โรค 4S ภัยเงียบที่พ่อแม่ควรระวัง

โรค 4 เอส หรือ Staphylococcal Scalded Skin Syndrome (SSSS) เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อ Staphylococcus Aureus บริเวณใดบริเวณหนึ่งของร่างกายแล้วเชื้อแบคทีเรียจะสร้างชีวพิษ (Toxin) เข้าสู่กระแสเลือดทำให้เกิดอาการของโรคนี้ขึ้น มักพบในเด็กทารกและเด็กเล็กที่มีอายุน้อยกว่า 6 ปี และมีรายงานพบในผู้ใหญ่ที่มีโรคไตวายเรื้อรังและในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องเชื่อว่าเป็นผลจากการที่เด็กเล็กยังไม่มีภูมิต้านทานต่อชีวพิษ รวมถึงความสามารถของไตในการกำจัดชีวพิษยังไม่สมบูรณ์เต็มที่

อาการ

อาการจะแสดงอย่างรวดเร็ว ภายหลังการติดเชื้อแบคทีเรีย ผู้ป่วยจะมีอาการร้องกวน งอแง ผื่นแดงเริ่มขึ้นรอบปาก จมูก ตา แล้วกระจายไปทั่วร่างกาย ภายใน 1-2 วันต่อมาผื่นแดงนี้จะพองขึ้นเห็นเป็นรอยย่นหรือตุ่มน้ำ แล้วผิวลอกออกเป็นแผ่นใหญ่ๆ เห็นผิวข้างใต้แดงขึ้นคล้ายผิวหนังของผู้ที่ถูกไฟไหม้หรือน้ำร้อนลวก เห็นได้ชัดบริเวณซอกพับต่างๆ โดยเฉพาะขาหนีบ รักแร้และคอ หลังจากนั้นผืนค่อยๆ แห้ง ตกสะเก็ด อาจเห็นเป็นรอยย่นแยกเป็นแฉกออกจากรอบปากและตา สะเก็ดหลุดแล้วผื่นจะหายเป็นปกติโรคนี้จะไม่พบความผิดปกติบริเวณเยื่อบุต่างๆ

 

 

 

วิธีการรักษา

ในรายที่มีอาการรุนแรงควรรับตัวไว้รักษาไว้ในโรงพยาบาล ให้ยาปฏิชีวนะเข้าทางหลอดเลือดเมื่ออาการดีขึ้นสามารถเปลี่ยนเป็นยากินได้ รวมระยะเวลาการให้ยาปฏิชีวนะ 10-14 วัน นอกจากนี้ควรให้การรักษาประคับประคองดูแลผิวที่ลอกให้ดี ดูแลภาวะขาดสารน้ำและแก้ไขภาวะอิเล็กโทรไลต์ที่อาจผิดปกติ เฝ้าระวังการติดเชื้อแทรกซ้อนและให้ยาระงับอาการเจ็บปวด ผู้ป่วยจะค่อยๆ ดีขึ้น ผื่นจะหายเป็นผิวปกติ โดยไม่มีแผลเป็นหลงเหลืออยู่ภายในเวลา 10-14 วัน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คลิก!! ศูนย์เด็ก ชั้น 3 โซน E

โรค 4 เอส หรือ Staphylococcal Scalded Skin Syndrome (SSSS) เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อ Staphylococcus Aureus บริเวณใดบริเวณหนึ่งของร่างกายแล้วเชื้อแบคทีเรียจะสร้างชีวพิษ (Toxin) เข้าสู่กระแสเลือดทำให้เกิดอาการของโรคนี้ขึ้น มักพบในเด็กทารกและเด็กเล็กที่มีอายุน้อยกว่า 6 ปี และมีรายงานพบในผู้ใหญ่ที่มีโรคไตวายเรื้อรังและในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องเชื่อว่าเป็นผลจากการที่เด็กเล็กยังไม่มีภูมิต้านทานต่อชีวพิษ รวมถึงความสามารถของไตในการกำจัดชีวพิษยังไม่สมบูรณ์เต็มที่

อาการ

อาการจะแสดงอย่างรวดเร็ว ภายหลังการติดเชื้อแบคทีเรีย ผู้ป่วยจะมีอาการร้องกวน งอแง ผื่นแดงเริ่มขึ้นรอบปาก จมูก ตา แล้วกระจายไปทั่วร่างกาย ภายใน 1-2 วันต่อมาผื่นแดงนี้จะพองขึ้นเห็นเป็นรอยย่นหรือตุ่มน้ำ แล้วผิวลอกออกเป็นแผ่นใหญ่ๆ เห็นผิวข้างใต้แดงขึ้นคล้ายผิวหนังของผู้ที่ถูกไฟไหม้หรือน้ำร้อนลวก เห็นได้ชัดบริเวณซอกพับต่างๆ โดยเฉพาะขาหนีบ รักแร้และคอ หลังจากนั้นผืนค่อยๆ แห้ง ตกสะเก็ด อาจเห็นเป็นรอยย่นแยกเป็นแฉกออกจากรอบปากและตา สะเก็ดหลุดแล้วผื่นจะหายเป็นปกติโรคนี้จะไม่พบความผิดปกติบริเวณเยื่อบุต่างๆ

 

วิธีการรักษา

ในรายที่มีอาการรุนแรงควรรับตัวไว้รักษาไว้ในโรงพยาบาล ให้ยาปฏิชีวนะเข้าทางหลอดเลือดเมื่ออาการดีขึ้นสามารถเปลี่ยนเป็นยากินได้ รวมระยะเวลาการให้ยาปฏิชีวนะ 10-14 วัน นอกจากนี้ควรให้การรักษาประคับประคองดูแลผิวที่ลอกให้ดี ดูแลภาวะขาดสารน้ำและแก้ไขภาวะอิเล็กโทรไลต์ที่อาจผิดปกติ เฝ้าระวังการติดเชื้อแทรกซ้อนและให้ยาระงับอาการเจ็บปวด ผู้ป่วยจะค่อยๆ ดีขึ้น ผื่นจะหายเป็นผิวปกติ โดยไม่มีแผลเป็นหลงเหลืออยู่ภายในเวลา 10-14 วัน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คลิก!! ศูนย์เด็ก ชั้น 3 โซน E


ค้นหาแพทย์

สาระสุขภาพ

ศูนย์รักษาโรคเฉพาะทาง