ตรวจมะเร็งต่อมลูกหมากแบบพุ่งเป้า MRI/Ultrasound Fusion Biopsy

มะเร็งต่อมลูกหมาก (Prostate Cancer) เป็นมะเร็งที่พบบ่อยเป็นอันดับต้น ๆ ในผู้ชายไทย และยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมะเร็งมักไม่แสดงอาการในระยะแรก แต่เมื่อมะเร็งขยายตัวมากขึ้นจะทำให้เกิดอาการอาการผิดปกติของระบบทางเดินกระเพาะปัสสาวะส่วนล่าง

การตรวจมะเร็งต่อมลูกหมาก สามารถทำได้หลายวิธี เช่น การคลำต่อมลูกหมาก หรือการตรวจเลือดหาค่า PSA (Prostatic Specific Antigen) ซึ่งเป็นการตรวจแบบดั้งเดิม หากผู้ป่วยมีค่า PSA สูงก็มีแนวโน้มอาจเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากได้ แต่ในปัจจุบันเทคโนโลยีทางการแพทย์ก้าวหน้ามากขึ้น จึงมีวิธีการตรวจที่ทำให้แพทย์สามารถวินิจฉัยมะเร็งต่อมลูกหมากได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้นและแม่นยำมากกว่าในอดีต เรียกว่า การตรวจมะเร็งต่อมลูกหมากด้วยวิธีแบบพุ่งเป้า (MRI/Ultrasound Fusion Biopsy)

ปัจจุบันศูนย์ทางเดินปัสสาวะ รพ.ศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ได้นำเทคโนโลยีการตรวจมะเร็งต่อมลูกหมากด้วยวิธีแบบพุ่งเป้า MRI/Ultrasound Fusion Biopsy มาให้บริการแก่ผู้ป่วยซึ่งต้องใช้แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญอย่างมาก

การตรวจนี้เป็นการใช้เทคโนโลยีภาพเอกซเรย์คลื่นแม่เหล็กสามมิติ พร้อมการทำอัลตราซาวนด์แบบ Real time ทำให้แพทย์มองเห็นรายละเอียด ตำแหน่งก้อนในต่อมลูกหมากชัดเจน เมื่อแพทย์เห็นภาพเอกซเรย์ได้ชัด ก็จะทำให้แพทย์ตรวจวินิจฉัยมะเร็งได้แม่นยำมากขึ้น ผู้ป่วยเข้าสู่การรักษาได้เร็ว ลดผลแทรกซ้อนลงได้มาก

วิธีนี้ยังมีข้อจำกัดสำหรับผู้ป่วยบางกลุ่ม ได้แก่ ผู้ป่วยที่มีโลหะอยู่ในร่างกาย เช่น เคยได้รับการผ่าตัดใส่ลิ้นหัวใจเทียมหรือข้อเทียมโลหะ เนื่องจากโลหะในร่างกายของผู้ป่วยจะไปรบกวนการทำงานของคลื่นแม่เหล็ก ทำให้ไม่สามารถสร้างภาพต่อมลูกหมากออกมาได้ รวมไปถึงผู้ป่วยที่รับประทานยาในกลุ่มยาละลายลิ่มเลือด ซึ่งหากจะเข้ารับการตรวจวินิจฉัยมะเร็งต่อมลูกหมาก โดยใช้ภาพเอกซเรย์คลื่นแม่เหล็ก ก็จะต้องหยุดรับประทานยาเหล่านั้นก่อนการทำหัตถการเป็นเวลาอย่างน้อย 7 วัน

ขึ้นชื่อว่ามะเร็งหากตรวจพบตั้งแต่เนิ่น ๆ จะสามารถรักษาให้หายได้ ดังนั้นการรีบมาพบแพทย์เมื่อมีอาการผิดปกติและตรวจหาสาเหตุเพื่อให้แพทย์ทำการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม จะส่งผลต่อการหายของโรครวมถึงคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ศูนย์ทางเดินปัสสาวะ ชั้น 4 โซน A

 

มะเร็งต่อมลูกหมาก (Prostate Cancer) เป็นมะเร็งที่พบบ่อยเป็นอันดับต้น ๆ ในผู้ชายไทย และยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมะเร็งมักไม่แสดงอาการในระยะแรก แต่เมื่อมะเร็งขยายตัวมากขึ้นจะทำให้เกิดอาการอาการผิดปกติของระบบทางเดินกระเพาะปัสสาวะส่วนล่าง

การตรวจมะเร็งต่อมลูกหมาก สามารถทำได้หลายวิธี เช่น การคลำต่อมลูกหมาก หรือการตรวจเลือดหาค่า PSA (Prostatic Specific Antigen) ซึ่งเป็นการตรวจแบบดั้งเดิม หากผู้ป่วยมีค่า PSA สูงก็มีแนวโน้มอาจเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากได้ แต่ในปัจจุบันเทคโนโลยีทางการแพทย์ก้าวหน้ามากขึ้น จึงมีวิธีการตรวจที่ทำให้แพทย์สามารถวินิจฉัยมะเร็งต่อมลูกหมากได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้นและแม่นยำมากกว่าในอดีต เรียกว่า การตรวจมะเร็งต่อมลูกหมากด้วยวิธีแบบพุ่งเป้า (MRI/Ultrasound Fusion Biopsy)

ปัจจุบันศูนย์ทางเดินปัสสาวะ รพ.ศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ได้นำเทคโนโลยีการตรวจมะเร็งต่อมลูกหมากด้วยวิธีแบบพุ่งเป้า MRI/Ultrasound Fusion Biopsy มาให้บริการแก่ผู้ป่วยซึ่งต้องใช้แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญอย่างมาก

การตรวจนี้เป็นการใช้เทคโนโลยีภาพเอกซเรย์คลื่นแม่เหล็กสามมิติ พร้อมการทำอัลตราซาวนด์แบบ Real time ทำให้แพทย์มองเห็นรายละเอียด ตำแหน่งก้อนในต่อมลูกหมากชัดเจน เมื่อแพทย์เห็นภาพเอกซเรย์ได้ชัด ก็จะทำให้แพทย์ตรวจวินิจฉัยมะเร็งได้แม่นยำมากขึ้น ผู้ป่วยเข้าสู่การรักษาได้เร็ว ลดผลแทรกซ้อนลงได้มาก

วิธีนี้ยังมีข้อจำกัดสำหรับผู้ป่วยบางกลุ่ม ได้แก่ ผู้ป่วยที่มีโลหะอยู่ในร่างกาย เช่น เคยได้รับการผ่าตัดใส่ลิ้นหัวใจเทียมหรือข้อเทียมโลหะ เนื่องจากโลหะในร่างกายของผู้ป่วยจะไปรบกวนการทำงานของคลื่นแม่เหล็ก ทำให้ไม่สามารถสร้างภาพต่อมลูกหมากออกมาได้ รวมไปถึงผู้ป่วยที่รับประทานยาในกลุ่มยาละลายลิ่มเลือด ซึ่งหากจะเข้ารับการตรวจวินิจฉัยมะเร็งต่อมลูกหมาก โดยใช้ภาพเอกซเรย์คลื่นแม่เหล็ก ก็จะต้องหยุดรับประทานยาเหล่านั้นก่อนการทำหัตถการเป็นเวลาอย่างน้อย 7 วัน

ขึ้นชื่อว่ามะเร็งหากตรวจพบตั้งแต่เนิ่น ๆ จะสามารถรักษาให้หายได้ ดังนั้นการรีบมาพบแพทย์เมื่อมีอาการผิดปกติและตรวจหาสาเหตุเพื่อให้แพทย์ทำการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม จะส่งผลต่อการหายของโรครวมถึงคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ศูนย์ทางเดินปัสสาวะ ชั้น 4 โซน A

 


ค้นหาแพทย์

สาระสุขภาพ

ศูนย์รักษาโรคเฉพาะทาง