การผ่าตัดต่อมทอนซิล
ต่อมทอนซิล (Tonsils) เป็นกลุ่มของเนื้อเยื่อประเภทต่อมน้ำเหลือง มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ภายในต่อมทอนซิลมีเม็ดเลือดขาวหลายชนิดซึ่งมีหน้าที่หลักในการจับและทำลายเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกายทางระบบทางเดินอาหาร
ทอนซิลอักเสบ เป็นภาวะอักเสบของต่อมทอนซิล อาจเกิดจากการติดเชื้อไวรัสหรือเชื้อแบคทีเรีย ทำให้ผู้ป่วยมีอาการหนาวสั่น เจ็บคอโดยเฉพาะเวลากลืนอาหาร โดยปกติแพทย์จะรักษาตามอาการ เช่น ให้ยาบรรเทาอาการเจ็บคอ ยาลดน้ำมูก ยาลดไข้ ยาแก้อักเสบ เป็นต้น
การผ่าตัดต่อมทอนซิล (Tonsillectomy)
โดยทั่วไปแพทย์จะพิจารณาผ่าตัดต่อมทอนซิลในกรณีที่
- การรักษาด้วยยาไม่ได้ผล หรือเกิดการอักเสบปีละหลายๆ ครั้ง รบกวนต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของผู้ป่วย
- เมื่อต่อมทอนซิลโตมาก ทำให้เกิดการนอนกรน และ/หรือมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
- ผู้ป่วยที่แพทย์สงสัยว่าอาจเป็นมะเร็งของต่อมทอนซิล หรือมีมะเร็งที่ต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอ
- แพทย์จะทำการตัดต่อมทอนซิลออกทางปากโดยการดมยาสลบ ผู้ป่วยต้องงดน้ำ งดอาหารก่อนผ่าตัด 6 ชั่วโมง เพื่อป้องการสำลักอาหารลงปอดขณะดมยาสลบ
- ผู้ป่วยจะไม่มีแผลบริเวณลำคอด้านหน้า หลังการผ่าตัดอาจมีความรู้สึกเจ็บคอและมีแผลที่เยื่อบุลำคอทั้ง 2 ข้าง หลังการผ่าตัด 1 สัปดาห์อาการเจ็บแผลจะดีขึ้น และประมาณ 2-4 สัปดาห์หลังการผ่าตัดแผลจะหายเป็นปกติ
- หลังการผ่าตัดหากไม่มีเลือดออกและรับประทานอาหารได้ดี แพทย์จะนำสายน้ำเกลือออกและอนุญาตให้กลับบ้านได้ โดยแพทย์จะนัดตรวจแผลและฟังผลชิ้นเนื้อประมาณ 1 สัปดาห์หลังการผ่าตัด
**การผ่าตัดต่อมทอนซิลไม่ทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายหรือช่องปากลดลงแต่อย่างไร
การปฏิบัติตัวหลังผ่าตัดต่อมทอนซิล
ข้อควรปฏิบัติ
- ผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บคอและมีแผลด้านในคอทั้ง 2 ข้าง แผลอาจบวมและมีเลือดจางๆ ได้ ในช่วงแรกอาจจะกลืนอาหารลำบาก ควรรับประทานอาหารเหลวและเย็น เช่น นมเย็น โยเกิร์ต ไอศกรีม หากไม่มีอาการปวดแผลบริเวณที่ผ่าตัดแล้ว สามารถเปลี่ยนมารับประทานอาหารอ่อนๆ ที่ไม่มีกากได้ เช่น โจ๊กปั่น ข้าวต้มนิ่มๆ
- ผู้ป่วยบางรายอาจมีผนังช่องคอบวมทำให้การหายใจอึดอัด ควรนอนยกศีรษะสูง หากมีอาการบวมมากขึ้นและหายใจไม่สะดวกให้รีบมาพบแพทย์
ข้อควรหลีกเลี่ยง
- หลังการผ่าตัด 1 สัปดาห์ ควรหลีกเลี่ยงการไอแรงๆ การล้วงคอให้เสมหะออก การแปรงฟันลึกๆ ในช่องปาก การออกแรงมากและการยกของหนัก เพราะอาจทำให้มีเลือดออกได้
- หากมีเลือดออกให้ประคบเย็นที่บริเวณลำคอ นอนพักโดยยกศีรษะให้สูงร่วมกับอมน้ำเย็นประมาณ 10 นาที แล้วสลับด้วยการประคบเย็น หากเลือดออกไม่หยุดควรรีบไปพบแพทย์ทันที
- หลังการผ่าตัด 1 สัปดาห์ ไม่ควรรับประทานอาหารรสจัด หลีกเลี่ยงอาหารที่มีก้อนเนื้อชิ้นใหญ่หรืออาหารแข็ง เพราะอาจทำให้ไปครูดแผลผ่าตัด เกิดการติดเชื้อและมีเลือดออกตามมาได้
เตรียมตัวรับมือ เมื่อมีภาวะแทรกซ้อน
ภาวะแทรกซ้อนจากการดมยาสลบ
ผู้ป่วยบางรายอาจมีภาวะแทรกซ้อนจากการดมยาสลบและการใส่ท่อช่วยหายใจขณะดมยาสลบ เช่น ระคายคอ เจ็บในลำคอ เสียงแหบจากสายเสียงบวม แต่อาการจะดีขึ้นภายใน 2-3 วัน
ภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัด
- เลือดออกจากแผลผ่าตัด ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีก้อนเนื้อชิ้นใหญ่ อาหารที่มีรสจัด หรืออาหารแข็ง
- หายใจลำบาก เนื่องจากผนังลำคอบวมมาก ผู้ป่วยอาจต้องใส่ท่อช่วยหายใจหลังผ่าตัดไว้ระยะหนึ่ง แต่อาการ
- รับประทานอาหารได้น้อย หลังผ่าตัดผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บคอ กลืนอาหารหรือกลืนน้ำลายลำบาก ทำให้น้ำหนักลด หรือมีอาการขาดน้ำได้ อาจมีน้ำลายปนเลือดออกมาบ้างเล็กน้อย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ หู คอ จมูก ชั้น 3 โซน D
ต่อมทอนซิล (Tonsils) เป็นกลุ่มของเนื้อเยื่อประเภทต่อมน้ำเหลือง มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ภายในต่อมทอนซิลมีเม็ดเลือดขาวหลายชนิดซึ่งมีหน้าที่หลักในการจับและทำลายเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกายทางระบบทางเดินอาหาร
ทอนซิลอักเสบ เป็นภาวะอักเสบของต่อมทอนซิล อาจเกิดจากการติดเชื้อไวรัสหรือเชื้อแบคทีเรีย ทำให้ผู้ป่วยมีอาการหนาวสั่น เจ็บคอโดยเฉพาะเวลากลืนอาหาร โดยปกติแพทย์จะรักษาตามอาการ เช่น ให้ยาบรรเทาอาการเจ็บคอ ยาลดน้ำมูก ยาลดไข้ ยาแก้อักเสบ เป็นต้น
การผ่าตัดต่อมทอนซิล (Tonsillectomy)
โดยทั่วไปแพทย์จะพิจารณาผ่าตัดต่อมทอนซิลในกรณีที่
- การรักษาด้วยยาไม่ได้ผล หรือเกิดการอักเสบปีละหลายๆ ครั้ง รบกวนต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของผู้ป่วย
- เมื่อต่อมทอนซิลโตมาก ทำให้เกิดการนอนกรน และ/หรือมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
- ผู้ป่วยที่แพทย์สงสัยว่าอาจเป็นมะเร็งของต่อมทอนซิล หรือมีมะเร็งที่ต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอ
- แพทย์จะทำการตัดต่อมทอนซิลออกทางปากโดยการดมยาสลบ ผู้ป่วยต้องงดน้ำ งดอาหารก่อนผ่าตัด 6 ชั่วโมง เพื่อป้องการสำลักอาหารลงปอดขณะดมยาสลบ
- ผู้ป่วยจะไม่มีแผลบริเวณลำคอด้านหน้า หลังการผ่าตัดอาจมีความรู้สึกเจ็บคอและมีแผลที่เยื่อบุลำคอทั้ง 2 ข้าง หลังการผ่าตัด 1 สัปดาห์อาการเจ็บแผลจะดีขึ้น และประมาณ 2-4 สัปดาห์หลังการผ่าตัดแผลจะหายเป็นปกติ
- หลังการผ่าตัดหากไม่มีเลือดออกและรับประทานอาหารได้ดี แพทย์จะนำสายน้ำเกลือออกและอนุญาตให้กลับบ้านได้ โดยแพทย์จะนัดตรวจแผลและฟังผลชิ้นเนื้อประมาณ 1 สัปดาห์หลังการผ่าตัด
**การผ่าตัดต่อมทอนซิลไม่ทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายหรือช่องปากลดลงแต่อย่างไร
การปฏิบัติตัวหลังผ่าตัดต่อมทอนซิล
ข้อควรปฏิบัติ
- ผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บคอและมีแผลด้านในคอทั้ง 2 ข้าง แผลอาจบวมและมีเลือดจางๆ ได้ ในช่วงแรกอาจจะกลืนอาหารลำบาก ควรรับประทานอาหารเหลวและเย็น เช่น นมเย็น โยเกิร์ต ไอศกรีม หากไม่มีอาการปวดแผลบริเวณที่ผ่าตัดแล้ว สามารถเปลี่ยนมารับประทานอาหารอ่อนๆ ที่ไม่มีกากได้ เช่น โจ๊กปั่น ข้าวต้มนิ่มๆ
- ผู้ป่วยบางรายอาจมีผนังช่องคอบวมทำให้การหายใจอึดอัด ควรนอนยกศีรษะสูง หากมีอาการบวมมากขึ้นและหายใจไม่สะดวกให้รีบมาพบแพทย์
ข้อควรหลีกเลี่ยง
- หลังการผ่าตัด 1 สัปดาห์ ควรหลีกเลี่ยงการไอแรงๆ การล้วงคอให้เสมหะออก การแปรงฟันลึกๆ ในช่องปาก การออกแรงมากและการยกของหนัก เพราะอาจทำให้มีเลือดออกได้
- หากมีเลือดออกให้ประคบเย็นที่บริเวณลำคอ นอนพักโดยยกศีรษะให้สูงร่วมกับอมน้ำเย็นประมาณ 10 นาที แล้วสลับด้วยการประคบเย็น หากเลือดออกไม่หยุดควรรีบไปพบแพทย์ทันที
- หลังการผ่าตัด 1 สัปดาห์ ไม่ควรรับประทานอาหารรสจัด หลีกเลี่ยงอาหารที่มีก้อนเนื้อชิ้นใหญ่หรืออาหารแข็ง เพราะอาจทำให้ไปครูดแผลผ่าตัด เกิดการติดเชื้อและมีเลือดออกตามมาได้
เตรียมตัวรับมือ เมื่อมีภาวะแทรกซ้อน
ภาวะแทรกซ้อนจากการดมยาสลบ
ผู้ป่วยบางรายอาจมีภาวะแทรกซ้อนจากการดมยาสลบและการใส่ท่อช่วยหายใจขณะดมยาสลบ เช่น ระคายคอ เจ็บในลำคอ เสียงแหบจากสายเสียงบวม แต่อาการจะดีขึ้นภายใน 2-3 วัน
ภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัด
- เลือดออกจากแผลผ่าตัด ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีก้อนเนื้อชิ้นใหญ่ อาหารที่มีรสจัด หรืออาหารแข็ง
- หายใจลำบาก เนื่องจากผนังลำคอบวมมาก ผู้ป่วยอาจต้องใส่ท่อช่วยหายใจหลังผ่าตัดไว้ระยะหนึ่ง แต่อาการ
- รับประทานอาหารได้น้อย หลังผ่าตัดผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บคอ กลืนอาหารหรือกลืนน้ำลายลำบาก ทำให้น้ำหนักลด หรือมีอาการขาดน้ำได้ อาจมีน้ำลายปนเลือดออกมาบ้างเล็กน้อย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ หู คอ จมูก ชั้น 3 โซน D