การผ่าตัดด้วยวิธี PRK (Photorefractive keratectomy)

การผ่าตัดด้วยวิธี PRK (Photorefractive keratectomy) คือ การแก้ไขภาวะค่าสายตาผิดปกติด้วยเลเซอร์วิธีแรก ด้วยเทคนิคการลอกผิวกระจกตาชั้นนอกสุดออก แล้วจึงใช้เอ็กไซเมอร์เลเซอร์ (excimer laser) ยิงลงไปบนเนื้อกระจกตาด้านล่าง เพื่อปรับความโค้งของกระจกตา จากนั้นปิดกระจกตาด้วยคอนแทคเลนส์แบบไม่มีค่าสายตา เพื่อช่วยให้เนื้อเยื่อผิวกระจกตาสมานกันได้ดี

ขั้นตอนที่ 1 ใช้สารละลายแอลกอฮอล์เจือจางหยดลงบนกระจกตา เพื่อให้เซลล์ผิวกระจกตาชั้นนอกหลุดออกได้ง่าย

ขั้นตอนที่ 2 ใช้เครื่องมือสำหรับช่วยลอกผิวกระจกตาที่อยู่ชั้นนอกสุดออก

ขั้นตอนที่ 3 ปรับความโค้งกระจกตาด้วย Excimer laser

ขั้นตอนที่ 4 ปิดกระจกตาด้วยคอนแทคเลนส์แบบไม่มีค่าสายตาเพื่อลดความระคายเคืองจนกว่าผิวกระจกตาจะฟื้นฟูเป็นปกติ

ผู้ที่เหมาะกับการรักษา

  • ผู้มีค่าสายตาสั้นและเอียงรวมกัน และค่าสายตายาวตามกำเนิด
  • อายุ 20 - 50 ปี โดยมีค่าสายตาคงที่อย่างน้อย 1 ปี
  • ไม่มีโรคของกระจกตา เช่น โรคกระจกตาโก่ง โรคตาแห้งอย่างรุนแรง และโรคตาอย่างอื่นที่ส่งผลต่อการมองเห็น เช่น จอประสาทตาเสื่อม ต้อหินขั้นรุนแรง สายตาขี้เกียจ (Amblyopia)
  • ไม่มีโรคทางร่างกายที่มีผลต่อการหายของแผล เช่น โรคภูมิต้านตัวเอง โรครูมาตอยด์ โรคสะเก็ดเงิน รวมทั้งโรคเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลได้ไม่ดี
  • สตรีที่ไม่อยู่ระหว่างการตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร (หากมีประจำเดือนมาแล้ว 2 รอบสามารถทำได้)
  • ผู้ที่สุขภาพตาสมบูรณ์แข็งแรง โดยผ่านการตรวจวิเคราะห์สภาพตาจากจักษุแพทย์ 

ข้อดี

  • ทางเลือกการรักษาในผู้ที่มีกระจกตาบาง 
  • รักษาค่าสายตาสั้นและเอียงรวมกันไม่เกิน -8 Diopter ค่าสายตายาวตามกำเนิดไม่เกิน +5 Diopter
  • เหมาะสำหรับบางอาชีพ หรือผู้ที่เล่นกีฬาที่มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุที่ดวงตา เช่น นักบิน ตำรวจ ทหาร นักมวย
  • ผู้ที่มีประวัติกระจกตาถลอกง่าย เช่น กระจกตาถลอกกลับเป็นซ้ำ (Recurrent corneal erosion)

ข้อจำกัด

  • มีอาการแสบตา เคืองตา สู้แสงไม่ได้ น้ำตาไหล 
  • เวลาพักฟื้นนาน โดยประมาณ 5 - 7 วัน ที่ยังมีแผลที่กระจกตาและต้องมีการใส่คอนเทคเลนส์
  • มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในระหว่างที่ยังมีแผลที่กระจกตา
  • มีโอกาสเกิดฝ้าขาว (Haze) ที่กระจกตา

การปฏิบัติตัวหลังทำ PRK (Photorefractive Keratectomy)

  • ห้ามโดนน้ำเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์
  • ให้ใช้อุปกรณ์ทำความสะอาดที่ได้รับจากทางโรงพยาบาล เป็นเวลา 1 สัปดาห์แทนการล้างหน้า
  • งดการขยี้ตาและใช้ฝาครอบตาปิดขณะนอนหลับ 2 สัปดาห์
  • งดออกกำลังกายที่มีเหงื่อ 2 สัปดาห์ หากว่ายน้ำงด 1 เดือน ดำน้ำ 3 เดือน
  • หยอดยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด และต้องล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนหยอดยา
  • งดแต่งหน้าและครีมบำรุงบริเวณรอบดวงตา 2 สัปดาห์
  • สวมแว่นกันแดด เมื่อออกนอกอาคาร ประมาณ 1-3 เดือน เพื่อป้องกันฝุ่นละอองและแสงแดดที่อาจทำให้เกิดฝ้าบริเวณกระจกตาได้
  • ควรมาติดตามผลการรักษาตามแพทย์นัดหมาย

หมายเหตุ

หลังผ่าตัดเสร็จ แพทย์จะใส่คอนแทคเลนส์เพื่อปิดแผลไว้ประมาณ 4 วัน คนไข้สามารถใส่นอนและหยอดยาได้ตามปกติ หากแผลสมานเรียบร้อยดีแพทย์จะถอดคอนแทคเลนส์ออกให้

อาการที่อาจพบได้หลังจากผ่าตัด

หลังผ่าตัดอาจมีอาการเคืองตา แสบตา น้ำตาไหลได้ในช่วง 2-4 วันหลังทำการผ่าตัด ซึ่งสามารถทานยาแก้ปวด 1 เม็ด ทุก 4-6 ชั่วโมง หรือตามอาการ

ข้อมูลจาก : พญ.บัณฑิตา เลิศสุวรรณโรจน์
สอบถามช้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์รักษาสายตาผิดปกติ “The SiGHT by SiPH”ศูนย์ตา ชั้น 4 โซน A

บทความที่เกี่ยวข้อง

 

 การผ่าตัดด้วยวิธี PRK (Photorefractive keratectomy) คือ การแก้ไขภาวะค่าสายตาผิดปกติด้วยเลเซอร์วิธีแรก ด้วยเทคนิคการลอกผิวกระจกตาชั้นนอกสุดออก แล้วจึงใช้เอ็กไซเมอร์เลเซอร์ (excimer laser) ยิงลงไปบนเนื้อกระจกตาด้านล่าง เพื่อปรับความโค้งของกระจกตา จากนั้นปิดกระจกตาด้วยคอนแทคเลนส์แบบไม่มีค่าสายตา เพื่อช่วยให้เนื้อเยื่อผิวกระจกตาสมานกันได้ดี

ขั้นตอนที่ 1 ใช้สารละลายแอลกอฮอล์เจือจางหยดลงบนกระจกตา เพื่อให้เซลล์ผิวกระจกตาชั้นนอกหลุดออกได้ง่าย

ขั้นตอนที่ 2 ใช้เครื่องมือสำหรับช่วยลอกผิวกระจกตาที่อยู่ชั้นนอกสุดออก

ขั้นตอนที่ 3 ปรับความโค้งกระจกตาด้วย Excimer laser

ขั้นตอนที่ 4 ปิดกระจกตาด้วยคอนแทคเลนส์แบบไม่มีค่าสายตาเพื่อลดความระคายเคืองจนกว่าผิวกระจกตาจะฟื้นฟูเป็นปกติ

ผู้ที่เหมาะกับการรักษา

  • ผู้มีค่าสายตาสั้นและเอียงรวมกัน และค่าสายตายาวตามกำเนิด
  • อายุ 20 - 50 ปี โดยมีค่าสายตาคงที่อย่างน้อย 1 ปี
  • ไม่มีโรคของกระจกตา เช่น โรคกระจกตาโก่ง โรคตาแห้งอย่างรุนแรง และโรคตาอย่างอื่นที่ส่งผลต่อการมองเห็น เช่น จอประสาทตาเสื่อม ต้อหินขั้นรุนแรง สายตาขี้เกียจ (Amblyopia)
  • ไม่มีโรคทางร่างกายที่มีผลต่อการหายของแผล เช่น โรคภูมิต้านตัวเอง โรครูมาตอยด์ โรคสะเก็ดเงิน รวมทั้งโรคเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลได้ไม่ดี
  • สตรีที่ไม่อยู่ระหว่างการตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร (หากมีประจำเดือนมาแล้ว 2 รอบสามารถทำได้)
  • ผู้ที่สุขภาพตาสมบูรณ์แข็งแรง โดยผ่านการตรวจวิเคราะห์สภาพตาจากจักษุแพทย์ 

ข้อดี

  • ทางเลือกการรักษาในผู้ที่มีกระจกตาบาง 
  • รักษาค่าสายตาสั้นและเอียงรวมกันไม่เกิน -8 Diopter ค่าสายตายาวตามกำเนิดไม่เกิน +5 Diopter
  • เหมาะสำหรับบางอาชีพ หรือผู้ที่เล่นกีฬาที่มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุที่ดวงตา เช่น นักบิน ตำรวจ ทหาร นักมวย
  • ผู้ที่มีประวัติกระจกตาถลอกง่าย เช่น กระจกตาถลอกกลับเป็นซ้ำ (Recurrent corneal erosion)

ข้อจำกัด

  • มีอาการแสบตา เคืองตา สู้แสงไม่ได้ น้ำตาไหล 
  • เวลาพักฟื้นนาน โดยประมาณ 5 - 7 วัน ที่ยังมีแผลที่กระจกตาและต้องมีการใส่คอนเทคเลนส์
  • มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในระหว่างที่ยังมีแผลที่กระจกตา
  • มีโอกาสเกิดฝ้าขาว (Haze) ที่กระจกตา

การปฏิบัติตัวหลังทำ PRK (Photorefractive Keratectomy)

  • ห้ามโดนน้ำเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์
  • ให้ใช้อุปกรณ์ทำความสะอาดที่ได้รับจากทางโรงพยาบาล เป็นเวลา 1 สัปดาห์แทนการล้างหน้า
  • งดการขยี้ตาและใช้ฝาครอบตาปิดขณะนอนหลับ 2 สัปดาห์
  • งดออกกำลังกายที่มีเหงื่อ 2 สัปดาห์ หากว่ายน้ำงด 1 เดือน ดำน้ำ 3 เดือน
  • หยอดยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด และต้องล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนหยอดยา
  • งดแต่งหน้าและครีมบำรุงบริเวณรอบดวงตา 2 สัปดาห์
  • สวมแว่นกันแดด เมื่อออกนอกอาคาร ประมาณ 1-3 เดือน เพื่อป้องกันฝุ่นละอองและแสงแดดที่อาจทำให้เกิดฝ้าบริเวณกระจกตาได้
  • ควรมาติดตามผลการรักษาตามแพทย์นัดหมาย

หมายเหตุ

หลังผ่าตัดเสร็จ แพทย์จะใส่คอนแทคเลนส์เพื่อปิดแผลไว้ประมาณ 4 วัน คนไข้สามารถใส่นอนและหยอดยาได้ตามปกติ หากแผลสมานเรียบร้อยดีแพทย์จะถอดคอนแทคเลนส์ออกให้

อาการที่อาจพบได้หลังจากผ่าตัด

หลังผ่าตัดอาจมีอาการเคืองตา แสบตา น้ำตาไหลได้ในช่วง 2-4 วันหลังทำการผ่าตัด ซึ่งสามารถทานยาแก้ปวด 1 เม็ด ทุก 4-6 ชั่วโมง หรือตามอาการ

ข้อมูลจาก : พญ.บัณฑิตา เลิศสุวรรณโรจน์
สอบถามช้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์รักษาสายตาผิดปกติ “The SiGHT by SiPH”ศูนย์ตา ชั้น 4 โซน A

บทความที่เกี่ยวข้อง

 


ค้นหาแพทย์

สาระสุขภาพ

ศูนย์รักษาโรคเฉพาะทาง