
โรคมือ เท้า ปาก (hand-foot-and-mouth disease)
โรคมือ เท้า ปาก เกิดจากการติดเชื้อไวรัสกลุ่ม Human enteroviruses โดยเชื้อในกลุ่มนี้ที่พบบ่อยคือ Coxsackie virus และ Enterovirus เป็นโรคที่พบการระบาดได้บ่อยในช่วงฤดูฝน อากาศเย็นและชื้น กลุ่มเสี่ยงที่พบบ่อยคือเด็กทารกและเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ติดต่อโดยการสัมผัสกับน้ำมูก น้ำลาย ผื่น ตุ่มน้ำใส
การแพร่กระจายโรคมือ เท้า ปาก
มีได้ 2 ทางคือ การสัมผัสโดยตรงหรืออุจจาระของผู้ป่วยซึ่งมีเชื้อไวรัส อาจพบผู้ป่วยที่เกิดโรครุนแรงประมาณ 0.05% - 1% ในจำนวนผู้ป่วยทั้งหมด คือในผู้ป่วยทั้งหมด 2,000 – 10,000 ราย จะมีผู้ป่วยอาการรุนแรงอยู่เพียง 1 รายเท่านั้น
อาการแสดงที่พบบ่อยของโรคมือ เท้า ปาก
มีไข้ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ น้ำลายไหล มีตุ่มแผลในปากหรือในคอ ผื่นหรือตุ่ม (แดงหรือใส) ที่มือ เท้า ตามตัวหรือรอบทวารหนัก อาเจียน ถ่ายเหลว
ภาวะแทรกซ้อนอาจมีได้หลายระบบที่สำคัญ ได้แก่
- ระบบประสาทส่วนกลาง เช่น เยื่อบุสมองอักเสบ สมองอักเสบ แขนขาอ่อนแรงเฉียบพลัน เป็นต้น
- ระบบทางเดินหายใจและระบบไหลเวียนโลหิต เช่น ภาวะน้ำท่วมปอดเฉียบพลัน ภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน เป็นต้น
หากผู้ป่วยมีอาการดังต่อไปนี้ควรรีบกลับมาพบแพทย์ทันที
- ไข้สูง โดยเฉพาะมากกว่า 39 องศาเซลเซียส และนานกว่า 48 ชั่วโมง
- กระสับกระส่าย ร้องกวนตลอดเวลา
- อาเจียนบ่อยๆ รับประทานไม่ได้หรือรับประทานได้น้อยมาก
- มีอาการทางระบบประสาท ได้แก่ ซึม การกรอกตาที่ผิดปกติ กล้ามเนื้อกระตุก ชัก ไม่รู้สึกตัว ปวดศีรษะอย่างรุนแรง แขนขาอ่อนแรง
- ตัวลาย ซีด
- หอบเหนื่อย
คำแนะนำการดูแลเด็กโรคมือ เท้า ปาก ที่บ้าน
- แยกเด็กป่วยให้พักอยู่บ้าน/หยุดเรียน หลีกเลี่ยงการพาเด็กป่วยไปสถานที่ชุมชนจนกว่าตุ่มหรือผื่นแห้ง ประมาณ 7-10 วัน
- เช็ดตัวและให้ยาลดไข้ ยาอื่นๆ ตามที่แพทย์แนะนำ
- ให้อาหารอ่อน ย่อยง่าย รสไม่จัด และสามารถรับประทานของเย็นได้ แยกภาชนะในการดื่มน้ำและการรับประทานอาหาร
- ใช้ผ้า/ทิชชู่ ปิดปาก ปิดจมูกขณะไอ จาม ระมัดระวังในการทิ้งทิชชู่ รวมทั้งผ้าอ้อมสำเร็จรูปในถังขยะที่มีฝาปิดมิดชิด
- ล้างมือด้วยสบู่ทุกครั้งหลังสัมผัสผู้ป่วย และควรล้างมือบ่อยๆ ทำความสะอาดของเล่นที่อาจเอาเข้าปากหรือสัมผัสสารคัดหลั่งด้วยสบู่หรือผงซักฟอก แล้วนำไปผึ่งให้แห้ง
- มาตรวจตามที่แพทย์นัด หากมีอาการแย่ลง ควรรีบกลับมาพบแพทย์ก่อนเวลานัดหมาย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์เด็ก ชั้น 3 โซน E
โรคมือ เท้า ปาก เกิดจากการติดเชื้อไวรัสกลุ่ม Human enteroviruses โดยเชื้อในกลุ่มนี้ที่พบบ่อยคือ Coxsackie virus และ Enterovirus เป็นโรคที่พบการระบาดได้บ่อยในช่วงฤดูฝน อากาศเย็นและชื้น กลุ่มเสี่ยงที่พบบ่อยคือเด็กทารกและเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ติดต่อโดยการสัมผัสกับน้ำมูก น้ำลาย ผื่น ตุ่มน้ำใส
การแพร่กระจายโรคมือ เท้า ปาก
มีได้ 2 ทางคือ การสัมผัสโดยตรงหรืออุจจาระของผู้ป่วยซึ่งมีเชื้อไวรัส อาจพบผู้ป่วยที่เกิดโรครุนแรงประมาณ 0.05% - 1% ในจำนวนผู้ป่วยทั้งหมด คือในผู้ป่วยทั้งหมด 2,000 – 10,000 ราย จะมีผู้ป่วยอาการรุนแรงอยู่เพียง 1 รายเท่านั้น
อาการแสดงที่พบบ่อยของโรคมือ เท้า ปาก
มีไข้ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ น้ำลายไหล มีตุ่มแผลในปากหรือในคอ ผื่นหรือตุ่ม (แดงหรือใส) ที่มือ เท้า ตามตัวหรือรอบทวารหนัก อาเจียน ถ่ายเหลว
ภาวะแทรกซ้อนอาจมีได้หลายระบบที่สำคัญ ได้แก่
- ระบบประสาทส่วนกลาง เช่น เยื่อบุสมองอักเสบ สมองอักเสบ แขนขาอ่อนแรงเฉียบพลัน เป็นต้น
- ระบบทางเดินหายใจและระบบไหลเวียนโลหิต เช่น ภาวะน้ำท่วมปอดเฉียบพลัน ภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน เป็นต้น
หากผู้ป่วยมีอาการดังต่อไปนี้ควรรีบกลับมาพบแพทย์ทันที
- ไข้สูง โดยเฉพาะมากกว่า 39 องศาเซลเซียส และนานกว่า 48 ชั่วโมง
- กระสับกระส่าย ร้องกวนตลอดเวลา
- อาเจียนบ่อยๆ รับประทานไม่ได้หรือรับประทานได้น้อยมาก
- มีอาการทางระบบประสาท ได้แก่ ซึม การกรอกตาที่ผิดปกติ กล้ามเนื้อกระตุก ชัก ไม่รู้สึกตัว ปวดศีรษะอย่างรุนแรง แขนขาอ่อนแรง
- ตัวลาย ซีด
- หอบเหนื่อย
คำแนะนำการดูแลเด็กโรคมือ เท้า ปาก ที่บ้าน
- แยกเด็กป่วยให้พักอยู่บ้าน/หยุดเรียน หลีกเลี่ยงการพาเด็กป่วยไปสถานที่ชุมชนจนกว่าตุ่มหรือผื่นแห้ง ประมาณ 7-10 วัน
- เช็ดตัวและให้ยาลดไข้ ยาอื่นๆ ตามที่แพทย์แนะนำ
- ให้อาหารอ่อน ย่อยง่าย รสไม่จัด และสามารถรับประทานของเย็นได้ แยกภาชนะในการดื่มน้ำและการรับประทานอาหาร
- ใช้ผ้า/ทิชชู่ ปิดปาก ปิดจมูกขณะไอ จาม ระมัดระวังในการทิ้งทิชชู่ รวมทั้งผ้าอ้อมสำเร็จรูปในถังขยะที่มีฝาปิดมิดชิด
- ล้างมือด้วยสบู่ทุกครั้งหลังสัมผัสผู้ป่วย และควรล้างมือบ่อยๆ ทำความสะอาดของเล่นที่อาจเอาเข้าปากหรือสัมผัสสารคัดหลั่งด้วยสบู่หรือผงซักฟอก แล้วนำไปผึ่งให้แห้ง
- มาตรวจตามที่แพทย์นัด หากมีอาการแย่ลง ควรรีบกลับมาพบแพทย์ก่อนเวลานัดหมาย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์เด็ก ชั้น 3 โซน E