ดูแลผู้สูงวัยอย่างไรให้ปลอดภัย (Part 1)

     ปัจจุบันสังคมไทยได้ก้าวเข้าสู่ยุคผู้สูงอายุ การเตรียมความพร้อมที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุเป็นสิ่งที่เราควรให้ความสำคัญไม่น้อยไปกว่าปัจจัยด้านอื่น ๆ ทั้งนี้ปัจจัยทางด้านร่างกายที่มีการเปลี่ยนแปลงและเสื่อมถอยในหลาย ๆ ด้านอยู่ตลอดเวลา รวมถึงการเคลื่อนไหวที่ช้าและประสิทธิภาพลดลง ย่อมส่งผลโดยตรงต่อความสามารถของร่างกายในการทำกิจวัตรประจำวันหรือการดำเนินชีวิต และเป็นความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ พลัดตกหกล้มหรือภาวะอื่น ๆ ขึ้นได้ หากแต่การกลับมาทบทวนหรือการป้องกันไม่ให้เกิดสิ่งเหล่านั้น ย่อมต้องอาศัยองค์ความรู้และการดูแลที่ถูกต้อง หนึ่งในนั้น คือการทำกิจวัตรประจำวันที่ถูกต้อง และการปรับสภาพบ้านและสิ่งแวดล้อมบริเวณบ้าน ให้เหมาะสมกับความสามารถของผู้สูงอายุนั้น ๆ ซึ่งได้รวบรวมเป็นข้อมูลที่สำคัญต่อไปนี้คือ

 

การขึ้นเตียง (Getting into Bed)

  1. เดินหรือก้าวเท้าอย่างช้า ๆ และมั่นคง อาจจะเดินเอง มีผู้ดูแลคอยประคอง หรือใช้ Walker โดยยืนหันหลังให้เตียง
  2. ค่อยๆ ย่อตัวลงนั่ง ลงน้ำหนักที่เท้าทั้ง 2 ข้าง อย่างมั่นคง
  3. เมื่อนั่งเสร็จแล้ว ดันตัวหรือเลื่อนก้นเข้าไปบริเวณเตียงให้มากขึ้น เอนตัวลงไปด้านหลัง ใช้มือและศอกประคองตัวไว้
  4. ค่อยๆ ยกขาขึ้นเตียงทีละข้าง หรือพร้อมกัน 2 ข้างอย่างช้า ๆ และจัดท่าบนเตียงให้เรียบร้อย

 

การพลิกตะแคงตัว (Patient Positioning / Bed Mobility)

  1. นำหมอนรองศีรษะ หรือหมอนทรงต่างๆ ขนาดพอดี เพื่อลดแรงกดทับจำนวน 3-4 ใบ
  2. จัดตามท่าทางที่อยู่บนเตียง เช่น นอน หงาย และวางหมอนเล็กบริเวณใต้หลัง และใต้เข่า หรือนอนตะแคงนำหมอนข้างวางขนานกับลำตัว และ นำแขนหรือขาพาด เพื่อให้อยู่ในท่าที่เหมาะสม
  3. เน้นกระตุ้นให้ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือในการทำกิจวัตรประจำวัน หมั่นขยับแขนหรือขาช่วยเคลื่อนไหว เป็นการบริหาร กล้ามเนื้อ เพื่อป้องกันแผลกดทับ

 

การลงเตียง (Getting out of Bed)

  1. เลื่อนตัว หรือขยับตัวเล็กน้อย ตะแคงตัวและหันหน้าทางด้านที่จะลงเตียง
  2. ยกขาทั้ง 2 ข้างลงจากเตียง จากนั้นใช้แขนทั้ง 2 ข้างดันตัวขึ้น และลุกขึ้นมาอยู่ในท่านั่ง อาจมีผู้ดูแลประคองในช่วงแรก เพื่อความปลอดภัย
  3. ขยับตัวอยู่ในท่านั่ง ขาทั้ง 2 ข้างแตะพื้น จัดท่าให้เท้าวางราบกับพื้น
  4. ดันตัวลุกขึ้นยืน ใช้ Walker หรือมีผู้ดูแลประคองตัวให้ยืนขึ้นอย่างมั่นคง

 

การย้ายตัวลงนั่ง (Transfer Stand to Sit)

  1. เดินด้วย Walker หรือไม้ค้ำยัน เข้ามาที่เก้าอี้นั่ง
  2. ค่อย ๆ หมุนตัว โดยหันหลังให้ชิดกับเก้าอี้

       ในกรณีใช้ไม้ค้ำยัน ให้ใช้แขนด้านที่ถนัดพยุงไม้ค้ำยันไว้ ขณะเดียวกันมืออีกด้านนึง จับพนักพิงแขนเก้าอี้ หรือ ราวจับข้างโถชักโครกไว้

       ในกรณีใช้ Walker ใช้มือด้านใดด้านหนี่ง เอื้อมไปด้านหลังและจับพนักพิงแขนเก้าอี้ หรือ ราวจับข้างโถชักโครก ส่วนอีกข้างหนึ่งจับ Walker ไว้

       3. ย่อตัวลงนั่ง จัดท่านั่งให้มั่นคงและปลอดภัย

 

การสวมกางเกง

พิจารณาให้ใช้อุปกรณ์เสริมความยาวด้าม (Long-handle) หรือที่เอื้อมจับ (Reacher) ตามความเหมาะสม

  1. ใช้ขอจับหรือเกี่ยวบริเวณขอบกางเกงแล้วนำมาสวมเข้ากับขาด้านที่มีแรงน้อยกว่าก่อน ดึงขึ้นมาให้สูงระดับเหนือเข่า
  2. ค่อย ๆ ยกขาข้างที่มีแรงมากกว่าใส่ตามมา แล้วค่อยๆ ดึงขอบกางเกงให้ขึ้นมาเสมอระดับเหนือเข่า
  3. ใช้มือข้างเดียวกับขาข้างที่อ่อนแรงกว่ายกตัวขึ้นโดยลงน้ำหนักที่เท้าข้างที่มีแรงมากกว่า แล้วจึงใช้มือดึงขอบกางเกงขึ้นระดับเอว
  4. กางเกงสวมให้พอดีและจัดกางเกงให้เรียบร้อย

 

การนั่งอาบน้ำ

  1. เดินโดยใช้ Walker เมื่อถึงเก้าอี้นั่งอาบน้ำ ให้หันหลังเข้าชิดเก้าอี้นั่งอาบน้ำ
  2. เอื้อมมือด้านหนึ่งไปจับเก้าอี้ ในขณะที่อีกข้างจับ Walker
  3. ค่อยๆ ปล่อยมือจาก Walker
  4. ย่อตัวลงนั่งบนเก้าอี้นั่งอาบน้ำ โดยให้ขาข้างที่อ่อนแรงกว่าไปด้านหน้าและให้อยู่ในท่าตรง
  5. ค่อยๆ เลื่อนตัวเข้าไปนั่งให้มั่นคง และทำการอาบน้ำ

 

การนั่งชักโครก

  1. เดินโดยใช้ Walker เมื่อถึงชักโครก ให้หันหลังเข้าชิดโถชักโครก
  2. กรณีมีราวจับให้เอื้อมมือข้างที่ถนัดหรือด้านที่ใกล้ราวจับ จับให้มั่นคงในขณะที่อีกข้างจับ Walker
  3. ค่อย ๆ ย่อตัวลงนั่งบนโถชักโครก โดยให้ขาข้างที่อ่อนแรงกว่าเหยียดไปด้านหน้าและให้อยู่ในท่าตรง ขยับให้ก้นนั่งพอดีบนชักโครก และผ่อนคลาย

 

การขึ้นรถยนต์

  1. เปิดประตูรถให้กว้างที่สุด แล้วปรับเบาะนั่งให้เอนไปด้านหลังเล็กน้อย
  2. กรณี ใช้ Walker หรือไม้ค้ำยัน แล้วหันหลังให้เบาะนั่ง
  3. ใช้มือด้านที่ใกล้คอนโซลหน้ารถเอื้อมไปจับไว้ อีกด้านหนึ่งจับเบาะนั่งส่วนบนไว้
  4. ค่อยๆ ย่อตัวลงนั่ง โดยลงน้ำหนักขาด้านที่มีแรงมากกว่า ส่วนขาด้านที่อ่อนแรงกว่าให้เหยียดตรงแล้วค่อยๆ เคลื่อนไปด้านหน้า แล้วนั่งให้พอดีเบาะนั่ง
  5. ค่อยๆ ยกขาขึ้นรถทีละข้าง และขยับท่านั่งให้พอดีและปลอดภัย

 

ข้อควรปฏิบัติ

     หากรู้สึกเจ็บ ปวด บริเวณ ข้อต่อ หรือเนื้อเยื่อบริเวณที่มีการเคลื่อนไหว ควรกระตุ้นให้ผู้ป่วยออกแรงร่างกายด้านที่มีแรง ช่วยในการฝึกเคลื่อนไหวร่างกาย และควรปฏิบัติให้มีความต่อเนื่องทุกวัน

เพราะความสุขของเรา คือ การเห็นคุณกลับมามีสุขภาพที่ดีอีกครั้ง

 

 

 

ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูและกายภาพบำบัด ชั้น 3 โซน C

     ปัจจุบันสังคมไทยได้ก้าวเข้าสู่ยุคผู้สูงอายุ การเตรียมความพร้อมที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุเป็นสิ่งที่เราควรให้ความสำคัญไม่น้อยไปกว่าปัจจัยด้านอื่น ๆ ทั้งนี้ปัจจัยทางด้านร่างกายที่มีการเปลี่ยนแปลงและเสื่อมถอยในหลาย ๆ ด้านอยู่ตลอดเวลา รวมถึงการเคลื่อนไหวที่ช้าและประสิทธิภาพลดลง ย่อมส่งผลโดยตรงต่อความสามารถของร่างกายในการทำกิจวัตรประจำวันหรือการดำเนินชีวิต และเป็นความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ พลัดตกหกล้มหรือภาวะอื่น ๆ ขึ้นได้ หากแต่การกลับมาทบทวนหรือการป้องกันไม่ให้เกิดสิ่งเหล่านั้น ย่อมต้องอาศัยองค์ความรู้และการดูแลที่ถูกต้อง หนึ่งในนั้น คือการทำกิจวัตรประจำวันที่ถูกต้อง และการปรับสภาพบ้านและสิ่งแวดล้อมบริเวณบ้าน ให้เหมาะสมกับความสามารถของผู้สูงอายุนั้น ๆ ซึ่งได้รวบรวมเป็นข้อมูลที่สำคัญต่อไปนี้คือ

 

การขึ้นเตียง (Getting into Bed)

  1. เดินหรือก้าวเท้าอย่างช้า ๆ และมั่นคง อาจจะเดินเอง มีผู้ดูแลคอยประคอง หรือใช้ Walker โดยยืนหันหลังให้เตียง
  2. ค่อยๆ ย่อตัวลงนั่ง ลงน้ำหนักที่เท้าทั้ง 2 ข้าง อย่างมั่นคง
  3. เมื่อนั่งเสร็จแล้ว ดันตัวหรือเลื่อนก้นเข้าไปบริเวณเตียงให้มากขึ้น เอนตัวลงไปด้านหลัง ใช้มือและศอกประคองตัวไว้
  4. ค่อยๆ ยกขาขึ้นเตียงทีละข้าง หรือพร้อมกัน 2 ข้างอย่างช้า ๆ และจัดท่าบนเตียงให้เรียบร้อย

 

การพลิกตะแคงตัว (Patient Positioning / Bed Mobility)

  1. นำหมอนรองศีรษะ หรือหมอนทรงต่างๆ ขนาดพอดี เพื่อลดแรงกดทับจำนวน 3-4 ใบ
  2. จัดตามท่าทางที่อยู่บนเตียง เช่น นอน หงาย และวางหมอนเล็กบริเวณใต้หลัง และใต้เข่า หรือนอนตะแคงนำหมอนข้างวางขนานกับลำตัว และ นำแขนหรือขาพาด เพื่อให้อยู่ในท่าที่เหมาะสม
  3. เน้นกระตุ้นให้ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือในการทำกิจวัตรประจำวัน หมั่นขยับแขนหรือขาช่วยเคลื่อนไหว เป็นการบริหาร กล้ามเนื้อ เพื่อป้องกันแผลกดทับ

 

การลงเตียง (Getting out of Bed)

  1. เลื่อนตัว หรือขยับตัวเล็กน้อย ตะแคงตัวและหันหน้าทางด้านที่จะลงเตียง
  2. ยกขาทั้ง 2 ข้างลงจากเตียง จากนั้นใช้แขนทั้ง 2 ข้างดันตัวขึ้น และลุกขึ้นมาอยู่ในท่านั่ง อาจมีผู้ดูแลประคองในช่วงแรก เพื่อความปลอดภัย
  3. ขยับตัวอยู่ในท่านั่ง ขาทั้ง 2 ข้างแตะพื้น จัดท่าให้เท้าวางราบกับพื้น
  4. ดันตัวลุกขึ้นยืน ใช้ Walker หรือมีผู้ดูแลประคองตัวให้ยืนขึ้นอย่างมั่นคง

 

การย้ายตัวลงนั่ง (Transfer Stand to Sit)

  1. เดินด้วย Walker หรือไม้ค้ำยัน เข้ามาที่เก้าอี้นั่ง
  2. ค่อย ๆ หมุนตัว โดยหันหลังให้ชิดกับเก้าอี้

       ในกรณีใช้ไม้ค้ำยัน ให้ใช้แขนด้านที่ถนัดพยุงไม้ค้ำยันไว้ ขณะเดียวกันมืออีกด้านนึง จับพนักพิงแขนเก้าอี้ หรือ ราวจับข้างโถชักโครกไว้

       ในกรณีใช้ Walker ใช้มือด้านใดด้านหนี่ง เอื้อมไปด้านหลังและจับพนักพิงแขนเก้าอี้ หรือ ราวจับข้างโถชักโครก ส่วนอีกข้างหนึ่งจับ Walker ไว้

       3. ย่อตัวลงนั่ง จัดท่านั่งให้มั่นคงและปลอดภัย

 

การสวมกางเกง

พิจารณาให้ใช้อุปกรณ์เสริมความยาวด้าม (Long-handle) หรือที่เอื้อมจับ (Reacher) ตามความเหมาะสม

  1. ใช้ขอจับหรือเกี่ยวบริเวณขอบกางเกงแล้วนำมาสวมเข้ากับขาด้านที่มีแรงน้อยกว่าก่อน ดึงขึ้นมาให้สูงระดับเหนือเข่า
  2. ค่อย ๆ ยกขาข้างที่มีแรงมากกว่าใส่ตามมา แล้วค่อยๆ ดึงขอบกางเกงให้ขึ้นมาเสมอระดับเหนือเข่า
  3. ใช้มือข้างเดียวกับขาข้างที่อ่อนแรงกว่ายกตัวขึ้นโดยลงน้ำหนักที่เท้าข้างที่มีแรงมากกว่า แล้วจึงใช้มือดึงขอบกางเกงขึ้นระดับเอว
  4. กางเกงสวมให้พอดีและจัดกางเกงให้เรียบร้อย

 

การนั่งอาบน้ำ

  1. เดินโดยใช้ Walker เมื่อถึงเก้าอี้นั่งอาบน้ำ ให้หันหลังเข้าชิดเก้าอี้นั่งอาบน้ำ
  2. เอื้อมมือด้านหนึ่งไปจับเก้าอี้ ในขณะที่อีกข้างจับ Walker
  3. ค่อยๆ ปล่อยมือจาก Walker
  4. ย่อตัวลงนั่งบนเก้าอี้นั่งอาบน้ำ โดยให้ขาข้างที่อ่อนแรงกว่าไปด้านหน้าและให้อยู่ในท่าตรง
  5. ค่อยๆ เลื่อนตัวเข้าไปนั่งให้มั่นคง และทำการอาบน้ำ

 

การนั่งชักโครก

  1. เดินโดยใช้ Walker เมื่อถึงชักโครก ให้หันหลังเข้าชิดโถชักโครก
  2. กรณีมีราวจับให้เอื้อมมือข้างที่ถนัดหรือด้านที่ใกล้ราวจับ จับให้มั่นคงในขณะที่อีกข้างจับ Walker
  3. ค่อย ๆ ย่อตัวลงนั่งบนโถชักโครก โดยให้ขาข้างที่อ่อนแรงกว่าเหยียดไปด้านหน้าและให้อยู่ในท่าตรง ขยับให้ก้นนั่งพอดีบนชักโครก และผ่อนคลาย

 

การขึ้นรถยนต์

  1. เปิดประตูรถให้กว้างที่สุด แล้วปรับเบาะนั่งให้เอนไปด้านหลังเล็กน้อย
  2. กรณี ใช้ Walker หรือไม้ค้ำยัน แล้วหันหลังให้เบาะนั่ง
  3. ใช้มือด้านที่ใกล้คอนโซลหน้ารถเอื้อมไปจับไว้ อีกด้านหนึ่งจับเบาะนั่งส่วนบนไว้
  4. ค่อยๆ ย่อตัวลงนั่ง โดยลงน้ำหนักขาด้านที่มีแรงมากกว่า ส่วนขาด้านที่อ่อนแรงกว่าให้เหยียดตรงแล้วค่อยๆ เคลื่อนไปด้านหน้า แล้วนั่งให้พอดีเบาะนั่ง
  5. ค่อยๆ ยกขาขึ้นรถทีละข้าง และขยับท่านั่งให้พอดีและปลอดภัย

 

ข้อควรปฏิบัติ

     หากรู้สึกเจ็บ ปวด บริเวณ ข้อต่อ หรือเนื้อเยื่อบริเวณที่มีการเคลื่อนไหว ควรกระตุ้นให้ผู้ป่วยออกแรงร่างกายด้านที่มีแรง ช่วยในการฝึกเคลื่อนไหวร่างกาย และควรปฏิบัติให้มีความต่อเนื่องทุกวัน

เพราะความสุขของเรา คือ การเห็นคุณกลับมามีสุขภาพที่ดีอีกครั้ง

 

 

 

 

ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูและกายภาพบำบัด ชั้น 3 โซน C


ค้นหาแพทย์

สาระสุขภาพ

ศูนย์รักษาโรคเฉพาะทาง