การดูแลบาดแผลด้วยตัวเอง (Self-Wound Care)

     บาดแผลที่เกิดจากอุบัติเหตุ การผ่าตัด หรือการทำหัตถการต่างๆ เมื่อได้รับการตรวจรักษาทำความสะอาดหรือเย็บแผลแล้ว มีความจำเป็นจะต้องปฏิบัติตามข้อแนะนำในการดูแลรักษาบาดแผลต่อเนื่องจนแผลหายสามารถตัดใหมได้ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่อการหายและความสวยงามของบาดแผล

วิธีการดูแลบาดแผลด้วยตัวเอง

  1. ห้ามแผลถูกน้ำ ยกเว้นกรณีได้รับการปิดแผลด้วยพลาสเตอร์กันน้ำ หรือกาว สามารถถูกน้ำได้ แต่ห้ามถู บริเวณพลาสเตอร์หรือแช่น้ำเป็นเวลานาน หากน้ำเข้าแผลควรเปลี่ยนที่ปิดแผลทันที
  2. หากมีอาการผิดปกติ เช่น ปวด บวม แดง ร้อนหรือเจ็บตึงแผลมากขึ้น มีเลือดหรือมีหนองไหล มีไข้ หนาวสั่น ไม่ทราบสาเหตุ ให้กลับมาพบแพทย์
  3. ไม่ควรเปิดแผลหรือทำแผลเอง ยกเว้นแพทย์มีคำสั่งให้เปิดแผล ล้างแผลด้วยตัวเองที่บ้านได้
  4. อาการปวดแผลอาจจะยังมีอยู่ สามารถลดอาการปวดแผลได้ด้วยการรับประทานยาแก้ปวด หรือการผ่อนคลาย เช่น การพลิกตะแคงตัว เปลี่ยนท่าเบาๆ กรณีที่แพทย์สั่งยาฆ่าเชื้อให้ ควรรับประทานยาให้ครบตามแพทย์สั่ง
  5. หากเกิดอาการคันหรือแพ้พลาสเตอร์ ไม่ควรเกาเพราะจะทำให้ผิวหนังรอบแผลถลอก และอาจเกิดการอักเสบติดเชื้อ ลุกลามขยายเป็นแผลกว้างได้ ควรแจ้งเจ้าหน้าที่พยาบาลทราบเพื่อเปลี่ยนชนิดของพลาสเตอร์
  6. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบทั้ง 5 หมู่ เช่น เนื้อสัตว์ นม ไข่ ผัก เป็นต้น เพื่อซ่อมแซมส่วนที่บาดเจ็บและเสริมสร้างภูมิต้านทานโรค งดดื่มเหล้า เบียร์ และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด รับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
  7. การอยู่ในที่อากาศชื้น ร้อน อบอ้าว มีเหงื่อออก อาจทำให้มีความชื้นบริเวณแผลมากเกินไป ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อบริเวณบาดแผลได้
  8. หากพบอาการผิดปกติควรรีบพบแพทย์ทันที

     

     

     

อาการผิดปกติที่ควรมาพบแพทย์

  1. ปวดแผลมาก
  2. มีเลือดซึมผ้าปิดแผลมากขึ้นเรื่อยๆ
  3. ส่วนที่บาดเจ็บบวม แดง มากขึ้น
  4. มีไข้
  5. มีก้อนเลือด บวม ช้ำ
  6. ผื่นขึ้น หรือเป็นถุงน้ำ

ข้อมูลจาก พญ.ไปรยา กานตานนท์

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คลินิกผู้ป่วยฉุกเฉิน ชั้น 1 โซน A

บาดแผลที่เกิดจากอุบัติเหตุ การผ่าตัด หรือการทำหัตถการต่างๆ เมื่อได้รับการตรวจรักษาทำความสะอาดหรือเย็บแผลแล้ว มีความจำเป็นจะต้องปฏิบัติตามข้อแนะนำในการดูแลรักษาบาดแผลต่อเนื่องจนแผลหายสามารถตัดใหมได้ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่อการหายและความสวยงามของบาดแผล

วิธีการดูแลบาดแผลด้วยตัวเอง

  1. ห้ามแผลถูกน้ำ ยกเว้นกรณีได้รับการปิดแผลด้วยพลาสเตอร์กันน้ำ หรือกาว สามารถถูกน้ำได้ แต่ห้ามถู บริเวณพลาสเตอร์หรือแช่น้ำเป็นเวลานาน หากน้ำเข้าแผลควรเปลี่ยนที่ปิดแผลทันที
  2. หากมีอาการผิดปกติ เช่น ปวด บวม แดง ร้อนหรือเจ็บตึงแผลมากขึ้น มีเลือดหรือมีหนองไหล มีไข้ หนาวสั่น ไม่ทราบสาเหตุ ให้กลับมาพบแพทย์
  3. ไม่ควรเปิดแผลหรือทำแผลเอง ยกเว้นแพทย์มีคำสั่งให้เปิดแผล ล้างแผลด้วยตัวเองที่บ้านได้
  4. อาการปวดแผลอาจจะยังมีอยู่ สามารถลดอาการปวดแผลได้ด้วยการรับประทานยาแก้ปวด หรือการผ่อนคลาย เช่น การพลิกตะแคงตัว เปลี่ยนท่าเบาๆ กรณีที่แพทย์สั่งยาฆ่าเชื้อให้ ควรรับประทานยาให้ครบตามแพทย์สั่ง
  5. หากเกิดอาการคันหรือแพ้พลาสเตอร์ ไม่ควรเกาเพราะจะทำให้ผิวหนังรอบแผลถลอก และอาจเกิดการอักเสบติดเชื้อ ลุกลามขยายเป็นแผลกว้างได้ ควรแจ้งเจ้าหน้าที่พยาบาลทราบเพื่อเปลี่ยนชนิดของพลาสเตอร์
  6. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบทั้ง 5 หมู่ เช่น เนื้อสัตว์ นม ไข่ ผัก เป็นต้น เพื่อซ่อมแซมส่วนที่บาดเจ็บและเสริมสร้างภูมิต้านทานโรค งดดื่มเหล้า เบียร์ และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด รับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
  7. การอยู่ในที่อากาศชื้น ร้อน อบอ้าว มีเหงื่อออก อาจทำให้มีความชื้นบริเวณแผลมากเกินไป ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อบริเวณบาดแผลได้
  8. หากพบอาการผิดปกติควรรีบพบแพทย์ทันที

     

     

     

อาการผิดปกติที่ควรมาพบแพทย์

  1. ปวดแผลมาก
  2. มีเลือดซึมผ้าปิดแผลมากขึ้นเรื่อยๆ
  3. ส่วนที่บาดเจ็บบวม แดง มากขึ้น
  4. มีไข้
  5. มีก้อนเลือด บวม ช้ำ
  6. ผื่นขึ้น หรือเป็นถุงน้ำ

ข้อมูลจาก พญ.ไปรยา กานตานนท์

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คลินิกผู้ป่วยฉุกเฉิน ชั้น 1 โซน A


ค้นหาแพทย์

สาระสุขภาพ

ศูนย์รักษาโรคเฉพาะทาง