
จ้องหน้าจอทั้งวัน เสี่ยง...ภาวะตาแห้ง
ตาแห้งเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้บ่อยๆ จนอาจกลายเป็นความเคยชิน เป็นภาวะที่มีปริมาณน้ำตาหล่อเลี้ยงผิวตาไม่เพียงพอ สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย อาการตาแห้งหากปล่อยให้เป็นบ่อยๆ อาจทำให้เป็นแผลที่กระจกตา กระจกตาไม่เรียบใส ผิวกระจกตาอักเสบ บางรายอาจร้ายแรงจนเกิดการติดเชื้อทำให้ตาบอดได้
สาเหตุของอาการตาแห้ง
- ใช้สายตาเป็นเวลานานๆ เช่น อ่านหนังสือ ใช้คอมพิวเตอร์
- มีการสร้างน้ำตาลดลงโดยเฉพาะในผู้สูงอายุ
- ใส่คอนแทคเลนส์เป็นเวลานาน หรือใช้คอนแทคเลนส์ที่ไม่มีคุณภาพ
- เป็นภูมิแพ้ที่ตา หนังตา หรือเยื่อตาอักเสบเรื้อรัง
- รับประทานยาบางชนิด เช่น ยาแก้แพ้ ยาคลายเครียด
- เคยทำเลสิก หรือผ่าตัดตา
- ผู้ที่มีปัญหาหลับตาไม่สนิท
- ดื่มน้ำน้อย
- อยู่ในบริเวณที่มีอากาศแห้ง ลมแรง เป็นเวลานาน
อาการตาแห้ง
- ระคายเคืองตา
- แสบตาเหมือนมีเศษฝุ่นอยู่ในตาตลอดเวลา
- ตาพร่ามัว
- น้ำตาไหล
- มีขี้ตาเป็นเมือกเหนียว
- อาจรู้สึกปวดหัว หรือปวดตา
การดูแลและป้องกันตาแห้ง
- หากจำเป็นต้องใช้สายตานานๆ ควรพักสายตาทุก 30 - 60 นาที ด้วยการหลับตา 1 - 2 นาที
- กะพริบตาบ่อยๆ ให้มีน้ำตาเคลือบตาตลอดเวลา
- หากรู้สึกระคายเคืองตา ควรหยอดน้ำตาเทียมเพื่อให้ความชุ่มชื่นแก่ดวงตา
- ไม่ควรใส่คอนแทคเลนส์นานเกิน 8 ชั่วโมงต่อวัน
- ผู้ที่รับประทานยาแก้แพ้เป็นประจำ อาจจำเป็นต้องใช้น้ำตาเทียมช่วย
- ดื่มน้ำมากๆ
- ควรสวมแว่นกันแดดหรือกันลม หากจำเป็นต้องอยู่ในบริเวณที่อากาศแห้ง ร้อน หรือมีลมพัดแรง
- รับประทานอาหารที่ช่วยบำรุงสายตา เช่น ผัก ผลไม้ ปลา หรืออาหารทะเลที่มีกรดไขมันที่จำเป็น หรือโอเมก้า-3
- ประคบตาด้วยน้ำอุ่น นวดและฟอกทำความสะอาดเปลือกตา เพื่อกำจัดเชื้อโรคและสิ่งสกปรกที่บริเวณรอบเปลือกตา ช่วยลดการเกิดต่อมไขมันเปลือกตาอุดตัน ซึ่งเป็นเหตุทำให้เปลือกตาอักเสบเรื้อรัง
หมายเหตุ กรณีที่ยังมีอาการตาแห้งบ่อยๆ หากไม่พบสาเหตุที่แน่ชัดหรืออาการไม่บรรเทาลง แนะนำให้รีบไปพบจักษุแพทย์เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้อง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คลิก!! ศูนย์ตา ชั้น 4 โซน A
ตาแห้งเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้บ่อยๆ จนอาจกลายเป็นความเคยชิน เป็นภาวะที่มีปริมาณน้ำตาหล่อเลี้ยงผิวตาไม่เพียงพอ สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย อาการตาแห้งหากปล่อยให้เป็นบ่อยๆ อาจทำให้เป็นแผลที่กระจกตา กระจกตาไม่เรียบใส ผิวกระจกตาอักเสบ บางรายอาจร้ายแรงจนเกิดการติดเชื้อทำให้ตาบอดได้
สาเหตุของอาการตาแห้ง
- ใช้สายตาเป็นเวลานานๆ เช่น อ่านหนังสือ ใช้คอมพิวเตอร์
- มีการสร้างน้ำตาลดลงโดยเฉพาะในผู้สูงอายุ
- ใส่คอนแทคเลนส์เป็นเวลานาน หรือใช้คอนแทคเลนส์ที่ไม่มีคุณภาพ
- เป็นภูมิแพ้ที่ตา หนังตา หรือเยื่อตาอักเสบเรื้อรัง
- รับประทานยาบางชนิด เช่น ยาแก้แพ้ ยาคลายเครียด
- เคยทำเลสิก หรือผ่าตัดตา
- ผู้ที่มีปัญหาหลับตาไม่สนิท
- ดื่มน้ำน้อย
- อยู่ในบริเวณที่มีอากาศแห้ง ลมแรง เป็นเวลานาน
อาการตาแห้ง
- ระคายเคืองตา
- แสบตาเหมือนมีเศษฝุ่นอยู่ในตาตลอดเวลา
- ตาพร่ามัว
- น้ำตาไหล
- มีขี้ตาเป็นเมือกเหนียว
- อาจรู้สึกปวดหัว หรือปวดตา
การดูแลและป้องกันตาแห้ง
- หากจำเป็นต้องใช้สายตานานๆ ควรพักสายตาทุก 30 - 60 นาที ด้วยการหลับตา 1 - 2 นาที
- กะพริบตาบ่อยๆ ให้มีน้ำตาเคลือบตาตลอดเวลา
- หากรู้สึกระคายเคืองตา ควรหยอดน้ำตาเทียมเพื่อให้ความชุ่มชื่นแก่ดวงตา
- ไม่ควรใส่คอนแทคเลนส์นานเกิน 8 ชั่วโมงต่อวัน
- ผู้ที่รับประทานยาแก้แพ้เป็นประจำ อาจจำเป็นต้องใช้น้ำตาเทียมช่วย
- ดื่มน้ำมากๆ
- ควรสวมแว่นกันแดดหรือกันลม หากจำเป็นต้องอยู่ในบริเวณที่อากาศแห้ง ร้อน หรือมีลมพัดแรง
- รับประทานอาหารที่ช่วยบำรุงสายตา เช่น ผัก ผลไม้ ปลา หรืออาหารทะเลที่มีกรดไขมันที่จำเป็น หรือโอเมก้า-3
- ประคบตาด้วยน้ำอุ่น นวดและฟอกทำความสะอาดเปลือกตา เพื่อกำจัดเชื้อโรคและสิ่งสกปรกที่บริเวณรอบเปลือกตา ช่วยลดการเกิดต่อมไขมันเปลือกตาอุดตัน ซึ่งเป็นเหตุทำให้เปลือกตาอักเสบเรื้อรัง
หมายเหตุ กรณีที่ยังมีอาการตาแห้งบ่อยๆ หากไม่พบสาเหตุที่แน่ชัดหรืออาการไม่บรรเทาลง แนะนำให้รีบไปพบจักษุแพทย์เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้อง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คลิก!! ศูนย์ตา ชั้น 4 โซน A