
โรคงูสวัดคืออะไร
โรคงูสวัดเกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า ไวรัสวาริเซลลา (Varicella Virus) เป็นเชื้อตัวเดียวกับที่ทำให้เกิดโรคสุกใส เมื่อหายจากโรคสุกใสแล้วเชื้อจะไปหลบซ่อนอยู่ในปมประสาทของร่างกาย เมื่อเวลาที่ร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่ำกว่าปกติ เชื้อที่แฝงตัวอยู่ก็จะแบ่งตัวเพิ่มจำนวนทำให้เส้นประสาทอักเสบ เกิดการปวดตามแนวเส้นประสาท และปล่อยเชื้อไวรัสออกมาที่ผิวหนังตามแนวเส้นประสาท
อาการของโรคงูสวัดเป็นอย่างไร
- ปวดแสบร้อนบริเวณผิวหนัง
- ผื่นแดงขึ้นตรงบริเวณที่ปวดแล้วกลายเป็นตุ่มน้ำใส มักเรียงกันเป็นกลุ่มหรือเป็นเเถวยาว ตามแนวเส้นประสาทและจะแตกออกเป็นแผล ต่อมาจะตกสะเก็ด
อาการแทรกซ้อนของโรคงูสวัด
- อาการปวดตามแนวเส้นประสาทหลังการติดเชื้อ พบได้บ่อยในผู้ป่วยที่อายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป
บางรายอาจปวดได้นานหลายปี - การติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำเติม
- อาจมีตาอักเสบ แผลที่กระจกตาและภาวะแทรกซ้อนทางหู
การรักษาและการปฏิบัติตัวของผู้ป่วย
- รับประทานยาต้านไวรัสภายใน 48-72 ชั่วโมง หลังเกิดอาการจะช่วยให้รอยโรคทางผิวหนังหายได้เร็วขึ้น และลดความรุนแรงของโรครวมถึงลดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ได้
- ถ้ามีอาการปวดหลังการติดเชื้อสามารถรับประทานยาพาราเซตามอลแก้ปวด
- ประคบแผลด้วยน้ำเกลือครั้งละประมาณ 10 นาที 3-4 ครั้ง/วัน จะช่วยทำให้แผลแห้งดีขึ้น
การป้องกันการแพร่กระจายของโรคงูสวัด
ควรแยกข้าวของเครื่องใช้ เครื่องนุ่งห่ม ผ้าเช็ดตัว ที่นอนของผู้ป่วยโรคงูสวัดกับเด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ และผู้ที่ยังไม่เคยเป็นโรคสุกใสมาก่อน
การป้องกันโรคงูสวัด
ปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันโรคงูสวัด โดยสามารถลดโอกาสการเกิดโรคงูสวัด หรือหากว่าเกิดการติดเชื้อจะสามารถลดความรุนแรงของอาการงูสวัด และอาการปวดหลังการติดเชื้อ แนะนำให้ฉีดในผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 60 ปี
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คลิก!! ศูนย์ผิวหนังและศัลยกรรมตกแต่ง ชั้น 3 โซน A
โรคงูสวัดเกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า ไวรัสวาริเซลลา (Varicella Virus) เป็นเชื้อตัวเดียวกับที่ทำให้เกิดโรคสุกใส เมื่อหายจากโรคสุกใสแล้วเชื้อจะไปหลบซ่อนอยู่ในปมประสาทของร่างกาย เมื่อเวลาที่ร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่ำกว่าปกติ เชื้อที่แฝงตัวอยู่ก็จะแบ่งตัวเพิ่มจำนวนทำให้เส้นประสาทอักเสบ เกิดการปวดตามแนวเส้นประสาท และปล่อยเชื้อไวรัสออกมาที่ผิวหนังตามแนวเส้นประสาท
อาการของโรคงูสวัดเป็นอย่างไร
- ปวดแสบร้อนบริเวณผิวหนัง
- ผื่นแดงขึ้นตรงบริเวณที่ปวดแล้วกลายเป็นตุ่มน้ำใส มักเรียงกันเป็นกลุ่มหรือเป็นเเถวยาว ตามแนวเส้นประสาทและจะแตกออกเป็นแผล ต่อมาจะตกสะเก็ด
อาการแทรกซ้อนของโรคงูสวัด
- อาการปวดตามแนวเส้นประสาทหลังการติดเชื้อ พบได้บ่อยในผู้ป่วยที่อายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป
บางรายอาจปวดได้นานหลายปี - การติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำเติม
- อาจมีตาอักเสบ แผลที่กระจกตาและภาวะแทรกซ้อนทางหู
การรักษาและการปฏิบัติตัวของผู้ป่วย
- รับประทานยาต้านไวรัสภายใน 48-72 ชั่วโมง หลังเกิดอาการจะช่วยให้รอยโรคทางผิวหนังหายได้เร็วขึ้น และลดความรุนแรงของโรครวมถึงลดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ได้
- ถ้ามีอาการปวดหลังการติดเชื้อสามารถรับประทานยาพาราเซตามอลแก้ปวด
- ประคบแผลด้วยน้ำเกลือครั้งละประมาณ 10 นาที 3-4 ครั้ง/วัน จะช่วยทำให้แผลแห้งดีขึ้น
การป้องกันการแพร่กระจายของโรคงูสวัด
ควรแยกข้าวของเครื่องใช้ เครื่องนุ่งห่ม ผ้าเช็ดตัว ที่นอนของผู้ป่วยโรคงูสวัดกับเด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ และผู้ที่ยังไม่เคยเป็นโรคสุกใสมาก่อน
การป้องกันโรคงูสวัด
ปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันโรคงูสวัด โดยสามารถลดโอกาสการเกิดโรคงูสวัด หรือหากว่าเกิดการติดเชื้อจะสามารถลดความรุนแรงของอาการงูสวัด และอาการปวดหลังการติดเชื้อ แนะนำให้ฉีดในผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 60 ปี
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คลิก!! ศูนย์ผิวหนังและศัลยกรรมตกแต่ง ชั้น 3 โซน A