด้วย เพื่อให้เด็กไม่รู้สึกโดดเดี่ยว แปลกแยก

  • ขณะสวมหน้ากากอนามัย ลองให้เด็กส่องกระจก และพูดคุยเกี่ยวกับการใส่หน้ากาก

  • ลองสวมหน้ากากให้กับตุ๊กตา หรือวาดรูปหน้ากากบนการ์ตูนที่เด็กชอบ

  • ให้เด็กดูรูปเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันที่สวมหน้ากากได้ 

  • เล่นตกแต่งหน้ากากให้เป็นรูปต่างๆ เพื่อความสนุกสนาน

  • ควรให้เริ่มลองสวมหน้ากากที่บ้านก่อนเสมอ

     ในเด็กอายุ < 3 ปี ควรอธิบายอย่างง่ายๆ ว่าทำไมถึงต้องใส่หน้ากากอนามัย และเน้นย้ำว่าจำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยเพื่อความปลอดภัย เมื่อเด็กเข้าใจก็จะรู้สึกอุ่นใจที่จะใช้หน้ากาก
     ในเด็กอายุ > 3 ปี  ควรเน้นอธิบายเรื่องเชื้อโรค เนื่องจากวัยนี้มีความเข้าใจในเรื่องเชื้อโรคมากขึ้นแล้ว เชื้อบางอย่างทำให้เด็กป่วยได้ ดังนั้น จึงควรใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกัน

 

เรียบเรียงโดย พญ. ศริสา ถาวรกิจ
*เอกสารอ้างอิง 
1. American Academy of Pediatrics, Mask and Children During COVID-19 ( Critical Updates on COVID-19)
2. AnamaiMedia สื่อมัลติมีเดียกรมอนามัย เรื่อง กรมอนามัย แนะงดหอมแก้มเด็ก เลือกหน้ากากเหมาะกับวัย ลดการแพร่กระจายโควิด -19

โดย แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์เด็ก ชั้น 3 โซน E

     ในยุคที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสที่เป็นอันตราย การสวมหน้ากากอนามัยจัดเป็นวิธีมาตรฐานที่ช่วยลดกระจายของเชื้อโรคจากตัวผู้ติดเชื้อ และยังป้องกันผู้สวมใส่ที่มีโอกาสสัมผัสกับผู้ป่วยที่มีอาการไอ หรือจาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะห่างน้อยกว่า 6 ฟุต (ประมาณ 2 เมตร)  

     เป็นที่ทราบดีว่า กลุ่มทารกแรกเกิดและเด็กเล็ก จัดเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องให้ความสำคัญในการป้องกันเป็นพิเศษ แต่ด้วยสรีระของทางเดินหายใจ และกลไกการหายใจที่แตกต่างจากผู้ใหญ่ ผู้ปกครองจึงควรเลือกสวมหน้ากากป้องกันให้เหมาะสมกับช่วงอายุของเด็ก 

 

อายุเท่าไหร่ควรสวมหน้ากาก

 

  • เด็กทารกแรกเกิด ถึง 1 ปี

     ไม่ควรสวมหน้ากาก เพราะทารกยังมีระบบหายใจที่ไม่แข็งแรงพอ เสี่ยงกับภาวะคาร์บอนไดออกไซด์คั่งเกิดอันตรายต่อระบบประสาทของทารกได้ และในกรณีการสวมวัสดุพลาสติกบังหน้าทารก ความคมของพลาสติกอาจบาดใบหน้าหรือดวงตาของทารก รวมทั้งเชือกหรือยางรัดก็เพิ่มความเสี่ยงในการพันรอบคอทารก ทำให้ขาดอากาศหายใจได้ การดูแลจึงเน้นการเว้นระยะห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 2 เมตร งดการหอมแก้มหรือสัมผัสใกล้ชิดกับเด็กโดยไม่จำเป็น ผู้ปกครองควรอุ้มเด็กแนบกับอก หรือใส่รถเข็นที่มีผ้าคลุมปิดหากจำเป็นต้องเดินทางออกนอกบ้าน 

  • เด็กอายุ 1 ถึง 2 ปี  

     ในวัยนี้เด็กบางคนสามารถถอดหน้ากากได้เองเมื่อรู้สึกอึดอัด หากจำเป็นต้องใส่หน้ากากควรใช้ด้วยความระมัดระวังและใส่ในระยะเวลาสั้นที่สุด

  • เด็กอายุมากกว่า 2 ปี  

     สามารถสวมใส่หน้ากากได้ สามารถถอดหน้ากากออกได้เองเมื่อรู้สึกอึดอัด ยกเว้นเด็กกลุ่มที่มีความบกพร่องทางสมองหรือ ระบบทางเดินหายใจ

  • เด็กที่มีโรคประจำตัวที่ต้องการดูแลเป็นพิเศษ

     โดยเฉพาะโรคทางระบบประสาท หรือทางเดินหายใจบกพร่องรุนแรงที่ไม่สามารถใช้หน้ากากอนามัยได้ ผู้ปกครองควรเคร่งครัดเรื่องระยะห่าง การใช้รถเข็นที่มีผ้าคลุมปิด หรือสามารถใช้เครื่องมือวิเคราะห์ความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดแดงช่วยในการเฝ้าระวัง ร่วมด้วยได้

 

วิธีชวนลูกใส่หน้ากาก

  • ผู้ปกครองควรสวมใส่หน้ากากอนามัยด้วย เพื่อให้เด็กไม่รู้สึกโดดเดี่ยว แปลกแยก

  • ขณะสวมหน้ากากอนามัย ลองให้เด็กส่องกระจก และพูดคุยเกี่ยวกับการใส่หน้ากาก

  • ลองสวมหน้ากากให้กับตุ๊กตา หรือวาดรูปหน้ากากบนการ์ตูนที่เด็กชอบ

  • ให้เด็กดูรูปเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันที่สวมหน้ากากได้ 

  • เล่นตกแต่งหน้ากากให้เป็นรูปต่างๆ เพื่อความสนุกสนาน

  • ควรให้เริ่มลองสวมหน้ากากที่บ้านก่อนเสมอ

     ในเด็กอายุ < 3 ปี ควรอธิบายอย่างง่ายๆ ว่าทำไมถึงต้องใส่หน้ากากอนามัย และเน้นย้ำว่าจำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยเพื่อความปลอดภัย เมื่อเด็กเข้าใจก็จะรู้สึกอุ่นใจที่จะใช้หน้ากาก
     ในเด็กอายุ > 3 ปี  ควรเน้นอธิบายเรื่องเชื้อโรค เนื่องจากวัยนี้มีความเข้าใจในเรื่องเชื้อโรคมากขึ้นแล้ว เชื้อบางอย่างทำให้เด็กป่วยได้ ดังนั้น จึงควรใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกัน

 

เรียบเรียงโดย พญ. ศริสา ถาวรกิจ
*เอกสารอ้างอิง 
1. American Academy of Pediatrics, Mask and Children During COVID-19 ( Critical Updates on COVID-19)
2. AnamaiMedia สื่อมัลติมีเดียกรมอนามัย เรื่อง กรมอนามัย แนะงดหอมแก้มเด็ก เลือกหน้ากากเหมาะกับวัย ลดการแพร่กระจายโควิด -19

โดย แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์เด็ก ชั้น 3 โซน E

 


ค้นหาแพทย์

สาระสุขภาพ

ศูนย์รักษาโรคเฉพาะทาง