
เครื่องช่วยฟังคืออะไร ?
เครื่องช่วยฟัง คือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ทำหน้าที่ขยายเสียงต่างๆทั้งเสียงคำพูดและเสียงในสิ่งแวดล้อมเพื่อช่วยให้ผู้ที่ความบกพร่องทางการได้ยินสามารถได้ยินเสียงต่างๆได้ โดยสามารถปรับกำลังขยายให้เหมาะสมกับระดับการได้ยินของผู้ป่วยแต่ละรายได้
ประโยชน์ของเครื่องช่วยฟัง
- ช่วยในการสื่อสารกับผู้อื่น โดยผู้พูดไม่ต้องตะโกนหรือพูดเสียงดัง
- ช่วยกระตุ้นประสาทหูและสมอง ทำให้ประสาทหูและสมองเสื่อมช้าลง
- ช่วยให้การจับใจความดีขึ้น ในผู้ป่วยที่ใส่เครื่องช่วยฟังและฝึกฟังสม่ำเสมอ
ระบบของเครื่องช่วยฟัง
- ระบบอนาล็อค (Analog) เป็นการขยายเสียงแบบ linear คือขยายเสียงด้วยสัดส่วนที่เท่ากันทุกเสียง ทำให้มีข้อจำกัดในการฟังในที่มีเสียงรบกวนและเสียงที่มีความดังมาก
- ระบบดิจิทัล (Digital) เป็นการขยายเสียงแบบ non-linear โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการปรับ สามารถปรับลดเสียงรบกวนลงได้ ปัจจุบันเป็นที่นิยมใช้มากกว่าแบบอนาล็อค
รูปแบบของเครื่องช่วยฟัง
1. เครื่องช่วยฟังแบบกล่อง (Body aid) เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีสูญเสียการได้ยินระดับรุนแรงถึงหนวก เนื่องจากเป็นเครื่องช่วยฟังที่มีกำลังขยายสูง ปุ่มปรับมีขนาดใหญ่ หยิบจับง่าย
ข้อจำกัด
- เครื่องมีขนาดใหญ่ พกพาไม่สะดวก
- มีเสียงรบกวนจากการที่เครื่องช่วยฟังเสียดสีกับเสื้อผ้า
- เสียงไม่เป็นธรรมชาติ
2. เครื่องช่วยฟังแบบทัดหลังหู (Behind the ear/ BTE) มีกำลังขยายหลากหลาย เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีการสูญเสียการได้ยินทุกระดับ เครื่องมีขนาดกะทัดรัด หยิบจับง่าย เสียงเป็นธรรมชาติมากกว่าเครื่องช่วยฟังแบบกล่อง
ข้อจำกัด
- ถ่านที่ใช้เป็นถ่านเฉพาะของเครื่องช่วยฟัง มีขายเฉพาะที่ ไม่สามารถซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป และไม่สามารถใช้ถ่านนาฬิกาแทนได้
3. เครื่องช่วยฟังแบบทัดหลังหูขนาดเล็ก (Receiver in the canal/ RIC, Receiver in the ear/ RITE) เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่สูญเสียการได้ยินระดับเล็กน้อยถึงรุนแรง ขนาดค่อนข้างเล็กมองเห็นยาก
ข้อจำกัด
- ถ่านที่ใช้เป็นถ่านเฉพาะของเครื่องช่วยฟัง มีขายเฉพาะที่ ไม่สามารถซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป และไม่สามารถใช้ถ่านนาฬิกาแทนได้
- บางรุ่นอายุถ่านน้อย ต้องเปลี่ยนถ่านบ่อย
- รุ่นที่ชาร์จไฟได้มีราคาค่อนข้างสูง
4. เครื่องช่วยฟังแบบในช่องหู (In the ear/ ITE, In the canal/ ITC, Completely in canal/ CIC) เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่สูญเสียการได้ยินระดับเล็กน้อยถึงระดับมาก มี 3 ขนาดขึ้นอยู่กับระดับที่สูญเสียการได้ยิน ถ้าสูญเสียการได้ยินระดับมาก จำเป็นต้องใส่เครื่องแบบ ITE ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุด ถ้าสูญเสียการได้ยินเล็กน้อยถึงปานกลาง สามารถเลือกใส่แบบ ITC หรือ CIC ก็ได้
ข้อจำกัด
- ถ่านที่ใช้เป็นถ่านเฉพาะของเครื่องช่วยฟัง มีขายเฉพาะที่ ไม่สามารถซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป และไม่สามารถใช้ถ่านนาฬิกาแทนได้
- กำลังขยายจำกัดตามขนาดของตัวเครื่อง
- เครื่องมีขนาดเล็ก หยิบจับยาก หายง่าย
- ยิ่งขนาดเล็กอายุถ่านยิ่งน้อย ต้องเปลี่ยนถ่านบ่อย
ข้อบ่งชี้ในการเครื่องช่วยฟัง
- ไม่สามารถรักษาให้หายได้ด้วยยาหรือการผ่าตัด มีข้อห้ามในการผ่าตัดหรือปฏิเสธการผ่าตัด
- สิ้นสุดการรักษาของแพทย์แล้ว
- เป็นอุปสรรคต่อการสื่อสารและการดำรงชีวิตประจำวัน คุณภาพชีวิตลดลง
- เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาภาษาและการพูด
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์หู คอ จมูก ชั้น 3 โซน D
บทความโดย นักโสตสัมผัสวิทยา
เครื่องช่วยฟัง คือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ทำหน้าที่ขยายเสียงต่างๆทั้งเสียงคำพูดและเสียงในสิ่งแวดล้อมเพื่อช่วยให้ผู้ที่ความบกพร่องทางการได้ยินสามารถได้ยินเสียงต่างๆได้ โดยสามารถปรับกำลังขยายให้เหมาะสมกับระดับการได้ยินของผู้ป่วยแต่ละรายได้
ประโยชน์ของเครื่องช่วยฟัง
- ช่วยในการสื่อสารกับผู้อื่น โดยผู้พูดไม่ต้องตะโกนหรือพูดเสียงดัง
- ช่วยกระตุ้นประสาทหูและสมอง ทำให้ประสาทหูและสมองเสื่อมช้าลง
- ช่วยให้การจับใจความดีขึ้น ในผู้ป่วยที่ใส่เครื่องช่วยฟังและฝึกฟังสม่ำเสมอ
ระบบของเครื่องช่วยฟัง
- ระบบอนาล็อค (Analog) เป็นการขยายเสียงแบบ linear คือขยายเสียงด้วยสัดส่วนที่เท่ากันทุกเสียง ทำให้มีข้อจำกัดในการฟังในที่มีเสียงรบกวนและเสียงที่มีความดังมาก
- ระบบดิจิทัล (Digital) เป็นการขยายเสียงแบบ non-linear โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการปรับ สามารถปรับลดเสียงรบกวนลงได้ ปัจจุบันเป็นที่นิยมใช้มากกว่าแบบอนาล็อค
รูปแบบของเครื่องช่วยฟัง
1. เครื่องช่วยฟังแบบกล่อง (Body aid) เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีสูญเสียการได้ยินระดับรุนแรงถึงหนวก เนื่องจากเป็นเครื่องช่วยฟังที่มีกำลังขยายสูง ปุ่มปรับมีขนาดใหญ่ หยิบจับง่าย
ข้อจำกัด
- เครื่องมีขนาดใหญ่ พกพาไม่สะดวก
- มีเสียงรบกวนจากการที่เครื่องช่วยฟังเสียดสีกับเสื้อผ้า
- เสียงไม่เป็นธรรมชาติ
2. เครื่องช่วยฟังแบบทัดหลังหู (Behind the ear/ BTE) มีกำลังขยายหลากหลาย เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีการสูญเสียการได้ยินทุกระดับ เครื่องมีขนาดกะทัดรัด หยิบจับง่าย เสียงเป็นธรรมชาติมากกว่าเครื่องช่วยฟังแบบกล่อง
ข้อจำกัด
- ถ่านที่ใช้เป็นถ่านเฉพาะของเครื่องช่วยฟัง มีขายเฉพาะที่ ไม่สามารถซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป และไม่สามารถใช้ถ่านนาฬิกาแทนได้
3. เครื่องช่วยฟังแบบทัดหลังหูขนาดเล็ก (Receiver in the canal/ RIC, Receiver in the ear/ RITE) เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่สูญเสียการได้ยินระดับเล็กน้อยถึงรุนแรง ขนาดค่อนข้างเล็กมองเห็นยาก
ข้อจำกัด
- ถ่านที่ใช้เป็นถ่านเฉพาะของเครื่องช่วยฟัง มีขายเฉพาะที่ ไม่สามารถซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป และไม่สามารถใช้ถ่านนาฬิกาแทนได้
- บางรุ่นอายุถ่านน้อย ต้องเปลี่ยนถ่านบ่อย
- รุ่นที่ชาร์จไฟได้มีราคาค่อนข้างสูง
4. เครื่องช่วยฟังแบบในช่องหู (In the ear/ ITE, In the canal/ ITC, Completely in canal/ CIC) เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่สูญเสียการได้ยินระดับเล็กน้อยถึงระดับมาก มี 3 ขนาดขึ้นอยู่กับระดับที่สูญเสียการได้ยิน ถ้าสูญเสียการได้ยินระดับมาก จำเป็นต้องใส่เครื่องแบบ ITE ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุด ถ้าสูญเสียการได้ยินเล็กน้อยถึงปานกลาง สามารถเลือกใส่แบบ ITC หรือ CIC ก็ได้
ข้อจำกัด
- ถ่านที่ใช้เป็นถ่านเฉพาะของเครื่องช่วยฟัง มีขายเฉพาะที่ ไม่สามารถซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป และไม่สามารถใช้ถ่านนาฬิกาแทนได้
- กำลังขยายจำกัดตามขนาดของตัวเครื่อง
- เครื่องมีขนาดเล็ก หยิบจับยาก หายง่าย
- ยิ่งขนาดเล็กอายุถ่านยิ่งน้อย ต้องเปลี่ยนถ่านบ่อย
ข้อบ่งชี้ในการเครื่องช่วยฟัง
- ไม่สามารถรักษาให้หายได้ด้วยยาหรือการผ่าตัด มีข้อห้ามในการผ่าตัดหรือปฏิเสธการผ่าตัด
- สิ้นสุดการรักษาของแพทย์แล้ว
- เป็นอุปสรรคต่อการสื่อสารและการดำรงชีวิตประจำวัน คุณภาพชีวิตลดลง
- เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาภาษาและการพูด
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์หู คอ จมูก ชั้น 3 โซน D
บทความโดย นักโสตสัมผัสวิทยา