แนวคิดของศูนย์

บริการตรวจวิเคราะห์หาสาเหตุของโรคทุกระบบด้วยภาพถ่ายทางรังสีครอบคลุมการตรวจทางรังสีทั่วไป (Digital Radiography) และการตรวจพิเศษต่างๆ ประกอบด้วย Fluoroscopy, Ultrasound, Mammogram, Computer Tomography (CT), Magnetic resonance imaging (MRI) และให้บริการวินิจฉัยและรักษาด้วยรังสีร่วมรักษา (Angiogram) ประกอบด้วย Breast Intervention , Body Intervention (Vascular และ Non vascular ), Neuro Intervention โดยทีมรังสีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและบุคลากรที่มีความรู้ความชำนาญ ด้วยเครื่องมืออุปกรณ์ที่ทันสมัยและมีความละเอียดแม่นยำอย่างครบวงจรด้วยมาตรฐานระดับสากล

ศูนย์เอกซเรย์ โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์

บริการตรวจวิเคราะห์หาสาเหตุของโรคทุกระบบด้วยภาพถ่ายทางรังสีครอบคลุมการตรวจทางรังสีทั่วไป (Digital Radiography) และการตรวจพิเศษต่างๆ ประกอบด้วย Fluoroscopy, Ultrasound, Mammogram, Computer Tomography (CT), Magnetic resonance imaging (MRI) และให้บริการวินิจฉัยและรักษาด้วยรังสีร่วมรักษา (Angiogram) ประกอบด้วย Breast Intervention , Body Intervention (Vascular และ Non vascular ), Neuro Intervention โดยทีมรังสีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและบุคลากรที่มีความรู้ความชำนาญ ด้วยเครื่องมืออุปกรณ์ที่ทันสมัยและมีความละเอียดแม่นยำอย่างครบวงจรด้วยมาตรฐานระดับสากล

ศูนย์เอกซเรย์ โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์

บริการทางการแพทย์

เครื่องตรวจวินิจฉัยโรคด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า Magnetic Resonance Imaging (MRI)

เป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับตรวจอวัยวะภายในร่างกาย โดยอาศัยหลักการของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในการสร้างภาพ ซึ่งสามารถให้รายละเอียดภาพที่คมชัด และสามารถตรวจหาความผิดปกติของอวัยวะต่างๆ ได้อย่างดี การตรวจด้วยวิธีนี้จำเป็นต้องใช้เวลาประมาณ 45 นาที ถึง 1 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับอวัยวะที่ต้องการตรวจ

การตรวจเอ็มอาร์ไอดีอย่างไร

  • การตรวจด้วยวิธีนี้สามารถจำแนกคุณสมบัติของเนื้อเยื่อที่แตกต่างกันได้หลายแบบ และตรวจหาสิ่งผิดปกติในระยะแรกได้
  • ตรวจได้ทุกระนาบโดยไม่ต้องเคลื่อนย้ายหรือเปลี่ยนท่าผู้ป่วย
  • สามารถตรวจเนื้อเยื่ออ่อนที่อยู่ภายในกระดูกได้
  • ไม่มีรังสีเอ็กซ์ที่เป็นอันตรายแก่ร่างกาย ทำให้สามารถตรวจในผู้ป่วยที่ตั้งครรภ์ในช่วง 6 เดือน - 9 เดือนได้หากมีข้อบ่งชี้การส่งตรวจที่เหมาะสม โดยพยายามหลีกเลี่ยงการตรวจในระยะ 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์
  • สามารถทำการตรวจได้แม้เป็นโรคไตวายโดยไม่จำเป็นต้องฉีดสารทึบรังสี
  • โอกาสแพ้สารที่ใช้ในการตรวจ (Gadolinium) น้อยมาก เมื่อเทียบกับสารทึบรังสีที่ใช้ในการตรวจเครื่องเอกซ์เรย์คอมพิวเตอร์

วัตถุประสงค์ของการตรวจ เอ็ม อาร์ ไอ

  • ตรวจหาความผิดปกติของสมอง
  • ตรวจหาความผิดปกติของระบบกระดูกสันหลังและไขสันหลัง
  • ตรวจหาความผิดปกติของหลอดเลือดในสมองและลำตัว โดยไม่ต้องฉีดสารทึบรังสี
  • ตรวจหาความผิดปกติของเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ กระดูกส่วนต่างๆ รวมทั้งการฉีกขาดของกล้ามเนื้อ เส้นเอ็นบริเวณข้อกระดูก เช่น ข้อเข่า
  • ตรวจหาความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับอวัยวะในอุ้งเชิงกราน เช่น มดลูก ต่อมลูกหมาก และกระเพาะปัสสาวะ
  • ตรวจหาความผิดปกติต่างๆ บริเวณทรวงอก หัวใจ ช่องท้อง ท้องและเต้านมสตรี
  • การตรวจพิเศษอื่นทางเอ็ม อาร์ ไอ อื่นๆ เช่น MR Perfusion หรือ MR spectroscopy

ศูนย์เอกซเรย์ โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์

ศูนย์เอกซเรย์ โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์

เครื่องตรวจวินิจฉัยโรคเอกซ์เรย์คอมพิวเตอร์ (CT scan)

การตรวจ CT scan เป็นการตรวจหาความผิดปกติอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย ด้วยลำแสงเอกซ์ โดยฉายลำแสงเอกซ์ผ่านอวัยวะที่ต้องการตรวจในแนวตัดขวาง และให้คอมพิวเตอร์สร้างภาพ ภาพที่ได้จึงเป็นภาพตัดขวางส่วนที่ต้องการตรวจอย่างละเอียด โดยมีข้อบ่งชี้ของการตรวจดังนี้

  • ตรวจหาเนื้องอกในอวัยวะต่างๆ รวมทั้งตำแหน่งและขนาดของเนื้องอก
  • ตรวจหาการแพร่กระจายของเนื้องอกไปยังต่อมน้ำเหลืองที่อยู่ ใกล้เคียง
  • ตรวจดูการคั่งของเลือดในสมอง ช่องท้อง และอุ้งเชิงกราน
  • ตรวจหาความผิดปกติของหลอดเลือด เส้นเลือดโป่งพอง เส้นเลือดอุดตัน
  • ตรวจหาความผิดปกติของกระดูก ข้อต่อต่างๆ การหัก หลุด และการอักเสบ

ปัจจุบันการตรวจ CT scan แบ่งเป็น 4 ระบบคือ

  1. ระบบสมอง ได้แก่ การตรวจเอกซ์เรย์คอมพิวเตอร์ของสมอง ต่อมใต้สมอง ตา ต่อมน้ำลาย และคอ เป็นต้น ในการตรวจนี้ จะต้องฉีดสารทึบรังสีเข้าทางหลอดเลือดดำ เพื่อช่วยให้เห็นพยาธิสภาพของโรคชัดเจนขึ้น
  2. ระบบช่องท้องและทรวงอก ได้แก่ การตรวจเอกซ์เรย์คอมพิวเตอร์ภายในช่องท้องและอุ้งเชิงกราน การตรวจระบบนี้ ผู้ป่วยต้องดื่มสารทึบรังสี/น้ำเปล่า และ/หรือ สวนสารทึบรังสี/น้ำเปล่า เข้าทางทวารหนัก เพื่อแยกลำไส้ออกจากเนื้อเยื่ออื่นๆ ของช่องท้อง และ ในผู้ป่วยหญิงอาจต้องใส่ผ้าอนามัยชนิดสอดภายในช่องคลอด เพื่อแยกช่องคลอดออกจากเนื้อเยื่ออื่นๆ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของรังสีแพทย์
  3. ระบบกระดูก กล้ามเนื้อ ข้อต่อและกระดูกสันหลัง ซึ่งมักใช้ในการวินิจฉัยโรคเนื้องอกของกล้ามเนื้อ กระดูก หรือการอักเสบของข้อต่อต่างๆ และลักษณะทางกายวิภาคของกระดูกสันหลัง โดยสามารถให้การวินิจฉัยโรคกระดูกได้ดีกว่าการตรวจเอกซ์เรย์ทั่วไป
  4. ระบบหลอดเลือด ได้แก่ การตรวจเอกซ์เรย์คอมพิวเตอร์ของหลอดเลือดสมอง หลอดเลือดหัวใจ หลอดเลือดแดงใหญ่ หลอดเลือดแดงไต และหลอดเลือดแดงที่ขา เป็นต้น ซึ่งในการตรวจนี้จำเป็นต้องฉีดสารทึบรังสีเข้าทางหลอดเลือดดำ

ห้องตรวจและเครื่องมือทางการแพทย์

  • เอกซ์เรย์ทั่วไป (Digital Radiography)
  • เอกซ์เรย์และอัลตราซาวด์เคลื่อนที่ (Portable)
  • การตรวจวินิจฉัยและรังสีร่วมรักษา (Angiogram)
  • การตรวจพิเศษด้วยเครื่องมือต่างๆ ประกอบด้วย
    Fluoroscopy
    Ultrasound
    Mammogram
    Computer Tomography
    MRI

เครื่องตรวจวินิจฉัยโรคด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า Magnetic Resonance Imaging (MRI)

เป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับตรวจอวัยวะภายในร่างกาย โดยอาศัยหลักการของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในการสร้างภาพ ซึ่งสามารถให้รายละเอียดภาพที่คมชัด และสามารถตรวจหาความผิดปกติของอวัยวะต่างๆ ได้อย่างดี การตรวจด้วยวิธีนี้จำเป็นต้องใช้เวลาประมาณ 45 นาที ถึง 1 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับอวัยวะที่ต้องการตรวจ

การตรวจเอ็มอาร์ไอดีอย่างไร

  • การตรวจด้วยวิธีนี้สามารถจำแนกคุณสมบัติของเนื้อเยื่อที่แตกต่างกันได้หลายแบบ และตรวจหาสิ่งผิดปกติในระยะแรกได้
  • ตรวจได้ทุกระนาบโดยไม่ต้องเคลื่อนย้ายหรือเปลี่ยนท่าผู้ป่วย
  • สามารถตรวจเนื้อเยื่ออ่อนที่อยู่ภายในกระดูกได้
  • ไม่มีรังสีเอ็กซ์ที่เป็นอันตรายแก่ร่างกาย ทำให้สามารถตรวจในผู้ป่วยที่ตั้งครรภ์ในช่วง 6 เดือน - 9 เดือนได้หากมีข้อบ่งชี้การส่งตรวจที่เหมาะสม โดยพยายามหลีกเลี่ยงการตรวจในระยะ 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์
  • สามารถทำการตรวจได้แม้เป็นโรคไตวายโดยไม่จำเป็นต้องฉีดสารทึบรังสี
  • โอกาสแพ้สารที่ใช้ในการตรวจ (Gadolinium) น้อยมาก เมื่อเทียบกับสารทึบรังสีที่ใช้ในการตรวจเครื่องเอกซ์เรย์คอมพิวเตอร์

วัตถุประสงค์ของการตรวจ เอ็ม อาร์ ไอ

  • ตรวจหาความผิดปกติของสมอง
  • ตรวจหาความผิดปกติของระบบกระดูกสันหลังและไขสันหลัง
  • ตรวจหาความผิดปกติของหลอดเลือดในสมองและลำตัว โดยไม่ต้องฉีดสารทึบรังสี
  • ตรวจหาความผิดปกติของเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ กระดูกส่วนต่างๆ รวมทั้งการฉีกขาดของกล้ามเนื้อ เส้นเอ็นบริเวณข้อกระดูก เช่น ข้อเข่า
  • ตรวจหาความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับอวัยวะในอุ้งเชิงกราน เช่น มดลูก ต่อมลูกหมาก และกระเพาะปัสสาวะ
  • ตรวจหาความผิดปกติต่างๆ บริเวณทรวงอก หัวใจ ช่องท้อง ท้องและเต้านมสตรี
  • การตรวจพิเศษอื่นทางเอ็ม อาร์ ไอ อื่นๆ เช่น MR Perfusion หรือ MR spectroscopy

ศูนย์เอกซเรย์ โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์

เครื่องตรวจวินิจฉัยโรคเอกซ์เรย์คอมพิวเตอร์ (CT scan)

การตรวจ CT scan เป็นการตรวจหาความผิดปกติอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย ด้วยลำแสงเอกซ์ โดยฉายลำแสงเอกซ์ผ่านอวัยวะที่ต้องการตรวจในแนวตัดขวาง และให้คอมพิวเตอร์สร้างภาพ ภาพที่ได้จึงเป็นภาพตัดขวางส่วนที่ต้องการตรวจอย่างละเอียด โดยมีข้อบ่งชี้ของการตรวจดังนี้

  • ตรวจหาเนื้องอกในอวัยวะต่างๆ รวมทั้งตำแหน่งและขนาดของเนื้องอก
  • ตรวจหาการแพร่กระจายของเนื้องอกไปยังต่อมน้ำเหลืองที่อยู่ ใกล้เคียง
  • ตรวจดูการคั่งของเลือดในสมอง ช่องท้อง และอุ้งเชิงกราน
  • ตรวจหาความผิดปกติของหลอดเลือด เส้นเลือดโป่งพอง เส้นเลือดอุดตัน
  • ตรวจหาความผิดปกติของกระดูก ข้อต่อต่างๆ การหัก หลุด และการอักเสบ

ปัจจุบันการตรวจ CT scan แบ่งเป็น 4 ระบบคือ

  1. ระบบสมอง ได้แก่ การตรวจเอกซ์เรย์คอมพิวเตอร์ของสมอง ต่อมใต้สมอง ตา ต่อมน้ำลาย และคอ เป็นต้น ในการตรวจนี้ จะต้องฉีดสารทึบรังสีเข้าทางหลอดเลือดดำ เพื่อช่วยให้เห็นพยาธิสภาพของโรคชัดเจนขึ้น
  2. ระบบช่องท้องและทรวงอก ได้แก่ การตรวจเอกซ์เรย์คอมพิวเตอร์ภายในช่องท้องและอุ้งเชิงกราน การตรวจระบบนี้ ผู้ป่วยต้องดื่มสารทึบรังสี/น้ำเปล่า และ/หรือ สวนสารทึบรังสี/น้ำเปล่า เข้าทางทวารหนัก เพื่อแยกลำไส้ออกจากเนื้อเยื่ออื่นๆ ของช่องท้อง และ ในผู้ป่วยหญิงอาจต้องใส่ผ้าอนามัยชนิดสอดภายในช่องคลอด เพื่อแยกช่องคลอดออกจากเนื้อเยื่ออื่นๆ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของรังสีแพทย์
  3. ระบบกระดูก กล้ามเนื้อ ข้อต่อและกระดูกสันหลัง ซึ่งมักใช้ในการวินิจฉัยโรคเนื้องอกของกล้ามเนื้อ กระดูก หรือการอักเสบของข้อต่อต่างๆ และลักษณะทางกายวิภาคของกระดูกสันหลัง โดยสามารถให้การวินิจฉัยโรคกระดูกได้ดีกว่าการตรวจเอกซ์เรย์ทั่วไป
  4. ระบบหลอดเลือด ได้แก่ การตรวจเอกซ์เรย์คอมพิวเตอร์ของหลอดเลือดสมอง หลอดเลือดหัวใจ หลอดเลือดแดงใหญ่ หลอดเลือดแดงไต และหลอดเลือดแดงที่ขา เป็นต้น ซึ่งในการตรวจนี้จำเป็นต้องฉีดสารทึบรังสีเข้าทางหลอดเลือดดำ

ศูนย์เอกซเรย์ โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์

ห้องตรวจและเครื่องมือทางการแพทย์

  • เอกซ์เรย์ทั่วไป (Digital Radiography)
  • เอกซ์เรย์และอัลตราซาวด์เคลื่อนที่ (Portable)
  • การตรวจวินิจฉัยและรังสีร่วมรักษา (Angiogram)
  • การตรวจพิเศษด้วยเครื่องมือต่างๆ ประกอบด้วย
    Fluoroscopy
    Ultrasound
    Mammogram
    Computer Tomography
    MRI
business hours
เวลาทำการ
ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
(ผู้ป่วยนัดหมาย 07:00-21:00 น.)
Location
สถานที่ตั้ง
ชั้น 1 โซน D
Contact
ติดต่อ
โทร: 1474
กด 1
Search doctor
ค้นหาแพทย์
ศูนย์เอกซเรย์