วิธีเลือกใช้ครีมกันแดด เพื่อผิวสวยห่างไกล UV
ทุกวันนี้แสงแดดแรงขึ้นเรื่อย ๆ การปกป้องผิวด้วยการเลือกครีมกันแดดและการใช้ให้ถูกวิธีสำคัญมาก เพราะถึงแม้ว่าคุณจะทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว แต่หากคุณทาครีมกันแดดไม่ถูกวิธี จะทำให้การทาครีมกันแดดนั้นสูญเปล่า มาทำความรู้จักกับครีมกันแดดให้ดีเพื่อให้คุณเลือกใช้ได้อย่างมั่นใจและได้ผลจริง
ทำไมต้องใช้ครีมกันแดด?
แสงแดดไม่ได้แค่ทำให้ผิวคล้ำเท่านั้น แต่ยังก่อปัญหาผิวมากมาย เช่น
- มะเร็งผิวหนัง
- ริ้วรอยก่อนวัย
- ผิวไหม้แดด
- ฝ้า กระ จุดด่างดำ
ประเภทของครีมกันแดด?
1. Chemical Sunscreen (กันแดดเคมี) ทำงานเหมือน "ฟองน้ำที่ดูดซับและเปลี่ยนแสง" โดยซึมลงไปในผิวชั้นบน เมื่อแสง UV มากระทบ จะดูดซับรังสีไว้ เกิดปฏิกิริยาเคมี เปลี่ยนรังสี UV เป็นพลังงานรูปแบบอื่น จึงไม่ทิ้งคราบขาว แต่ต้องรอ 15-30 นาทีให้ซึมลงผิวและอาจก่อการระคายเคืองได้
2. Physical Sunscreen (กันแดดกายภาพ) ทำงานเหมือน "กระจกสะท้อนแสง" โดยสร้างชั้นป้องกันบนผิวหนัง เมื่อแสง UV มากระทบ จะสะท้อนและกระจายรังสีออกไปไม่มีปฏิกิริยาเคมีเกิดขึ้น จึงมักทิ้งคราบขาวบนผิว ทำงานทันทีที่ทา โอกาสแพ้และระคายเคืองน้อยกว่าเพราะไม่ซึมเข้าผิว
3. Hybrid sunscreen มีส่วนผสมทั้ง chemical และ physical sunscreen
เลือกครีมกันแดดอย่างไร?
การเลือกครีมกันแดดต้องดูคสามารถในการป้องกัน UVA, UVB และการกันน้ำ
1. ค่า PA บอกความสามารถในการป้องกัน UVA
- PA+ : กันได้ 2 - 4 เท่า
- PA++ : กันได้ 4 - 8 เท่า
- PA+++ : กันได้ 8 - 16 เท่า
- PA++++ : กันได้มากกว่า 16 เท่า
2. ค่า SPF บอกความสามารถในการป้องกัน UVB
- SPF 15: กันได้ 93%
- SPF 30: กันได้ 97%
- SPF 60: กันได้ 98%
3. ค่าการกันน้ำ
- Water Resistant: กันน้ำได้ 40 นาที
- Very Water Resistant: กันน้ำได้ 80 นาที
วิธีเลือกครีมกันแดดที่เหมาะสม
1. เลือกใช้ครีมกันแดดที่ป้องกันได้ทั้ง UVA และ UVB โดยครีมกันแดดที่ดี ควรมีค่า SPF ตั้งแต่ 30 ขึ้นไป
2. ควรเลือกครีมกันแดดที่มีสัญลักษณ์ PA +++ หรือ PA ++++ หรือสัญลักษณ์
3. ในกรณีที่จำเป็นต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งที่มีเหงื่ออกมาก เช่น ว่ายน้ำ ตีกอล์ฟ หรือเทนนิส ควรเลือกใช้ครีมกันแดดชนิดกันน้ำ
วิธีใช้ครีมกันแดดให้ได้ผลดีที่สุด
1. ทาก่อนออกแดด 15 - 30 นาที
2. ปริมาณที่เพียงพอ คือ บีบครีมยาว 2 ข้อนิ้วมือ ถ้าเป็นโลชั่นใช้ประมาณ 1 - 2 เหรียญสิบ
3. ทาให้ทั่วใบหน้า บริเวณที่ไม่ได้ปกคลุมด้วยเสื้อผ้า และไม่ควรละเลยส่วนอื่น เช่น หู คอ และหลัง
4. ทาซ้ำ ทุก 2 ชั่วโมงถ้าอยู่กลางแดด หรือหลังเล่นน้ำหรือเหงื่อออกมาก
เทคนิคเสริมป้องกันแดด
1. หลีกเลี่ยงแดดช่วง 10 โมง - 4 โมงเย็น
2. ใส่หมวกปีกกว้าง
3. พกร่ม
4. ใส่แว่นกันแดด
5. สวมเสื้อแขนยาว
สำหรับเด็กทารก
1. อายุต่ำกว่า 6 เดือน
- หลีกเลี่ยงการใช้ครีมกันแดด
- ป้องกันด้วยการหลบในร่ม
- สวมเสื้อแขนยาว หมวกปีกกว้าง
2. อายุ 6 เดือนขึ้นไป
- ใช้ครีมกันแดดที่เป็น physical sunscreen ที่มี zinc oxide หรือ titanium dioxide
- ยังต้องหลบร่ม และสวมเสื้อผ้าป้องกันแดด
สุดท้ายนี้ อย่าลืมว่าครีมกันแดดเป็นเพื่อนคู่ใจที่ต้องใช้ทุกวัน ไม่ว่าจะแดดแรงหรือไม่ก็ตาม เพราะ UV อยู่รอบตัวเราตลอดเวลา การป้องกันไว้ก่อนดีกว่ารักษาทีหลังนะคะ
ข้อมูลจาก พญ. อารยา มานะผจญ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ผิวหนังและศัลยกรรมตกแต่ง ชั้น 3 โซน A
ทุกวันนี้แสงแดดแรงขึ้นเรื่อย ๆ การปกป้องผิวด้วยการเลือกครีมกันแดดและการใช้ให้ถูกวิธีสำคัญมาก เพราะถึงแม้ว่าคุณจะทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว แต่หากคุณทาครีมกันแดดไม่ถูกวิธี จะทำให้การทาครีมกันแดดนั้นสูญเปล่า มาทำความรู้จักกับครีมกันแดดให้ดีเพื่อให้คุณเลือกใช้ได้อย่างมั่นใจและได้ผลจริง
ทำไมต้องใช้ครีมกันแดด?
แสงแดดไม่ได้แค่ทำให้ผิวคล้ำเท่านั้น แต่ยังก่อปัญหาผิวมากมาย เช่น
- มะเร็งผิวหนัง
- ริ้วรอยก่อนวัย
- ผิวไหม้แดด
- ฝ้า กระ จุดด่างดำ
ประเภทของครีมกันแดด?
1. Chemical Sunscreen (กันแดดเคมี) ทำงานเหมือน "ฟองน้ำที่ดูดซับและเปลี่ยนแสง" โดยซึมลงไปในผิวชั้นบน เมื่อแสง UV มากระทบ จะดูดซับรังสีไว้ เกิดปฏิกิริยาเคมี เปลี่ยนรังสี UV เป็นพลังงานรูปแบบอื่น จึงไม่ทิ้งคราบขาว แต่ต้องรอ 15-30 นาทีให้ซึมลงผิวและอาจก่อการระคายเคืองได้
2. Physical Sunscreen (กันแดดกายภาพ) ทำงานเหมือน "กระจกสะท้อนแสง" โดยสร้างชั้นป้องกันบนผิวหนัง เมื่อแสง UV มากระทบ จะสะท้อนและกระจายรังสีออกไปไม่มีปฏิกิริยาเคมีเกิดขึ้น จึงมักทิ้งคราบขาวบนผิว ทำงานทันทีที่ทา โอกาสแพ้และระคายเคืองน้อยกว่าเพราะไม่ซึมเข้าผิว
3. Hybrid sunscreen มีส่วนผสมทั้ง chemical และ physical sunscreen
เลือกครีมกันแดดอย่างไร?
การเลือกครีมกันแดดต้องดูคสามารถในการป้องกัน UVA, UVB และการกันน้ำ
1. ค่า PA บอกความสามารถในการป้องกัน UVA
- PA+ : กันได้ 2 - 4 เท่า
- PA++ : กันได้ 4 - 8 เท่า
- PA+++ : กันได้ 8 - 16 เท่า
- PA++++ : กันได้มากกว่า 16 เท่า
2. ค่า SPF บอกความสามารถในการป้องกัน UVB
- SPF 15: กันได้ 93%
- SPF 30: กันได้ 97%
- SPF 60: กันได้ 98%
3. ค่าการกันน้ำ
- Water Resistant: กันน้ำได้ 40 นาที
- Very Water Resistant: กันน้ำได้ 80 นาที
วิธีเลือกครีมกันแดดที่เหมาะสม
1. เลือกใช้ครีมกันแดดที่ป้องกันได้ทั้ง UVA และ UVB โดยครีมกันแดดที่ดี ควรมีค่า SPF ตั้งแต่ 30 ขึ้นไป
2. ควรเลือกครีมกันแดดที่มีสัญลักษณ์ PA +++ หรือ PA ++++ หรือสัญลักษณ์
3. ในกรณีที่จำเป็นต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งที่มีเหงื่ออกมาก เช่น ว่ายน้ำ ตีกอล์ฟ หรือเทนนิส ควรเลือกใช้ครีมกันแดดชนิดกันน้ำ
วิธีใช้ครีมกันแดดให้ได้ผลดีที่สุด
1. ทาก่อนออกแดด 15 - 30 นาที
2. ปริมาณที่เพียงพอ คือ บีบครีมยาว 2 ข้อนิ้วมือ ถ้าเป็นโลชั่นใช้ประมาณ 1 - 2 เหรียญสิบ
3. ทาให้ทั่วใบหน้า บริเวณที่ไม่ได้ปกคลุมด้วยเสื้อผ้า และไม่ควรละเลยส่วนอื่น เช่น หู คอ และหลัง
4. ทาซ้ำ ทุก 2 ชั่วโมงถ้าอยู่กลางแดด หรือหลังเล่นน้ำหรือเหงื่อออกมาก
เทคนิคเสริมป้องกันแดด
1. หลีกเลี่ยงแดดช่วง 10 โมง - 4 โมงเย็น
2. ใส่หมวกปีกกว้าง
3. พกร่ม
4. ใส่แว่นกันแดด
5. สวมเสื้อแขนยาว
สำหรับเด็กทารก
1. อายุต่ำกว่า 6 เดือน
- หลีกเลี่ยงการใช้ครีมกันแดด
- ป้องกันด้วยการหลบในร่ม
- สวมเสื้อแขนยาว หมวกปีกกว้าง
2. อายุ 6 เดือนขึ้นไป
- ใช้ครีมกันแดดที่เป็น physical sunscreen ที่มี zinc oxide หรือ titanium dioxide
- ยังต้องหลบร่ม และสวมเสื้อผ้าป้องกันแดด
สุดท้ายนี้ อย่าลืมว่าครีมกันแดดเป็นเพื่อนคู่ใจที่ต้องใช้ทุกวัน ไม่ว่าจะแดดแรงหรือไม่ก็ตาม เพราะ UV อยู่รอบตัวเราตลอดเวลา การป้องกันไว้ก่อนดีกว่ารักษาทีหลังนะคะ
ข้อมูลจาก พญ. อารยา มานะผจญ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ผิวหนังและศัลยกรรมตกแต่ง ชั้น 3 โซน A